"อ.นันทนา" ทำจดหมายเปิดผนึกถึง ส.ว. วอนร่วมเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่กับประชาชน ด้วยการโหวต "พิธา" นายกฯ

รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส คณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก ทำจดหมายเปิดผนึกถึง ส.ว. โดยโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมกับเขียนข้อความระบุว่า ในฐานะนักวิชาการที่จับตาการเมืองหลังเลือกตั้งอย่างมีความหวัง ที่จะเห็นประเทศไทยเปลี่ยนผ่านสู่ยุคประชาธิปไตยแบบอารยะ

ซึ่งสิ่งนี้จะไม่เป็นจริง หากไม่ได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกวุฒิสภา จึงขอส่งจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้มา เพื่อวิงวอนให้ท่าน ส.ว. ร่วมเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่กับประชาชนคนไทยทั้งประเทศ

ขณะที่ ข้อความในจดหมายระบุว่า

"เรียน ท่านสมาชิกวุฒิสภา ที่นับถือ

วันที่ 13 กรกฎาคมนี้ คือวันที่ท่านจะได้ใช้อำนาจตามตำแหน่ง ชี้ชะตาประเทศไทย การตัดสินใจลงมติของท่าน จะส่งผลอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศชาติ ประชาชน และตัวท่านเอง

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนน 14,438,851 คะแนน ได้ ส.ส. รวม 151 คน เป็นพรรคที่ชนะเลือกตั้งมาเป็นอันดับหนึ่ง จึงเป็นความชอบธรรม ที่จะได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามฉันทามติของประชาชน

ข้อกล่าวหาทั้งหลายต่อตัวนายพิธา ล้วนเป็นเพียง “ข้อกล่าวหา” ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบัน มาตรา 29 วรรคสอง บัญญัติไว้ว่า “ในคดีอาญาให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้ต้องหาหรือจำเลย ไม่มีความผิด และก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุด แสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้น เสมือนเป็นผู้กระทำผิดมิได้”

กรณีนายพิธา ยังไม่มีศาลใดพิพากษา หรือแม้แต่ประทับรับฟ้อง ย่อมถือว่า นายพิธา เป็นผู้บริสุทธิ์ จึงเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ ที่จะได้รับการลงมติให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

หากท่าน ส.ว.เลือกที่จะลงมติตามเจตจำนงของมหาชน โดยเห็นชอบให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี ประเทศก็จะเดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตยต่อไป ประชาชนย่อมยินดี ที่เสียงของพวกเขาได้รับการตอบสนอง ในฐานะเจ้าของประเทศ บ้านเมืองก็จะสงบสุข ไม่มีการเมืองบนท้องถนน

ตัวท่านเอง ก็จะได้รับการยกย่องว่าเป็นส.ว.ผู้กล้าหาญ มีจิตวิญญาณประชาธิปไตย เป็นอิสระจากระบบอุปถัมภ์ทั้งปวง ครอบครัวของท่านก็จะได้รับการยอมรับนับถือจากสังคม

ผิดจากนี้ ท่านอาจตกเป็นจำเลยของสังคม ในข้อหา เป็นผู้ขัดขวางกระบวนการประชาธิปไตยของประชาชน

ท่านเลือกได้ ที่จะให้ประวัติศาสตร์จดจำชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของท่าน ในฐานะ วีระบุรุษประชาธิปไตย ที่สังคม

จะยกย่องสรรเสริญตลอดไป หรือจะเป็นโมฆบุรุษ ที่จะถูกสังคมประณาม ตราบชีวิตจะหาไม่

ท่าน ส.ว.ทั้งหลายโปรดตระหนักว่านี่คือช่วงเปลี่ยนผ่านของประเทศไทย สู่ยุคประชาธิปไตยแบบอารยะ เป็นช่วงเวลา ประวัติศาสตร์ ที่ท่านร่วมสร้างให้แก่ชาวไทยทั้งประเทศ การลงมติของท่าน จะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ที่ลูกหลานจะกล่าวขาน แซ่ซ้องตราบนานเท่านาน

ด้วยความเชื่อมั่นและศรัทธา รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส”