สะเทือนวงการการเมืองอย่างมาก เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศวางมือทางการเมือง โดยโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยระบุว่า "วันนี้ (11 ก.ค.66) นายประยุทธ์ จันทร์โอชาได้โฑสต์แจ้งข่าวผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก วางมือจากการเมือง โดยมีข้อความว่า "พ่อแม่พี่น้องประชาชนคนไทยที่เคารพรัก และสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติทุกท่าน
ผมต้องขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่พี่น้องประชาชนได้ให้การสนับสนุนพรรครวมไทยสร้างชาติและผม ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ผ่านมา จนทำให้ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบเขตเลือกตั้งของเรา ได้รับเลือกตั้งเป็นจำนวน 23 คน และเรายังได้รับการสนับสนุนในการเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติอีกถึง 4,766,408 เสียง จากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่มาใช้สิทธิ 38,057,074 คน หรือร้อยละ 12.52 สูงเป็นอันดับสามของประเทศ ทำให้เรามีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่ออีก 13 คน รวมทั้งสิ้น 36 คน ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนไม่น้อยสำหรับพรรคการเมืองที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่
การที่ผมตัดสินใจเข้ามาเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น เพราะผมต้องการร่วมสร้างพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อให้เป็นพรรคการเมืองที่มีคุณภาพ มีอุดมการณ์ที่แข็งแกร่ง มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเป็นหลักให้กับบ้านเมืองต่อไปในอนาคต
ช่วงเวลาที่ผมได้ร่วมเดินทางกับพรรคไปพบปะพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ผมได้รับฟังข้อคิดเห็นของสมาชิกพรรคและประชาชนที่ให้การสนับสนุนอย่างล้นหลาม ผมสัมผัสได้ถึงความเข้าใจ ความเห็นอกเห็นใจ และความเชื่อมั่นในตัวผมตลอดมา ผมรู้สึกซาบซึ้งอย่างยิ่ง และเป็นประสบการณ์ที่ผมจะไม่มีวันลืม
ผมเชื่อว่าทุกท่านทราบดีว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเก้าปีเศษ ผมในฐานะนายกรัฐมนตรี ได้ทำงานอย่างมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างเต็มกำลัง เพื่อปกป้องรักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเพื่อประโยชน์ของประชาชนอันเป็นที่รักยิ่ง และสิ่งเหล่านี้กำลังผลิดอกออกผลให้กับประเทศชาติโดยส่วนรวม ผมได้ใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดในการที่จะทำให้ประเทศชาติแข็งแกร่งขึ้นในทุกๆ ด้าน มีเสถียรภาพ มีความสงบ และฟันฝ่าอุปสรรคทั้งในประเทศและต่างประเทศ จนมีความสำเร็จก้าวหน้าเป็นรูปธรรมหลายๆ ด้าน อาทิ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทั้งทางด้านคมนาคม ขนส่ง การสื่อสาร เครือข่ายอินเตอร์เน็ต สาธารณูปโภค การเร่งรัดการลงทุนจากต่างประเทศในพื้นที่เศรษฐกิจต่างๆ การสนับสนุนการวิจัยพัฒนา การจัดหาที่ดินทำกิน การจัดระบบการบริหารจัดการน้ำเพื่อให้มีน้ำใช้และบรรเทาการเกิดอุทกภัย การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลในการอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนทั้งการทำมาค้าขาย การใช้ชีวิตประจำวัน และการรับบริการจากภาครัฐ การต่อสู้กับการระบาดของโรคไวรัสโควิด๑๙ จนได้รับการยอมรับจากนานาชาติว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบบการบริหารจัดการโรคอุบัติใหม่ที่ดีที่สุดในโลก การแก้ไขสิ่งที่เป็นปัญหาต่อการค้าการลงทุนมายาวนาน เช่น การค้ามนุษย์ การทำประมงผิดกฎหมาย การรักษามาตรฐานกิจการการบิน ตลอดจนการดูแลประชาชนอย่างเป็นระบบอย่างทั่วถึงด้วยความเป็นธรรมกับทุกกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มประชาชนผู้เปราะบาง มีรายได้น้อย เด็ก คนชรา คนพิการ เป็นต้น ซึ่งผมได้บริหารราชการแผ่นดินอย่างเต็มความสามารถ ระมัดระวังการใช้จ่ายงบประมาณซึ่งเป็นภาษีของพี่น้องประชาชน ให้ถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย วินัยการเงินการคลัง มาโดยตลอด
เหล่านี้เป็นสิ่งที่ผมในฐานะนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลได้ทำให้กับประเทศชาติและประชาชนตลอดเก้าปีเศษที่ผ่านมา ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลต่อไปจะดำเนินการพัฒนาต่อไป
จากนี้ไป ผมขอประกาศวางมือทางการเมือง ด้วยการลาออกจากสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ และขอให้หัวหน้าพรรค กรรมการบริหาร และสมาชิกพรรคได้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองด้วยอุดมการณ์ที่แข็งแกร่ง ปกป้องรักษาสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และดูแลพี่น้องประชาชนชาวไทยต่อไป และขอให้พี่น้องประชาชนให้ความไว้วางใจสนับสนุนการทำงานของพรรครวมไทยสร้างชาติต่อไปด้วย ขอขอบพระคุณครับ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา"
โดยวันนี้ท่าทางพล.อ.ประยุทธ์ แหงนมองท้องฟ้า แล้วบอกกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ท้องฟ้าสวยงาม เมื่อถามว่าฟ้าหลังฝน มีอะไรดีๆใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า การเมืองเป็นเรื่องกระบวนการ เป็นเรื่องการเมือง วันนี้เป็นการประชุมปกติ
เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเรื่องอื่นๆ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า ก็เป็นไปตามข่าว แล้วก็เดินจากไป
โดยภายหลังจากที่พล.อ.ประยุทธ์ประกาศวางมือทางการเมือง ปรากฏว่าติดเทรนด์ทวิตเตอร์ด้วย
ขณะที่นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วยทีมโฆษกพรรค ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมกรรมการบริหารพรรคถึงกรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลาออกจาก การเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า ในเรื่องของพลเอกประยุทธ์ ขอแจ้งกับสื่อมวลชน ซึ่งเรื่องนี้ตนมีโอกาสพูดคุยกับพลเอกประยุทธ์ รวมถึงนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค และผู้บริหารของพรรค บางส่วนไปแล้ว ซึ่งพลเอกประยุทธ์ ได้แสดงจุดยืนเหมือนเช่นที่แถลงข่าว ว่าต้องการวางมือทางการเมือง ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติขอบคุณพลเอกประยุทธ์ เนื่องจากเป็นส่วนสำคัญ มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนภารกิจ การเมืองก่อนการเลือกตั้ง และได้ร่วมวางรากฐานที่มั่นคงให้กับพรรค ซึ่งจะเป็นต้นทุนสำคัญในการขับเคลื่อนงานการเมืองต่อไปในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น ส.ส.ทั้งหมด 36 ที่นั่ง หรือเสียงโหวตจากพี่น้องประชาชนทั่วทั้งประเทศ หรือเป็นต้นทุนที่พลเอกประยุทธ์ ได้ให้ไว้กับพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเรายืนยันจะสานต่อภารกิจทางการเมือง ด้วยอุดมการณ์ที่แน่วแน่มั่น ปกป้องสถาบันเสาหลักของประเทศชาติ ตามเจตนารมณ์ของพลเอกประยุทธ์ต่อไป ถึงแม้ว่าจะวางมือทางการเมือง แต่พรรครวมไทยสร้างชาติยืนยันกับประชาชนว่าเราจะเดินหน้าสานต่อภารกิจทางการเมือง ด้วยอุดมการณ์ที่แน่วแน่มั่นคง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าพลเอกประยุทธ์ ประกาศวางมือทางการเมืองแล้วได้บอกหรือไม่ว่าจะไปทำอะไรต่อ นายเอกนัฏ กล่าวว่าสำหรับตนอยากให้พลเอกประยุทธ์ได้พัก เพราะใน ขณะที่เป็นนายกรัฐมนตรี ตนเชื่อว่าได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดกำลัง จนถึงวินาทีสุดท้าย จนกว่ารัฐบาลชุดใหม่จะเข้าปฏิญาณตน ซึ่งพลเอกประยุทธ์ ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด จากนี้ไปตนหวังว่าพลเอกประยุทธ์ จะได้พักผ่อนบ้าง
เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะมีการขอคำแนะนำจากพลเอกประยุทธ์อีกหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า สมาชิกของพรรครวมไทยสร้างชาติ ทุกคน ทั้งส.ส.และไม่ใช่ ส.ส. รวมถึงกองเชียร์และสมาชิกทุกคน ไม่ว่าพลเอกประยุทธ์ จะดำรงอยู่ในสถานะใด จะยังคงไว้ซึ่งความรักความเคารพและความศรัทธา ที่ผ่านมาถือว่าพลเอกประยุทธ์ ได้ปฏิบัติตัวเป็นแบบอย่างที่ดี ให้กับสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเราจะนำท่านมาเป็นแบบอย่าง ในการทำหน้าที่ในฐานะนักการเมือง ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ และประชาชน ต่อไป และเชื่อว่าทุกคนจะได้รับคำแนะนำที่จากพลเอกประยุทธ์
ต่อมาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร.เป็นประธานประชุมส.ส. มีกรรมการบริหาร กก.บห.และแกนนำ โดยผู้สื่อข่าวถามกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศวางมือการเมือง และลาออกจากสมาชิกพรรครทสช. พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องถามพล.อ.ประยุทธ์ มาถามอะไรที่ตน
เมื่อถามย้ำว่า ได้พูดคุยกับพล.อ.ประยุทธ์ บ้างหรือไม่ หัวหน้าพรรคพปชร.กล่าวว่า ไม่ได้คุยกันเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่าพล.อ.ประยุทธ์ ได้มาปรึกษาก่อนที่จะลาออกจากสมาชิกพรรคและประกาศวางมือทางการเมืองหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ส่ายหน้าโดยปฏิเสธตอบคำถาม
เมื่อถามย้ำว่าพล.อ.ประวิตร มีแนวคิดที่จะไปต่อหรือวางมือทางการเมืองพล.อ.ประวิตร ปฎิเสธตอบคำถามโดยขึ้นรถเดินทางออกจากพรรคทันที
ขณะเดียวกันนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงท่าที พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ประกาศวางมือทางการเมือง ลาออกจากสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ หลังได้พบกันเป็นคนสุดท้ายที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า พลเอก ประยุทธ์ ไม่ได้มีท่าทีอะไรเลย ก่อนประกาศวางมือทางการเมือง
ส่วนที่ พลเอกประยุทธ์ บอกว่าท้องฟ้าวันนี้แจ่มใส หมายความว่าอย่างไร นายอนุทิน บอกว่า เพราะวันนี้ท้องฟ้าที่ทำเนียบรัฐบาลแจ่มใสดีมั้ง พร้อมย้ำว่า พลเอก ประยุทธ์ ไม่ได้ปรารภหรือมีท่าทีว่าจะลาออกจากพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะเมื่อเช้าการประชุมคณะรัฐมนตรีก็ยังดูปกติ
เมื่อถามว่าอยากจะบอกอะไรถึง พลเอกประยุทธ์ ที่ได้ทำงานการเมืองร่วมกันมานาน นายอนุทิน กล่าวว่า ท่านได้ปฏิบัติหน้าที่ ตามภารกิจทุกอย่างตั้งแต่ปี 62 เป็นต้นมา ท่านให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งผมก็รู้สึกใจหายนะ ที่ท่านวางมือทางการเมือง เพราะเป็นคนรู้จักกัน แต่ท่านก็ไม่ได้หลุดอะไรออกมาเลย แม้ในการประชุมครม. เมื่อเช้า เพราะวันนี้ทาานก็ดูมีท่าทีอารมณ์ดี
เมื่อถามว่าการลาออกของ พลเอกประยุทธ์ เป็นการตัดเงื่อนไข มีเราไม่มีลุง ในทางการเมืองได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปถาม พลเอกประยุทธ์ พร้อมยืนยันว่าการร่วมงานกันตลอด 4 ปีท่านเป็นผู้นำที่ทุ่มเท พลเอกประยุทธ์ เป็นผู้นำที่ทุ่มเททำงานอย่างหนัก คำนึงถึงประโยชน์ประเทศ บ้านเมือง และสถาบันหลักของชาติ รวมถึงให้เกียรติในการทำงานซึ่งกันและกัน
เมื่อถามว่าการที่ พลเอก ประยุทธ์ ลาออก กระทบสมการเกมของพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายอนุทิน บอกว่า เราไม่มีสมการอะไร เราก็เป็นตัวเราแบบนี้
เมื่อถามว่าการลาออกครั้งนี้ เป็นการให้พรรคร่วมรัฐบาลเดิมทำงานง่ายหรือไม่ นายอนุทิน บอกว่า ยังไม่คิดไปถึงตรงนั้น เพราะขณะนี้การจัดรัฐบาล ก็เป็นสิ่งที่พรรคอันดับ 1 ร่วมกับ 7 พรรค กำลังทำอยู่ ส่วนพรรคภูมิใจไทยที่เป็นอันดับ 3 ก็ยังยืนยันว่าไม่มีแนวคิดที่จะไปชิงจัดตั้งรัฐบาล และเราก็พูดชัดเจนว่าไม่เอารัฐบาลเสียงข้างน้อย คำว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อยก็คือกลุ่มรัฐบาลเดิม ที่มีอยู่กว่า 180 เสียง ซึ่งเราก็ไม่มีแนวทางที่จะไปทางนั้น และยังยึดถือตามที่ได้แสดงเจตนารมณ์ไว้ นี่คือมารยาททางการเมืองที่เราทำให้เห็นว่าไม่มีใครแย่งชิงในการจัดตั้งรัฐบาล
ถามต่อว่าการถอยของ พลเอก ประยุทธ์ จะเป็นการยุติความขัดแย้งทางการเมืองหรือไม่ เพราะมีการระบุว่าไม่เอาคนที่มาจากคสช. นายอนุทิน มองว่า ก็ยังไม่ได้มีความขัดแย้งอะไร เราควรจะมองไปข้างหน้า ทุกคนมีอดีตหมด ถ้ามัวแต่ย้อนมองอดีต แล้วอดีตเป็นตัวตั้ง เพื่อให้มันเป็นอุปสรรคในการเดินไปข้างหน้าโดยมีประเทศชาติเป็นเดิมพัน มันก็ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร ซึ่งวันนี้การเลือกตั้งก็รีก็รีเซ็ทแล้ว
"การยุติบทบาททางการเมืองของ พลเอกประยุทธ์ ก็น่าจะเป็นอีกปุ่มหนึ่งที่รีเซ็ต ก็น่าจะพอแล้ว รีเซ็ตบ่อยๆ ก็ไม่ดี"นายอนุทิน กล่าว