เกิดเหตุการณ์ลูกจ้างโหดใช้สายหม้อหุงข้าวรัดคอนางอวยพรอายุ 63 ปี เจ้าของบ้านอย่างโหดเหี้ยม ทำให้เสียชีวิตภายในบ้านพักเนื่องจากคุณยายต่อสู้กับคนร้ายไม่ได้เพราะอายุมากแล้ว ทราบชื่อคนร้าย นายฟัยชอน
โดยบ้านหลังนี้เพียงคนเดียว ส่วนตนและพี่อีกคน ไปทำงาน และก่อนที่จะพบศพแม่ ญาติข้างบ้าน ได้โทรศัพท์ไปบอกว่า ไม่เห็นแม่ออกจากบ้าน และแอร์ในห้องก็เปิดอยู่ จึงรีบเดินทางมาที่บ้าน เมื่อเปิดประตูเข้าบ้านไปช่วง 18.45 น. ก็พบศพแม่นอนเสียชีวิตอยู่แล้ว และเมื่อพังประตูห้องนอนเข้าไปดู ก็พบว่า ข้าวของในห้องนอนเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่มีร่องรอยรื้อค้น แต่เมื่อตรวจกล้องวงจรปิดในบ้าน กลับพบว่า แม่ถูกชายคนหนึ่ง ใช้สายไฟหม้อหุงข้าว รัดคอแม่แล้วลากไปห้องโถงกลางบ้าน
ล่าสุดเช้าวันนี้ ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พร้อมตำรวจชุดสืบสวน สภ.สะบ้าย้อย เข้าตรวจสอบหาพยานหลักฐานในบ้านที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง
นอกจากนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้หลักฐานจากกล้องวงจรปิดข้างบ้านฝั่งตรงข้ามบ้านที่เกิดเหตุ บันทึกภาพชาย รูปร่างผอม สูง สวมใส่เสื้อสีแดง ยืนพิงกำแพงบ้านที่เกิดเหตุ จากนั้นนางอวยพรเดินถือแกลลอนน้ำมัน สีข้าว มาจากโรงจอดรถที่อยู่ข้างบ้าน ยื่นให้กับชายที่ยืนอยู่ แล้วเดินเข้าไปในบ้าน ช่วงดังกล่าว เหมือนมีการพูดคุยอะไรกันบางอย่าง แล้วนางอวยพร ก็เดินไปเดินมาอยู่บริเวณระเบียงหน้าบ้าน ส่วนชายสวมเสื้อสีแดง เดินตามเข้าไปในบ้าน แล้วหยุดอยู่บริเวณประตูที่จะเข้าไปภายในบ้าน ก่อนจะเดินออกมาไปยังโรงรถข้างบ้าน จากนั้นไม่นาน ชายคนนี้ ก็เดินย้อนกลับเข้าไปในบ้านเป็นเวลานาน ซึ่งคาดว่าช่วงดังกล่าว เป็นจังหวะที่คนร้ายลงมือก่อเหตุ ก่อนที่ช่วงค่ำเมื่อวานนี้( 9 ก.ค.66) ลูกชายของนางอวยพร จะมาพบว่าแม่ถูกฆ่าเสียชีวิตแล้ว
ตรวจสอบพบว่าเครื่องตัดหญ้า 2 เครื่อง ทรัพย์สินกระเป๋าเงิน โทรศัพท์มือถือ เครื่องตัดหญ้า 1 เครื่อง พร้อมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮา รุ่นฟีโน สีเขียว 1 คัน หายไป
ล่าสุดวันนี้ 10 กรกฎาคม 2566 ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมาที่ สภ.สะบ้าน้อย จ.สงขลา ได้พบกับลูกชายของผู้เสียชีวิต ซึ่งมาให้การกับตำรวจในวันนี้นั้น
หลังจากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับนายบี ลูกชายผู้เสียชีวิต ซึ่งเจ้าตัวให้สัมภาษณ์สั้นๆ เนื่องจากรีบเดินทางไปรับศพ โดยเผยว่า คนก่อเหตุเป็นลูกจ้างที่มาตัดหญ้าในสวนยางพาราให้แม่ของตัวเอง ซึ่งตัวเองไม่รู้จักคนก่อเหตุเป็นการส่วนตัว ส่วนแม่จะอยู่บ้านคนเดียว โดยยอมรับว่าเหตุการณ์ครั้งนี้โหดร้ายมาก จากนั้นลูกคนตาย ก็รีบเดินทางไปรับศพผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล มอ.หาดใหญ่
นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับนางทิพย์ ภรรยาเจ้าของร้านจำนำ และเป็นคนที่เจอคนร้าน ตอนมาจำนำเครื่องตัดหญ้า บอกกับทีมข่าวว่า เมื่อนี้เวลาประมาณ 1 ทุ่ม ผู้ก่อเหตุ และเพื่อน ได้เอาเครื่องตัดหญ้ามาจำนำที่ร้านของตัวเอง แต่ตอนนั้นสามีไม่อยู่บ้าน ตัวเองจึงโทรวิดีโอคอลหาสามี เพื่อให้สามีคุยกับผู้ก่อเหตุ จนกระทั่งสามีตกลงรับจำนำเครื่องตัดหญิา กับนายฟัยซอน ในราคา 1,400 บาท โดยผู้ก่อเหตุและเพื่อนอยู่ที่ร้านตัวเองประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่เขาจะขับรถออกไปจากร้าน
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางตา (นามสมมติ) ลูกพี่ลูกน้องของผู้เสียชีวิต และมีบ้านที่อยู่ตรงข้ามกัน เล่าให้ฟังว่า ตัวเองเห็นนางอวยพรผู้ตายจ้างนายฟัยซอน ผู้ก่อเหตุมาตัดหญ้าที่สวนยางพาราได้ประมาณ 3 วันก่อนเกิดเหตุ ซึ่งตอนนั้นตัวเองก็ยังรู้สึกไม่ดีเลยว่า ทำไมอวยพรต้องจ้างชายคนนี้มา เพราะหน้าตาเขาดู ไม่น่าไว้ใจเหมือนคนติดยา
กระทั้งเมื่อวานนี้ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 13.00 น. ของเมื่อวานนี้ (9 กรกฎาคม 2566)ตัวเองก็เห็นผู้ก่อเหตุ ตอนนั้นสวมเสื้อแดง มาที่บ้านผู้ตาย และคุยกันเรื่องตัดหญ้าตามปกติ แล้วผู้ก่อเหตุก็มีการเดินเข้าออกบ้านคนตายตามปกติ ส่วนยายอวยพร ก็มีเอาแกนลอนออกมาให้ผู้ก่อเหตุ แต่หลังจากนั้นตัวเองไม่เห็นเหตุการณ์ คาดว่าคนก่อเหตุจะก่อเหตุหลังจากนั้น
กระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น. ตัวเองได้ยินเสียงแอร์ดังมาจากบ้านคนตาย มาถึงบ้านตัวเอง เสียงดังมาก ตัวเองจึงโทรศัพท์ไปหาลูกชายคนเล็กของผู้เสียชีวิต ว่าให้มาดูที่บ้านหน่อย
เวลาประมาณ 18.00 น. ของเมื่อวาน ลูกชายคนเล็กของผู้เสียชีวิต จึงกลับมาที่บ้าน ก็พบว่าประตูบ้านปิดอยู่ จากนั้นลูกชายของผู้เสียชีวิตจึงใช้เท้าถีบประตูเข้าไป จนไปพบร่างของผู้เสียชีวิตนอนหมดสติอยู่ในห้องครัว ซึ่งตอนนั้นก็คิดว่าผู้เสียชีวิตเป็นลม กระทั่งไปเจอสายไฟรัดอยู่ที่คอ ลูกชายของผู้เสียชีวิตจึงเปิดกล้องวงจรปิดดู ก็พบลูกจ้างคนที่ผู้ตายเพิ่งจ้างมา ก่อเหตุฆาตกรรมนางอวยพร ก่อนได้ทรัพย์สินไปหลายอย่าง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่ารู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นคนนิสัยดี เค้าจะไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าวคนเดียว เนื่องจากลูกชายทั้งสองคนไปทำงานอยู่ต่างพื้นที่
ตัวเองอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้จับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว และให้เขาได้รับโทษประหารชีวิต
ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้มาพูดคุยกับนายสม (นามสมมติ) เจ้าของร้านรับจำนำ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 18.40 น. มีชาย 2 ราย (คนฆ่าเสื้อม่วง เพื่อนคนฆ่าเสื้อแดง) ได้นำเครื่องตัดหญ้า 1 อัน มาจำนำที่ร้านตัวเอง แต่ตัวเองไม่อยู่บ้าน ภรรยาของตัวเอง จึงโทรวีดีโอคอลหาตัวเอง จากนั้นตัวเองก็ได้คุยกับ ชายคนดังกล่าวทางวิดีโอคอล ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเขาคือผู้ก่อเหตุ แล้วตัวเองก็ตรวจดูสภาพเครื่องตัดหญ้า ว่าควรให้ราคาเท่าไหร่ กระทั้งให้ราคาไป 1,400 บาท จากนั้นทั้ง 2 คน ก็ขับรถออกจากบ้านตัวเองไป
จากนั้นเวลาประมาณ 1 ทุ่มกว่า ๆ ตัวเองถึงมาทราบว่า คุณยายอวยพร เสียชีวิต และคนที่ก่อเหตุคือชายเสื้อม่วงคนที่มาจำนำเครื่องตัดหญ้าที่บ้านตัวเอง ยอมรับว่าตัวเองรู้สึกตกใจมาก
กระทั่งเวลาเที่ยงคืนของเมื่อคืนนี้ตำรวจมาที่บ้านตัวเองเพื่อจะขอดูกล้อง เบาะแสที่คนร้ายมาจำนำของที่บ้านตัวเอง ซึ่งจังหวะที่ตำรวจและลูกชายคนตายมาที่บ้านตัวเองนั้น จู่ๆผู้ก่อเหตุและเพื่อนก็ขับรถมอเตอไซค์ผ่านไป โดยคาดว่าตอนนั้น เขาขับผ่านมาเพื่อจะเอารถกระบะของคุณยายอวยพร กระทั้งตำรวจเห็นคนก่อเหตุ แล้วรีบขับรถตามไป จนสามารถจับกุมเพื่อนคนก่อเหตุได้ 1 คน คือคนที่พาคนก่อเหตุมาจำนำเครื่องตัดหญ้า ส่วนคนก่อเหตุหลบหนีไปได้
สำหรับคนก่อเหตุ เคยมาจำนำของที่ร้านตัวเองมาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อหลายเดือนมาแล้ว
ขณะที่เวลา 18.00 น. วันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สอบปากคำนางสาวหนูนา นามสมมติ ภรรยาของผู้ก่อเหตุกระทั่งเวลา 19.00 น. หลังจากสอบปากคำเสร็จ นางหนูนา ภรรยาผู้ก่อเหตุ เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ช่วงเช้าของเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นก่อเกิดเหตุ นายฟัยซอน ผู้ก่อเหตุ ได้พาตัวเองไปหาหมอตามปกติ เพราะตัวเองเพิ่งคลอดลูกได้ 2 เดือน
กระทั้งช่วงบ่าย สามีก็ออกไปจากบ้าน แล้วก็ไม่กลับเข้ามาบ้านอีกเลย จนกระทั้งตัวเองมาทราบจากตำรวจว่าสามีไปฆ่ารัดคอ และชิงทรัพย์นายจ้าง ยอมรับว่าตกใจมาก หลังจากเกิดเหตุ ตัวเองก็ติดต่อไม่ได้เลย
ส่วนปมก่อเหตุ ตัวเองไม่รู้ว่ามาจากเรื่องอะไร เพราะสามีไม่เคยมาเล่าให้ตัวเองฟัง ว่าเขามีปัญหาอะไรกับนายจ้าง ส่วนทรัพย์สินที่สามีไปก่อเหตุชิงทรัพย์มานั้น เขาก็ไม่ได้เอามาให้ตัวเองแต่อย่างใด
ตัวเองไม่รู้ว่าสามีเสพยาเสพติดหรือไม่ แต่ยอมรับว่าครอบครัวของตัวเองฐานะค่อนข้างยากจน แต่ไม่เคยสนับสนุนให้สามรไปกก่อเหตุแบบนี้