"มัลลิกา" เอาจริง ลงชิงหัวหน้า ปชป. หวัง ปฏิรูปพรรคจริงจัง เชื่อถึงเวลาผู้หญิงนำทัพ ตามสัญลักษณ์พรรคพระแม่ธรณีบีบมวยผม เชื่อมคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่า
วันที่ 9 ก.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ หรือ ปชป. กล่าวก่อนเข้าร่วมประชุมประชุมใหญ่วิสามัญประจำปีพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ ว่า ยืนยันจะลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพราะครั้งนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ที่จะทำให้เห็นว่าเสรีภาพประชาธิปไตยที่แท้จริงอยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเรามีรากเหง้าและดำรงไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการลงสมัคร เราต้องการทำเรื่องปฏิรูปพรรคอย่างจริงจัง ถึงเวลาแล้วที่คนรุ่นใหม่จะได้มีการนำพาพรรคก้าวผ่านสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงให้ได้ ที่สำคัญการเป็นผู้นำจะต้องมีความเข้มแข็งทั้งจิตใจและการวางโครงสร้างและความร่วมมือต่างๆ ดังนั้นเชื่อมั่นว่า การที่เรามีเจตจำนงในการทำงาน มั่นใจว่าคนที่เป็นแฟนคลับของพรรคจะได้มีความมั่นอกมั่นใจ รวมถึงมีกำลังใจต่อสู้ “ลุกขึ้นมาเพื่อที่จะนำพาพรรคประชาธิปัตย์ก้าวข้ามสิ่งต่างๆ ไปด้วยกัน”
นางมัลลิกา ย้ำว่า จะไม่มีการถอนตัว และอยากสร้างปรากฏการณ์ว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีพระแม่ธรณีบีบมวยผม ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่จะมีผู้หญิงสัก 1 คน ไม่เพียงแต่การส่งชื่อไปในช่องทางต่างๆ แต่เราจะเอาจริงและจริงจังกับเรื่องนี้ พร้อมย้ำว่าไม่ได้ปรึกษาหารือกับใครเฉพาะเจาะจง เนื่องจากการปรึกษาหรือไม่ปรึกษาพรรคก็ไม่จำกัดเสรีภาพอยู่แล้ว ตนมีคุณสมบัติครบ ที่สำคัญคือ อยู่พรรคประชาธิปัตย์มาตั้งแต่ปี 2550กว่าๆ ทำงานให้พรรคมาโดยตลอด มั่นใจว่าศักยภาพของตนและทีมสามารถพลิกฟื้นประชาธิปัตย์ได้
"เราก็รู้ว่าสถานการณ์ค่อนข้างหนักและท้าทายมาก แต่ด้วยความที่พรรคประชาธิปัตย์ เราต้องก้าวผ่านจุดนี้ไปให้ได้เพื่อจะให้เกิดความยิ่งใหญ่ และจะนำประชาชนสามารถแก้วิกฤตสถานการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตการเมือง วิกฤตความเชื่อมั่น วิกฤตปากท้อง การแตกแยกทางความคิด ดิฉันมั่นใจว่า วิกฤตที่ใหญ่ที่สุดคือ วิกฤตของการแตกแยกทางความคิด ซึ่งเจนอย่างเรา อยู่ตรงกลางระหว่างเจนใหม่กับเจนเก่า ดังนั้นหากมีจุดที่เราเชื่อมได้ มีความทันสมัย และใช้รูปแบบเช่นการนำเอไอ และไอที มาปฏิรูปพรรคได้ เชื่อว่า เราจะฝ่าสถานการณ์นี้ไปให้ได้"
นางมัลลิกา ยังกล่าวอีกว่า ตนมีความมั่นใจในตัวเองอยู่แล้ว ว่าเราจะเป็นผู้หญิงคนเดียว ถ้าไม่มีการเสนอชื่อผู้หญิงคนอื่น และเรามีแผนปฏิรูปพรรคอย่างชัดเจนในการพาพรรคผ่านไปได้ และมั่นใจว่าสมาชิกพรรคจะเห็นจุดที่ต่างออกไป ไม่เหมือนเดิม โดยเฉพาะเรื่องการนำพาพรรคไปสู่ความยิ่งใหญ่ได้อย่างไรในอนาคต และเชื่อมประสานคนทุกรุ่นได้ จึงมั่นใจว่าเป็นแนวทางที่แปลกและแตกต่าง