นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า จากที่มีการเสนอข่าวเกี่ยวกับการประมูลนาฬิกาจากกรมศุลกากร ภายหลังพบว่าเป็นนาฬิกาปลอมเครื่องหมายการค้า กรมศุลกากรจึงออกคำสั่งยกเลิกการประมูลและให้คืนเงินให้กับผู้เข้าร่วมประมูลทั้งหมด โดยในส่วนของกรมศุลกากรจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วนต่อไป

เบื้องต้นมีการยืนยันมาแล้วว่าเป็นของปลอม 4 เรือน ซึ่งในส่วนนี้จะเร่งคืนเงินให้กับผู้เสียหายภายในวันนี้ (10 ก.ค.) ส่วนที่เหลือหลังจากนี้จะเร่งคืนเงินมัดจำให้ผู้ประมูลทั้งหมด

ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ไปคุยกับนายแบงค์ คนที่ไปประมูลนาฬิกาหรู มาจากกรมศุลกากร เปิดเผยกับทีมข่าวของเราว่า สาเหตุที่ไปประมูลเพราะมั่นใจว่า หน่วยงานที่ดูแลกำกับเรื่องการขายของปลอมต้องไม่เอาของปลอมมาขาย ที่สำคัญคือทางกรมศุลมีเอกสารรับรอง

ในเอกสาร ระบุว่า มีนาฬิกา 14 รายการ ที่ตรวจยึดมาได้ พบ รายการที่14 เป็นของปลอม ซึ่งไม่ถูกนำมาประมูลอยู่แล้ว

ส่วนรายการที่ 1 - 13 ได้มีผู้รับมอบอำนาจจากบริษัทนาฬิกาหรู เช่น ปาเต๊ะ โรเล็กซ์ ริชาร์ด มิล เป็นต้น มาตรวจแล้วยืนยันว่าเป็นของจริงแต่ลงวันที่ไว้คือ 8 สิงหาคม 2565 ซึ่งเป็นเอกสารจากทางราชการที่น่าเชื่อถือได้

แต่พอไปประมูลจริง ซึ่งนายแบงค์ประมูลมาทั้งหมดสองเรือน คือรายการที่ 2 ริชาร์ด มิล ราคา 4,567,890 บาท และอีกเรือน คือ รายการที่11 ยี่ห้อ โรเลกซ์ ราคา 635,909 บาท รวมมูลค่ากว่า 5 ล้าน พี่ชายตัวเองซึ่งอยู่ในกลุ่มเล่นนาฬิกาด้วยก็บอกว่ารู้สึกแปลกแปลกดูเหมือนไม่ใช่ของจริง แต่ถึงตอนนั้นยังไงก็ต้องประมูลออกมาเพราะมิฉะนั้นจะเสียเงินค่ามัดจำและโดยส่วนตัวก็ยังเชื่อมั่นในระบบราชการว่ากรมศุลกากรยังไงก็ไม่เอาของปลอมมาขายให้เสียชื่อ

พอออกมาจากการประมูล ก็นำนาฬิกาทั้งสองเรือนที่ประมูลมาได้ไปให้ร้านนาฬิกาตรวจสอบให้ ซึ่งปรากฏว่าสองร้านแรกไม่รับตรวจสอบ ในวงการนาฬิการู้กันว่าการที่ร้านไม่รับตรวจสอบเท่ากับว่าเป็นของปลอม แต่ก็ยังไม่เชื่อว่ากรมศุลกากรจะเอาของปลอมมาขายวันรุ่งขึ้นจึงไปตรวจอีกสองร้านร้านยืนยันว่าเป็นของปลอมตามที่ปรากฏในคลิปวิดีโอนี้

หลังจากที่ทราบแน่ชัดว่าเป็นของปลอม จึงพยายามติดต่อไปที่กรมศุลกากร ตอนนั้นยอมรับว่าเครียดมากว่าจะคืนได้หรือไม่ เพราะตามสัญญาการประมูลระบุว่า ห้ามมีการนำสินค้ามาคืน ในตอนนั้นหลังติดต่อกรมศุลกากรแล้วก็ยังอ้างว่าขอไปตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญของกรมศุลกากรก่อนว่าเป็นของปลอมจริงหรือไม่ จนสุดท้ายมีผู้ประมูลรายอื่นไปร้องเรียนจนเป็นกระแสข่าวทางกรมศุลกากรจึงออกมายอมรับ

ตอนนี้นายแบงค์ยอมรับว่าเครียดและรู้สึกไม่สบายใจเพราะก่อนหน้านี้ก็เคยประมูลนาฬิกาหรูมูลค่าหลายล้านบาทจากกรมศุลกากรมาไว้ก่อนแล้ว ประมาณสี่ถึงห้าเรือน ซึ่งก็ยังไม่แน่ใจว่าที่เคยประมูลมาได้ก่อนหน้านี้จะเป็นของจริงหรือของปลอมคงต้องนำไปตรวจสอบกันอีกรอบนึง

ตอนนี้หลังเป็นกระแสข่าวตัวเองได้รับเงินคืนจากกรมศุลกากรทั้งหมดแล้ว ซึ่งเป็นเงินจำนวนเต็มที่จ่ายไปทั้งหมด ไม่ได้มีการมอบค่าชดเชยส่วนต่างที่เสียเวลาไปประมูลรวมถึงค่าที่นำนาฬิกาไปตรวจ แต่โดยส่วนตัวก็ไม่ได้อยากเรียกร้องอะไรเพิ่มเติมจากกรมศุลกากร ขอเพียงแค่ว่าอย่านำนาฬิกาปลอมแบบนี้มาประมูลอีก

แฉประมูลริชาร์ด มิลล์-โลเล็กซ์เก๊ 5 ล้านจากกรมศุลฯ ทวงเงินคืนสุดอืด อธิบดีขอโทษทีมพลาด