จากเหตุฆาตกรรม นางขวัญใจ อายุ 27 ปี ทิ้งศพกลางทุ่งนา บ้านโคกสวาท ต.นาผือ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ

ตำรวจสภ.เมืองอำนาจเจริญ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ใกล้ศพพบมีดปลายแหลมวางอยู่ และจดหมาย 2 ฉบับ โดยฉบับแรกเขียนว่า "กูรักมึงมากเดี๋ยวตายตามกัน" ส่วนฉบับที่ 2 เขียนเบอร์โทรแม่ของผู้เสียชีวิตไว้ นอกจากนี้ยังพบธูปปักไว้ใกล้ศพ 1 ดอก

ขณะที่พบสภาพศพ ถูกของมีคมแทงเข้าที่ลำคอทั้งหมด 18 แผล และแผลที่บริเวณมืออีกจำนวนหนึ่ง

โดยคาดว่าผู้ก่อเหตุคือ นายอนุสรณ์ หรือ บอย ซึ่งเป็นแฟนของนางขวัญใจผู้เสียชีวิต หลังรู้จักผ่านโซเชียลออนไลน์ และคบหามาประมาณ 2 ปี

นอกจากนี้ พบว่านายอนุสรณ์ เพิ่งพ้นโทษเมื่อ 22 มิ.ย. ล่าสุดหายตัวไป


เมื่อตรวจสอบเฟซบุ๊กของนางสาวขวัญใจ พบว่า ก่อนที่จะไปเจอศพ โดยเพิ่งโพสต์ภาพคู่กับนายอนุสรณ์ และขึ้นภาพโปรไฟล์เอาไว้

นอกจากนี้ ยังมีการโพสต์วิดีโอเมื่อ 4 วันก่อนหน้านี้ เป็นเพลงเมื่อไหร่จะมาสามีดีๆ คนดีๆ

ทีมข่าวช่อง8 ได้พูดคุยกับนางไหม ซึ่งเป็นแม่ของผู้เสียชีวิต เล่าว่า กระดาษจดหมายเนื้อหาในจดหมายจดหมายที่อยู่ในมือของน้อง จริงๆแล้วนายอนุสรณ์ หรือ บอย เขียนเบอร์โทรศัพท์ทิ้งเอาไว้ด้วย เห็นบอกว่าจดหมายถ้าใครเจอศพน้องขวัญใจ ให้โทรศัพท์กลับไปหาคุณแม่

นอกจากนี้ นางไหม เล่าอีกว่า ก่อนที่ลูกสาวจะหายตัวไปได้เอาโทรศัพท์แม่ไปด้วย แล้วบอกว่าสามียึดเอาไว้

ทีมข่าวช่อง 8 ไปได้เบาะแสมาว่า หลังนายบอย ก่อเหตุเสร็จนายบอย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ มุ่งหน้ากลับไปที่ทำงานในจังหวัดสกลนคร ซึ่งเมื่อไปถึงหอพักที่ใช้หลับนอนกับผู้ตาย นายบอย ได้นำรถจักรยานยนต์สีขาว ไปคืนให้เพื่อนข้างห้อง

จากนั้นนายบอย ได้เดินไปเอารถพ่วงข้างที่บริษัทนม ก่อนจะขี่มุ่งหน้าไปที่อำเภอพังโคน แล้วก็ไปจอดรถทิ้งไว้ก่อนจะขึ้นรถหลบหนีไปที่จังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนายบอย โดยก่อนนายบอยจะขึ้นรถหลบหนี

ทีมข่าวได้ข้อมูลมาว่า นายบอย ได้นำเงินขายนมของทางบริษัทติดตัวไปด้วยจำนวน 5,000 กว่าบาท จากนั้นได้โทรศัพท์ไปลาออกกับหัวหน้าแล้วก็แจ้งว่าจอดรถทิ้งไว้ให้ในจุดดังกล่าว

จนกระทั่งทีมข่าวได้ข้อมูลดังกล่าว จึงเดินทางไปยังจังหวัดสกลนคร และทีมข่าวก็ไปได้ภาพจากวงจรปิด ซึ่งจะเห็นว่า นายบอย ได้ขี่รถพ่วงข้างที่เป็นรถขายนม เข้าไปจอดในซอย ข้างร้านโทรศัพท์มือถือที่ตำบลพังโคน อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร ในเวลา 05.49 น.ของวันที่ 13 ก.ค. ก็คือวันที่พบศพนางขวัญใจ จากนั้นเมื่อจอดรถเสร็จ นายบอย ก็ได้ลงจากรถแล้วก็เดินเลี้ยวขวาออกไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

จากนั้นในเวลา 07.24 น. ก็จะเห็นนายบอย โผล่มาเดินอยู่ตรงถนน ซึ่งช่วงเวลาที่หายไปกว่า 1 ชั่วโมง ทางตำรวจสันนิษฐานว่า นายบอย น่าจะนั่งรอเวลาเพื่อจะเดินไปหาขึ้นรถประจำทางเพื่อหลบหนีต่อ ซึ่งหากดูจากภาพวงจรปิด นายบอย มีกระเป๋าสะพายข้างมาแค่ใบเดียว และพยายามเอามือขึ้นมาปิดบังหน้าตา ซึ่งพอมาถึงหน้ากล้อง จะสังเกตเห็นว่านายบอย ได้แหงนหน้าขึ้นมามองกล้อง แล้วก็เดินเลี่ยงไปบนถนน

ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่ไปยังบ้าน นายบุญธรรม อายุ 56 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต นำทีมข่าวเข้าไปดูห้องของนางสาวขวัญใจผู้ตาย พบว่ามุ้งกับที่นอน ยังอยู่ในสภาพปกติ ไม่มีร่องรอยการรื้อค้นหรือข้าวของเสียหาย

นายบุญธรรม บอกว่า คืนที่ลูกสาวหายไปจากบ้าน ตนเองนอนดูทีวีอยู่หน้าห้อง ซึ่งในตอนนั้นยืนยันว่า เห็นลูกสาวนอนอยู่ในห้องกับลูกของเขาและไม่ได้ยินเสียงลูกสาวคุยโทรศัพท์กับใคร กระทั่งตนเองเห็นว่าลูกสาวคงจะหลับ ก็เลยเดินเข้าห้องไปนอนในห้องของตัวเอง

จากนั้นประมาณตี 2 หลานอีกคนที่นอนอยู่กับตนเองปวดฉี่ จึงได้พาหลานออกไปฉี่ แต่ปรากฏว่า ขณะที่พาหลานออกไปฉี่ เห็นห้องของลูกสาวเปิดประตูอ้าเอาไว้ แต่พอเดินไปส่องดู เห็นแต่หลานที่เป็นลูกชายของนางขวัญใจ นอนอยู่คนเดียว ก็เลยเดินไปดูรอบๆบ้านกระทั่งไปเห็นประตูหลังบ้านก็เปิดทิ้งเอาไว้เช่นเดียวกัน

ยืนยันตอนนั้นไม่ได้เอะใจอะไร เพราะคิดในใจว่า ลูกสาวคงจะออกจากบ้านไปหานายบอย กระทั่งตอนเช้า เห็นลูกไม่กลับบ้าน ก็เลยไปตามญาติให้โทรศัพท์ไปหาขวัญใจ เนื่องจากต้องการโทรศัพท์ของแม่คืน เพราะขวัญใจ ยืนโทรศัพท์แม่ไปใช้ แต่ปรากฏว่า โทรไปเท่าไหร่ก็ไม่มีใครรับสาย กระทั่งไปเจอโทรศัพท์วางอยู่ข้างบ้าน แล้วก็มารู้จากญาติว่า เห็นนายบอย มารอรับลูกสาวก่อนจะหายตัวไปด้วยกันแล้วก็ไปพบศพในช่วงเย็นของเมื่อวานนี้

นายบุญธรรม คนเป็นพ่อยังบอกอีกว่า ในระหว่างลูกสาวคบหากับนายบอย ส่วนตัวไม่ค่อยได้คุยกับนายบอย เนื่องจากเวลานายบอยเข้ามาที่บ้าน ก็จะมาแค่ยกมือไหว้แล้วก็รับลูกสาวออกไปจากบ้าน ซึ่งเขาไม่เคยมาอยู่อาศัยหรือมานอนค้างคืนที่บ้านแม้แต่วันเดียว

ยืนยันที่ผ่านมา เคยเตือนลูกสาวตลอดว่าให้ดูผู้ชายคนนี้ให้ดี เพราะหน้าตาของเขาไม่น่าคบหา แต่ลูกสาวก็ไม่เคยฟังอ้างแต่ว่ารักเขา และในที่สุดเขาก็มาฆ่าลูกจริงๆ ส่วนตัวยอมรับว่า หากตำรวจยังจับไม่ได้ก็กลัวว่าเขาจะย้อนกลับมาทำร้ายคนครอบครัว ยืนยันหากตำรวจตามจับตัวได้ ฝากบอกนายบอยไม่ต้องมาขอโทษ เพราะชีวิตต้องแลกด้วยชีวิตเท่านั้น

โดยนายสมหมาย เป็นญาติ พยายามโทรศัพท์ไปตามให้นางขวัญใจ เอาโทรศัพท์ของแม่มาคืน แต่ไม่มีใครรับสาย ก็เลยส่งข้อความเสียงไปทางแชตในเฟซบุ๊กของนางขวัญใจว่า "ยายไหมให้เอาโทรศัพท์มาคืน ไม่ต้องเอาโทรศัพท์ไป แล้วไม่ต้องกลับมาเหยียบที่บ้านเขาเห็นหมดทุกคนแล้วว่าไปกับใคร"

แต่ปรากฏว่า นายบอย ได้ส่งข้อความเสียงกลับมาว่า "ฮัลโหล ไปรับอีแมวนะ ไปทางนกทา ขี่ไปทางถนนใหญ่ อยู่ซ้ายมือ มันจะเป็นปั๊มน้ำมัน พอเลยปั๊มไปซ้ายมือจะเป็นป่า จะเห็นซอยที่มีรอยรถยนต์หรือรอยมอเตอร์ไซค์ ไปรับมันเอานะ อีแมวอยู่ตรงนั้นแหละ มันตายแล้ว"

นางเจน(นามสมมติ) อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นหัวหน้างานของนายบอย เปิดใจกับทีมข่าวว่า ตนเองเป็นคนให้โอกาสนายบอย เข้ามาทำงานหลังออกมาจากคุก ซึ่งหลังจากรับเข้าทำงานแล้ว นายบอย ก็ได้เดินทางไปรับนางขวัญใจ มาอยู่ด้วยกัน โดยระหว่างเขามาทำงานขี่รถพ่วงข้างส่งนม ทั้งคู่ก็จะต้องขึ้นรถไปด้วยกันทุกวัน เนื่องจากนายบอย เป็นคนขี้หึง ยิ่งไปกว่านั้น นายบอยก็มักจะซ้อมนางขวัญใจ หลังเลิกงานทุกวัน เนื่องจากหึงที่นางขวัญใจ สบตามองเพื่อนร่วมงานที่เป็นผู้ชาย

ซึ่งจะมีอยู่ 1 วัน ที่ตนเองเลี้ยงหมูกระทะลูกน้อง วันนั้นนายบอย ก็ขี่รถพาขวัญใจ มาด้วย แต่ลงไปนั่งกินคนเดียวและปล่อยให้ขวัญใจ นั่งรออยู่ที่รถ ซึ่งวันนั้นตนเอง ก็เดินไปคุยกับขวัญใจ ว่าทำไมไม่ลงไปนั่งกินกับเพื่อนๆ แต่ขวัญใจ พูดไม่ได้ ได้แต่เปิดบาดแผลให้ดูว่าถูกนายบอยเอาไม้ตีปากจนขยับปากพูดหรือแม้แต่เคี้ยวข้าวก็ไม่ได้

จากนั้นก่อนจะเกิดเหตุประมาณ 1 สัปดาห์ นางขวัญใจ ก็ได้ไปหางานทำที่ร้านส้มตำแห่งหนึ่ง เพื่อจะแยกตัวออกห่างจากนายบอย กระทั่งคืนวันที่ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นางขวัญใจ ได้ตัดสินใจหนีกลับไปที่บ้านในจังหวัดอำนาจเจริญ

แต่นายบอย ก็ยังมาทำงาน มีการมาเบิกรถเบิกนมไปขายตอนเช้า ตกเย็นกลับมาคืนรถเคลียร์เงินตามปกติ กระทั่งเช้าวันที่ 12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นายบอย ได้มาเบิกนมไปขายในราคา 5,700 บาท และขอเบิกรถออกไปแต่เช้า แต่ปรากฏว่า ตกเย็นไม่เอารถมาคืนและไม่ยอมมาเคลียร์เงิน กระทั่งเช้าวันที่ 13 กรกฎาคม หลังจากนายบอย ก่อเหตุเสร็จ นายบอย ได้โทรมาระหว่างขี่รถหนีว่า ให้ไปรับนางขวัญใจ ตรงที่บอกกับญาติ เพราะเขาฆ่าขวัญใจแล้ว ซึ่งตอนนั้น ตนเองก็ไม่ได้เอะใจ คิดว่านายบอย วางแผนกุเรื่องขึ้นมาเผื่อจะเชิดเงินค่านมหนีไปกับนางขวัญใจ แต่ปรากฎว่ามีคนไปพบศพขวัญใจจริงๆตรงจุดที่นายบอยบอก ยอมรับว่าตกใจมาก เพราะหลังเจอศพ บอยยังโทรศัพท์กลับมาหาอีก แล้วก็พูดทำนองเหมือนคนโรคจิต โดยมันบอกว่า "เจ๊ไปทำในสิ่งที่ผมบอกหรือยังว่าให้โทรบอกญาตินางขวัญใจว่าขวัญใจอยู่ตรงนั้น เห็นไหมครับเจ๊ บอยไม่โกหก บอยฆ่าคนตาย บอยไม่ได้ล้อเล่น"

อย่างไรก็ตาม ตำรวจชุดสืบแกะรอยล่าตัวนายบอย มาดำเนินคดีโดยเร็ว

พลิกแผ่นดินล่าไอ้เหี้ยมโรคจิตแทงแฟนทิ้งเบอร์ ฝากเสียงเป็นลายแทงเก็บร่าง