จากกรณีครอบครัว นายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค อายุ 62 ปี ชาวเยอรมัน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่หายออกจากบ้าน พบเห็นครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 4 ก.ค.66 เวลา12.41 น. พร้อมรถเบนซ์ สีเทา ทะเบียน ญศ 7146 กรุงเทพฯ ขับไปทางถนนชัยพฤกษ์ ซอย 3 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ผู้สูญหายสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ และรองเท้าหุ้มส้นสีดำ

โดยครอบครัวประกาศหากผู้ใดพบเจอรถคันนี้จะให้รางวัล 100,000 บาท แต่หากพบตัวผู้สูญหายมีรางวัลให้ 3,000,000 บาท

ล่าสุด วันนี้พบรถเบนซ์จอดอยู่ที่ลานจอดรถ คอนโดแห่งหนึ่ง ซอยเขาน้อย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

แต่สภาพภายในรถเบนซ์ เจอร่องรอยผิดปกติ มีคราบหลายจุดภายในรถ

โดยพล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 บอกว่า นี่คือทิศทางสัญญาณที่ไม่ดี เนื่องจากว่านายฮันส์หายตัวไปแบบผิดปกติ โดยภายในรถพบว่ามีการนำน้ำยาบางชนิด มาทำความสะอาดที่เบาะนั่งทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รวมถึงคอนโซลรถ รวมถึงเกียร์ มีคราบรอยด่าง

ต่อมาตำรวจเชิญครอบครัวของนายฮันส์ มาดูรถที่พบ โดยยืนยันว่ารถคันดังกล่าว เป็นรถของนายฮันส์

ทีมข่าวช่อง8 ร่วมสังเกตุการณ์ การตรวจสอบรถเบนซ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจพฐ. จากการตรวจสอบพบคราบน้ำยาสีใส และสีฟ้าอยู่เต็มรถ ตั้งแต่พวงมาลัยรถ บริเวณเบาะที่นั่งทั้ง 2 ฝั่ง กระจกหน้ารถ และประตูฝั่งคนขับ โดยคราบดังกล่าวมีกลิ่นหอมคล้ายน้ำยาทำความสะอาดบางอย่าง แต่ยังไม่สามารถบ่งบอกได้ว่าเป็นน้ำยาอะไร โดยเจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างคราบดังกล่าวไปตรวจสอบแล้ว

ขณะเดียวกันทีมข่าว ได้พบกับนายเจมส์ (นามสมมุติ) เพื่อนสนิทของนายฮันส์ ซึ่งทราบว่า เป็นอดีตตำรวจของเยอรมัน เดินทางมาดูจุดที่พบรถด้วย โดยเจ้าตัวและแฟนสาว ไม่ขอให้ข้อมูลใดๆกับนักข่าวตอนนี้ พร้อมบอกว่า จะให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น

จากนั้นนายเจมส์ ได้พาตำรวจชุดสืบสวน ไปที่บ้านหลังหนึ่งภายในเมืองพัทยา โดยบ้านหลังดังกล่าว นายเจมส์ได้ให้ข้อมูลกับชุดสืบสวนว่า เป็นจุดที่นายฮันส์ เคยเดินทางมาที่บ้านพักหลังดังกล่าวก่อนหน้าจะเกิดเหตุ จากนั้นตำรวจปีนรถกระบะที่จอดอยู่ริมรั้วบ้านเพื่อตรวจสอบว่า บ้านหลังดังกล่าวมีคนอยู่หรือไม่จากนั้นได้ตะโกนเรียกเจ้าของบ้านให้ออกมาให้ข้อมูล

จากนั้นตำรวจได้เข้าไปพูดคุยกับเจ้าของบ้านประมาณ 30 นาที ก่อนจะเชิญตัวฝรั่งชายคนหนึ่งเสื้อสีฟ้าออกมาพูดคุยบริเวณสามแยกหน้าบ้าน โดยมีนายเจมส์และแฟนสาวนายเจมส์มายืนชี้จุดอะไรบางอย่าง ส่วนชายฝรั่งเสื้อสีฟ้า เบื้องต้นทราบว่า เป็นเพื่อนของนายเจมส์ แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดว่า ทั้งสองเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนายฮันส์หรือไม่อย่างไร จากนั้นตำรวจได้เชิญตัวชายฝรั่งเสื้อฟ้า และนายเจมส์ และแฟนสาวนายเจมส์ขึ้นรถไปกับชุดสืบ โดยพาตัวไปสอบปากคำที่ สภ.หนองปรือ ส่วนทั้งหมดจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปนายฮันส์หรือไม่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำ

ทีมข่าวได้พยายามสอบถาม นายเจมส์รวมถึงแฟนสาวนายเจมส์ ขณะเข้าให้ปากคำกับตำรวจที่โรงพักถึงรายละเอียดการหายตัวไปของนายฮันส์แต่ทั้ง 3 คน รวมถึงชายเสื้อฟ้ายังคงปิดปากเงียบ ยังไม่ได้ให้ข้อมูลใดๆกับทีมข่าว

และเมื่อย้อนดูภาพกล้องวงจรปิด ภายในร้านกาแฟ พบว่ามีคุณเพทาย หญิงต่างชาติ ซึ่งเป็นนายหน้า ซึ่งคาดว่าเพทายน่าจะอยู่บ้านหลังดังกล่าว ตำรวจจึงเชิญตัวมาสอบถามข้อมูล

เมื่อ 18.40 น. ตำรวจขอศาลออกหมายค้นบ้านต้องสงสัยอีกหลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านพักของนายเจมส์ เนื่องจากพบข้อมูลพบว่าคุณเพทาย ซึ่งเป้นนายหน้าอยู่กับนายฮันส์เป็นคนสุดท้าย เคยมาพักที่บ้านหลังนี้

โดยทีมข่าวช่อง8 เปิดข้อมูลสำคัญ เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2566 ซึ่งเป็นวันที่นายฮันส์หายตัว เมื่อ 11.54 น. นายฮันส์นั่งคุยกับนายหน้าชื่อเพทาย สุดท้ายเจอว่า นายหน้าซึ่งเป็นต่างชาติผู้หญิง ขับรถเชฟโรเลต ในช่วง 12.37 น. และเมื่อ12.41 น. โดยพบว่านายฮันส์ขับรถตามรถของนายหน้าออกไป

โดยตำรวจเชิญตัวนางเพทาย นายหน้าต่างชาติ มาสอบปากคำ โดยรถของเชฟโรเลตสีดำมีการเปลี่ยนล้อแม็กไม่เหมือนเดิม โดยล้อรถของเธอทั้ง 4 ล้อ ถูกเปลี่ยน ซึ่งไม่เหมือนกับที่พบในกล้องวงจรปิด เมื่อ 4 กรกฎาคม วันสุดท้ายที่นายฮันส์หายตัวไป

ทั้งนี้ ตำรวจได้นำเจ้าหน้าที่พิสูจน์เข้าตรวจสอบรถคันดังกล่าวแล้ว และจนถึงขณะนี้ นางเพทาย ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนายฮันส์

ทีมข่าวช่อง8 เดินทางไปที่ร้านกาแฟจุดที่นายฮันได้มานั่งกินกาแฟกับหญิงต่างชาตินายหน้าที่ดิน ชื่อนางเพทาย โดยพนักงานขายกาแฟได้ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ลูกค้าต่างชาติรายนี้เป็นลูกค้าประจำ ที่จะเดินทางมานั่งกินกาแฟที่ร้านอยู่เป็นประจำ มากินบ่อยเกือบปีแล้ว โดยในแต่ละเดือนจะเดินทางมากินประมาณ 2-3 ครั้งต่อเดือน ทุกครั้งที่มานั่งกิน มักจะมีเพื่อนมาด้วยไม่เกิน 1-2 คน แต่เท่าที่เห็นส่วนใหญ่แขกที่พามาจะไม่ค่อยซ้ำหน้ากันเท่าไหร่

พนักงานทุกคนในร้าน จะเรียก หญิงฝรั่งคนนี้ว่า "มาดาม" ซึ่งนิสัยใจคอของมาดาม ก็นิสัยดี เฟรนด์ลี่ และไม่เรื่องมาก ส่วนวันที่มาดาม มาคุยธุระกับนายฮันส์ ขณะนั้นตนเองไม่ได้อยู่ร้าน แต่เพื่อนที่เฝ้าร้านให้ข้อมูลว่า ก็มานั่งกินกาแฟกันปกติ มีการพูดคุยกันไม่นาน และขึ้นรถออกไป โดยนายฮันส์ที่หายตัวไป ตนเองทำงานที่ร้านมานาน ไม่เคยเห็นนายฮันส์เดินทางมากินกาแฟที่ร้าน

ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางสาวกี้ (นามสมมุติ) พยาน ให้เบาะแสกับตำรวจว่า ได้เห็นรถเบนซ์ของนายฮันส์ขับเข้ามาจอดเมื่อช่วงวันที่ 6-7 กรกฎาคม โดยขับมาจอดช่วงบ่ายๆ มีผู้หญิงได้ลงมาออกฝั่งประตูคนนั่ง และเดินออกจากลานจอดออกฝั่งคอนโดฯ ผู้หญิงคนนั้นที่ตนเองเห็น รูปร่างตัวเล็ก ผมยาวถึงเอว ผิวสีน้ำผึ้งสีแทน เป็นคนเอเชียแต่ไม่แน่ใจว่าคนไทยหรือไม่ ใส่แว่นตาดำ ใส่เสื้อเดรสสายเดี่ยวสีดำ แต่ตนเองไม่เห็นนายฮันส์ หรือคนขับรถลงจากรถ

โดยก่อนรถเบนซ์คันนี้จะขับเข้ามาจอด ตนเองไม่ได้สังเกตว่า รถคันใดขับนำ แต่รถเบนซ์ก่อนจะเลี้ยวเข้าลานจอดรถ รถคันนี้ได้ชะลอความเร็วคล้ายขับชมวิว จากนั้นตนเองก็เห็นรถคันนี้จอดอยู่ที่เดิม ไม่มีการเคลื่อนย้ายไปไหนอีกมา 3 วันแล้ว และเพิ่งมาทราบตอนเช้าว่าเป็นรถคันเดียวที่เป็นข่าวดังกำลังตามหา

ทีมข่าวช่อง8 ได้โทรศัพท์พูดคุยกับ น้องพิรญาณ์ น้องปาร์ตี้ ภรรยาของนายฮันส์ อายุ 24 ปี เธอได้ให้ข้อมูลทางโทรศัพท์กับทีมข่าวว่า กรณีที่มีพยานเห็น หญิงผิวสีเข้ม ตัวเล็ก ผมยาวถึงเอว ใส่แว่นดำลงจากรถเบนซ์ของสามี บริเวณลานจอดรถของสามี ยืนยันไม่ใช่ตนเองแน่นอน และสามีก็ไม่เคยไปที่คอนโดฯแถวนั้นด้วย เเละช่วงเวลาตามกล้องวงจรปิด ตนเองก็อยู่ที่บ้านกับญาติ รอนายฮันส์มารับตามที่นัดกันไว้แต่นายฮันส์ก็ไม่ได้มาตามนัด

โดยยอมรับว่าจนถึงตอนนี้ตนเองรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก ที่ล่าสุดพบสัญญาณโทรศัพท์ของสามีไปโผล่ที่อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเธอยืนยันว่าสามีของเธอไม่เคยเดินทางไปที่ชายแดนบริเวณนั้นแน่นอน เพราะสามีไม่ชอบเล่นการพนัน และทำอาชีพสุจริต และกลัวว่าสามีจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น

ส่วนที่ดินของสามีที่มีการนำเสนอข่าวไปว่ามีมูลค่ากว่า 100 ล้านบาทที่สมุย ยืนยันว่า ที่ดินของสามีไม่ได้มีมูลค่ามากขนาดนั้น อาจจะแค่ 10 กว่าล้าน และไม่ใช่เป็นที่ดินของสามีคนเดียว สามีเป็นเพียงหุ้นส่วนเท่านั้น

ส่วนเรื่องคดีเก่าของนายฮันส์สามี ที่ถูกจับกุมปี 61 ตอนนั้นตนเองยังไม่ได้เริ่มคบหากันนายฮันส์ และมาคบภายหลังได้ไม่นาน ซึ่งนานฮันส์ก็เคยเล่าให้ฟังและเคยสารภาพกับตนเองว่า จะไม่ทำอีกแล้ว

และตลอดระยะเวลาที่คบเกือบ 5 ปี สามีก็ไม่เคยไปมีผู้หญิงคนอื่น หรือ ทำพฤติกรรมแบบนั้นอีก มันเป็นเพียงเรื่องอดีตเท่านั้น อยากให้ทุกคนช่วยกันตามหาตัวสามีมากกว่าที่จะขุดคุ้ยเรื่องเก่าของสามีมาตอกย้ำซ้ำเติมครอบครัว

ส่วนเรื่องที่มีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสเรื่องรถ ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ตนเองได้จัดการให้เงินคนแจ้งเบาะแสไปแล้ว ส่วนเรื่องเงิน 3 ล้าน ยังเป็นไปตามที่ตนเองบอก หากเจอนายฮันส์ ใครแจ้งเบาะแส และยังมีขีวิตอยู่ เอาไปเลย 3 ล้านบาท

จากข้อมูลของเพจบิ๊กเกรียน พบว่า 18 ก.พ. นายฮันส์ เคยต้องคดีพาเด็กวัย 16 ปี ไปขายบริการ โดยตำรวจแจ้งข้อหาคบค้ามนุษย์ และวันนี้นายฮันส์หายตัวไป