ทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่คลับดังกล่าว ซึ่งเป็นอาคาร 2 ชั้นให้เช่า พบว่าประตูม้วนเหล็กหน้าร้านปิดล็อกกุญแจ เมื่อลองเดินดูด้านข้าง มีประตูเข้าปิดล็อก มีข้าวของอยู่ภายใน มองเข้าไปข้างในร้านเห็นป้ายไวนิลในร้านตรงกับชื่อกลุ่ม Outlaws Mc Bangkok และยังมีสติกเกอร์แปะข้างในตรงกับชื่อกลุ่ม แต่ไม่มีใครอยู่ข้างใน รอบอาคารดังกล่าวติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้หลายมุม

จากการสอบถามป้าสวย ชาวบ้านที่อยู่แถวนี้ยืนยันไม่รู้จักนายโอลาฟ ไม่รู้ว่ามาอยู่ในร้านตอนไหน แต่คนเช่าร้านเป็นฝรั่งรูปร่างใหญ่ๆ ไม่รู้จักชื่อ เปิดเป็นโต๊ะสนุกเกอร์มานานแล้วแต่ไม่มีใครมาเล่น เหมือนกับเป็นที่สังสรรค์ของฝรั่ง ฝรั่งที่มาส่วนใหญ่ขี่มอเตอร์ไซต์ชอปเปอร์มาจอดหน้าร้านบ้าง ในที่จอดรถบ้าง แต่ไม่ได้มากันทุกวัน ดูจากลักษณะแล้วเหมือนมารวมตัวเป็นกลุ่ม แต่ไม่ได้สร้างความวุ่นวาย ส่วนตัวไม่ได้รู้จักคนมาเช่า เห็นแต่เป็นฝรั่ง มาซึ่งน้ำเลยยกไปให้ที่หน้าประตู ตอนตำรวจมาบอกว่ามาจับฝรั่งที่ฆ่าคนอยู่ในนี้ตอนแรกไม่เชื่อ

ขณะที่วันนี้ 12 ก.ค.66 ตำรวจได้หลักฐานสำคัญ เป็นภาพวงจรปิดบริเวณหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ห่างจากบ้านที่พบศพผู้ตาย ประมาณ 1.8 ก.ม. โดยกล้องวงจรปิดจับภาพเมื่อเวลา 10.05 น. วันที่ 4 ก.ค.66 ขณะนางเพธา คริสเติล กรุนด์กริฟ ผู้ต้องหาที่ 1 ขับรถเชฟโรแลตมาจอด แล้วเดินลงจากรถ ก่อนเปิดประตูด้านหลังคนขับ โดยลักษณะการแต่งกายเป็นชุดเดียวกัน ในวันที่ไปนัดพบกับผู้ตาย ที่ร้านกาแฟ-เบเกอรี่ ย่านถนนซอยทุ่งกลมตาลหมั่น

จากนั้นนายโอลาฟ ขี่รถจักรยานยนต์ สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีดำ นุ่งกางเกงขาสั้น สวมรองเท้าแตะ เข้ามาหน้าร้านอาหารที่แฟนสาวชาวไทยทำงานอยู่ ก่อนจะเดินหิ้วรองเท้าผ้าใบมาเปิดท้ายรถของนางเพธา แล้วนำไปวางไว้ที่ด้านท้ายรถ ก่อนจะเดินย้อนกลับมาที่ร้านอาหาร ประมาณไม่ถึง 1 นาทีก็รีบเดินมาขึ้นรถ จากนั้นทั้งคู่ขับรถออกไปด้วยกันทันที

โดยกล้องวงจรปิดถือเป็นหลักฐานสำคัญว่าทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ในวันที่ 4 ก.ค. เวลา 10.05 น. ถัดมาอีก 2 ช.ม. นางเพธาออกไปพบนายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค ที่ร้านกาแฟ-เบเกอร์รี่ ซอยทุ่งกลมตาลหมั่น โดยทำทีจะขอติดต่อซื้อสนามมวยในพื้นที่ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งผู้ตายเป็นเจ้าของ โดยที่ทั้งคู่พูดคุยกัน 1 ชั่วโมง ก่อนจะพากันออกจากร้าน และนั่นคือภาพสุดท้ายของนายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค ก่อนจะหายตัวไป และพบเป็นศพถูกฆาตกรรมหั่นศพ

ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปที่ร้าน T.C. hometools ร้านขายเครื่องมือช่าง ซึ่งตั้งอยู่บนถนนพัทยาเหนือ ซอย 2 เราได้สอบถาม เฮียกล้า (นามสมมุติ) เจ้าของร้าน ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่าช่วงเวลาประมาณหลังเที่ยงวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตนเองกำลังเฝ้าร้านอยู่ จากนั้นมีชายชาวต่างชาติ สองคน คือ คนหนึ่งอ้วนสูงขาวไว้เครา อีกคนผอมสูงผิวดำ (ไม่มั่นใจว่าใช่นายโอลาฟหรือผู้ต้องหาคนอื่นไหม เพราะทั้งคู่ยืนหันข้างให้ ไม่ทันสังเกตชัดๆ)

จากนั้นชาย 2 คนได้เดินเข้าไปในร้านและเข้าไปเลือกเลื่อยไฟฟ้า ตอนนั้นคนงานของตนเองได้เข้าไปให้คำแนะนำสักพัก ก่อนจะที่ชายทั้ง 2 จะรีบยกกล่องเลื่อยมาที่เคาท์เตอร์คิดเงินทันที พร้อมถามว่า เท่าไหร่

ตนเองจึงตอบไปว่า 12,900 บาท โดยชายทั้ง 2 คน ไม่ต่อรองราคาเลย เมื่อตนเองถามว่า จะเอาไปตัดอะไร ทั้งสองเงียบไม่ยอมตอบ จากนั้นก็จ่ายเงินสดให้ทันที ตนเองถามต่อว่า ต้องการแบตเตอรี่อีกก้อนไหม ทั้งสองก็ไม่ต้องการ

จากนั้นชายอ้วนขาว ได้เซ็นชื่อในสมุดจดประกัน ชื่อ Shudou พร้อมเขียนเบอร์โทรศัพท์ไว้เพื่อบันทึกการซื้อขาย และรีบเดินออกจากไปทันที ซึ่งตนเองไม่ทันสังเกตว่า ชายฝรั่ง 2 คนนั้น ขับรถอะไรมาด้วยซ้ำ

กระทั่งเมื่อวานนี้ตนเองดูข่าวว่า มีการพบศพ นักธุรกิจชาวเยอรมันที่หายตัวไปถูกฆ่าหั่นศพในบ้านพักและเมื่อเห็นภาพข่าวเลื่อยที่ใช้ก่อเหตุ ตนเองก็นึกแปลกใจเพราะว่าเลื่อยยี่ห้อดังกล่าว เป็นเลื่อยที่ตนเองพึ่งขายให้กับฝรั่งสองคน เมื่อไม่นานมานี้ และได้โทรศัพท์ไปตามเบอร์ที่ชายอ้วนขาวเขียน แต่กลับโทรไม่ติด

จนในวันนี้มีตำรวจเดินทางมาที่ร้านมาถามหาเลื่อย ตนเองจึงให้ข้อมูลไปว่า น่าจะใช่แก๊งนายโอลาฟที่เดินทางมาซื้อเลื่อยที่ร้าน แต่เสียดายกล้องวงจรปิดภายในร้านเสีย จึงทำให้ไม่มีภาพบันทึกไว้ ซึ่งตนเองได้ให้ข้อมูลกับตำรวจไปหมดแล้ว