ประกันยืนยันไม่คุ้มครองเก๋งไฟฟ้าพุ่งชนรถชาวบ้านและตำรวจ เพราะคนขับเสพยาไอซ์

คืบหน้าชายขับเก๋งไฟฟ้าชนดะ 6 คันรวด ล่าสุด ประกันพบตำรวจ พร้อมเผย ไม่คุ้มครองรถเก๋งไฟฟ้าคันต้นเหตุ เนื่องจากมีสารเสพติดในร่างกายขณะขับขี่ ส่วนคู่กรณีรถยนต์รถจักรยานยนต์ที่ได้รับความเสียหายประกันยืนยัน สามารถทำเรื่องเรียกค่าเสียหายได้ทุกคัน ซึ่งยังไม่สามารถประเมินได้


8 ก.ค. 66 เมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีว่า จากกรณีนายบวรวงศ์ อายุ 36 ปี ขับรถยนต์ไฟฟ้า ยี่ห้อ ออร่า กู๊ด สีเทา หมายเลขทะเบียน ขน 1000 ขอนแก่น พุ่งชนรถยนต์ของประชาชนและรถตำรวจสายตรวจ ได้รับความเสีย รวม 6 คัน เหตุเกิดเมื่อวานนี้ (7 ก.ค.) เวลาประมาณ 11.20 น.ที่ผ่านมา

โดยในส่วนของผู้ก่อเหตุพนักงานสอบสวนได้มีการสอบปากคำโดยละเอียดแล้ว ซึ่งผู้ต้องหาได้รับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา ซึ่งพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อฐานความผิดใน 5 ข้อหา ได้แก่ ขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนรถผู้อื่นเสียหาย ขับขี่รถประมาทหวาดเสียว ขับขี่รถชนแล้วหลบหนี ขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย เป็นผู้ขับขี่มีสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ในร่างกาย โดยผิดกฎหมาย โดยจะมีการนำตัวผู้ต้องหาฝากขังต่อศาลในช่วงบ่ายวันนี้ ทั้งนี้ในชั้นสอบสวน พนักงานสอบสวนได้มีการคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจและมีอัตราโทษสูง หากให้ประกันตัวเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี

พ.ต.อ.ปรีชา กล่าวอีกว่า ในส่วนของมูลค่าความเสียหาย ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ เนื่องจากมีผู้เสียหายหลายคนที่เป็นเจ้าของรถยนต์และเจ้าของทรัพย์สินที่ถูกผู้ต้องหาขับไปเฉี่ยวชน ซึ่งขณะนี้มีผู้เสียหายและบริษัทประกันภัยรถยนต์เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้วบางส่วน และอีกส่วนอยู่ระหว่างการนัดหมายมาเข้ามาพบพนักงานสอบสวน ตามเวลาที่ผู้เสียหายแต่ละคนสะดวก เนื่องจากผู้เสียบางคนยังติดเวลาทำงาน อย่างไรก็ตามจากการพูดคุยกับทางบิดาและมารดาของผู้ก่อเหตุ ก็ยินดีที่จะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในส่วนของรถยนต์ไฟฟ้า ยี่ห้อ ออร่า กู๊ด สีเทา หมายเลขทะเบียน ขน 1000 ขอนแก่น ที่นายบวรวงศ์ ผู้ก่อเหตุขับชน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดมาจอดไว้ที่ สภ.เมืองขอนแก่น ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่า สภาพด้านหน้าพังเสียหายอย่างหนัก โดยช่วงเช้าวันนี้ตัวแทนบริษัทประกันภัยรถยนต์ของนายบวรวงศ์ ได้เดินทางมาพบพบพนักงานสอบสวน โดยให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า รถยนต์คันก่อเหตุ ได้มีการทำประกันภัยชั้น1 ไว้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่คนขับเสพยาเสพติดแล้วไปขับรถชนได้รับความเสียหาย จะเข้าเงื่อนไขความคุ้มครองหรือไม่ ตัวแทนบริษัทประกันภัย ระบุว่า กรณีนี้จะไม่คุ้มครองรถยนต์คันนี้ แต่จะคุ้มครองคู่กรณี ซึ่งคู่กรณีที่รถยนต์เสียหายสามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทประกันภัยได้