ภายหลังนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ผู้อภิปรายคนแรก ไม่สนับสนุนพรรคการเมืองที่มาจาก พรรคการเมืองที่มีนโยบาย แก้ไขหรือยกเลิก 112
โดยนายชาดา กล่าวว่า ตนเองพูดด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ที่บ้านตนเองที่ 100 กว่าไร่ รับรถทัวร์ได้เยอะมาก พร้อมย้ำ พรรคก้าวไกลมีส่วนนำปมความขัดแย้งในบ้านเมือง ใครก็รักพ่อรักแม่ตัวเอง ถ้าปล่อยให้มีการแก้กฎหมายหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ยิงกันระเบิด ประเทศไทยจะยิงกันฉิบหาย ถ้าอย่างนั้นขอเสนอออกกฎหมายใหม่ ยิงคนที่หมิ่นสถาบันแล้วไม่ติดคุก อย่าให้คิดเลยว่าก้าวไกลอนาคตใหม่ เกิดมาเพื่อล้มล้างหรือไม่ ทำไมท่านไม่ยอมสักนิด ถอยสักหน่อย แต่ท่านยืนเด่น จะแก้เรื่องนี้ ไม่ใช่บุคลิกของผู้บริหารประเทศ ท่านบริหารประเทศก่อน ผลประโยชน์ของรัฐบาล ไม่ใช่ผลประโยชน์ของประเทศ รัฐบาลเอาประโยชน์ให้ ครม.อยู่ไปแต่ประเทศชาติฉิบหายอย่างไร ไม่สน
ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่บ้าน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ที่บ้านดอนหมื่นแสน ตำบลดอนขวาง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นบ้านพักตามที่นายชาดา ที่ได้อภิปรายในสภาประเด็นการอภิปรายถึงตัวนายพิธา ลิ้มเจริรัตน์ กรณีที่มีการยืนยันว่าจะแก้ไข ม.112 และถ้าพูดเรื่องนี้ทัวร์จะลง
โดยนายชาดาฯ บอกว่า ไม่กลัวเพราะที่บ้านมีเนื้อที่ถึง 100 ไร่ ลูกสาวมีรถทัวร์ 4 คัน และรถตู้อีก 30 คัน พร้อมที่จะส่งกลับ เมื่อผู้สื่อข่าวไปถึงบริเวณบ้านพักปรากฏว่ามีเนื้อเท่าที่ดูด้วยสายตามีเนื้อที่กว่า 100 ไร่ จริง โดยบริเวณบ้านพักล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่เต็มพื้นที่
นายชาดา เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า สิ่งที่ตนอภิปรายเมื่อวานนี้เราพรรคภูมิใจไทยโดยตนเองนั้นได้เสนอทางออก ถ้าฟังดี ๆ สิ่งที่ตนอภิปรายได้เสนอทางออก ในเมื่อบ้านเมืองมีปัญหา การโหวตนายกรัฐมนตรีมีปัญหามีความคิดแตกต่างกันออกไปก็ต้องมีการหาทางออก ทางเราไม่ได้ปฏิเสธพรรคก้าวไกลเลย 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เราขอว่าเงื่อนไขเรามีเรื่องนี้อย่างนี้ ซึ่งถ้าเป็นการเจรจาธุรกิจ เจรจาการค้าระหว่างประเทศหรืออะไรก็ตามมันก็ต้องมีทางออกมีลดลงเพิ่มขึ้นในการเจรจา
เช่นเดียวกับเรื่องปัญหาบ้านเมืองซึ่งเราจะไปเดินสู่ทางตันไม่ได้เราก็เลยเสนอไปว่าท่านตัดตรงนี้ออกเราก็จะยอมรับท่านแค่นั้นเองไม่มีอะไรเลย แต่เขาก็ปฏิเสธว่าจะไม่ลดเพราะเป็นสัญญากับประชาชนเราก็ไม่สามารถที่จะไปวิจารร์อะไรเขาได้ ก็ให้ปราะชาชนดูเอา ยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยเสนอทางออกโดยตนเป็นคนอภิปราย ถ้าเขาบอกว่า 112 ทุกอย่างจบ เขาได้เป็นนายกฯ แล้ว แต่ในเมื่อเขาปฏิเสธทางออกตนก็ไม่รู้ว่าการเจรจามันจะไปต่ออย่างไร ถ้าไม่หันหน้ามาเจรจากันผมก็หมดปัญญาที่ที่จะแก้ปัญหาในสภา