กรณีเกิดเหตุฆาตกรรม ในพื้นที่ตำบลนาสัก อ.สวี จ.ชุมพรเบื้องต้นพบผู้เสียชีวิต  4 ศพ เป็นชาวเมียนมา 3 ศพ คนไทย 1 ศพ และสุนัข 1 ตัวนั้น

วันนี้ 18 กรกฎาคม 2566 ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายัง สภ.นาสัก จ.ชุมพร เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี

เวลา 08.00 น. ขณะที่ทีมข่าวนั่งสอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่โรงพัก จู่ก็ได้ยินเสียงเพลงมาจากด้านในห้องขัง จนกระทั่งทราบว่า เป็นเสียงเพลงของนายประพันธ์ผู้ต้องหา

 

โดยบทเพลงที่ผู้ต้องหาร้องนั้นชื่อว่าเพลง “ผู้ชนะ” ศิลปินเสก โลโซ โดยนายประพันธ์ร้องท่อนที่ว่า

 “โปรดจงมั่นใจ

ที่ทำลงไปนะถูกแล้ว

อย่าฟังคำคน อย่าสนใจใคร

อย่าเปลี่ยนแนว

คนแน่แน่ว เท่านั้นผู้ชนะ”

 

หลังจากร้องเพลง ผู้ต้องหาก็ได้มีการออกกำลังกาย ยืดเส้น อยู่ภายในห้องขัง

 

เวลา 13.00 น. พล.ต.ต. จารุต ศรุตยากร ผบก.ภ.จว.ชุมพร ได้เดินทางมาที่ห้องประชุมชั้น 2  สภ.นาสัก พร้อมมีการสอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตัวเอง โดยใช้เวลาสอบปากคำประมาณ 20 นาที

 

หลังจากนั้น พล.ต.ต. จารุต ศรุตยากร ผบก.ภ.จว.ชุมพร  ได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า สำหรับคดีนี้ นายประพันธ์ ผู้ต้องหา ก็ได้ให้การรับสารภาพว่ามีการฆ่าทั้ง 4 ศพจริง โดยมีการวางแผนเตรียมการมาก่อนจะเกิดเหตุ  สาเหตุมาจากมีความแค้นกับกลุ่มผู้เสียชีวิตชาวเมียนมา

 

ตอนเกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้ไปก่อเหตุยิงนายน้อง ศพที่อยู่แคร่หน้าบ้าน แล้วไปยิงนายนาย ศพที่อยู่ในบ้าน ขณะที่ทั้ง 2 คน กำลังนอนหลับ จากนั้นผู้ต้องหาได้มายิงนายประยงค์ เป็นศพที่ 3 แล้วเอาทางมะพร้าวปิดอำพรางศพเอาไว้  ก่อนที่นายขาว แรงงานชาวเมียนมาอีกคน จะขับรถมอเตอไซค์มาในพื้นที่เกิดเหตุ แล้วถูกยิงเป็นศพที่ 4 ก่อนที่ผู้ต้องหาจะเอาน้ำมันที่เตรียมเอาไว้ มาทำการเผานายขาวไปพร้อมกับรถมอเตอไซค์ แล้วเดินมาขับรถยนต์กระของนายประยงค์ ผู้ตาย ขับหลบหนีไป

 

ในส่วนของข้อหาชิงทรัพย์ ที่ผู้ต้องหาขับรถกระบะของผู้ตายไปนั้น ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ

 

ส่วนบุคคลที่ขับรถเก๋ง มารับผู้ต้องหาในจุดที่ผู้ต้องหาขับรถกระบะของผู้ตายไปประสบอุบัติเหตุนั้น ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัวบุคคลดังกล่าวมาสอบสวน ถ้าพบว่ามีความผิด ก็จะดำเนินการตามกฎหมายแน่นอน

 

ส่วนที่นายประพันธ์ให้ข่าวไปเมื่อวานว่า ถูกนายประยงค์ผู้ตาย ตัดต้นยาง และเผาบ้าน จนเจ้าตัวได้เคยมาแจ้งความที่ สภ.นาสักเอาไว้นั้น ตำรวจได้ตรวจสอบสำนวนแล้ว พบว่า นายประพันธ์ (ผู้ก่อเหตุ) ไม่เคยมาแจ้งความที่ สภ.นาสักแต่อย่างใด  ส่วนเรื่องอาวุธปืนที่ผู้ต้องหาอ้างว่าเผาพร้อมกับไฟนั้น ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ โดยทุกอย่างเป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่จะให้ข่าว หรือให้การอย่างไรก็ได้ แต่ยืนบันว่าตำรวจมีพยานหลักฐานเพียงพอ

 

ตำรวจคุมตัว “ประพันธ์” ทำแผนฯ เจ้าตัวรับสารภาพเตรียมการวางแผนในการฆ่าทั้ง 4 ศพจริง  ลั่น ยืนยันเหมือนเดิม ว่านายประยงค์ มาก่อเหตุเผาบ้าน ตัดหน้ายางตัวเองก่อน จึงเก็บความแค้น แล้วมาก่อเหตุ

 

เวลา 14.00 น. ตำรวจได้คุมตัวนายประพันธ์ ผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบตำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ

 

จุดที่ 1 นายประพันธ์ ได้ไปชี้จุดที่ร้านค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นจุดที่เจ้าตัวมาซื้อกระสุนปืน

 

 

จุดที่ 2 นายประพันธ์ มาชี้จุดที่ร้านค้าแห่งที่ 2 ซึ่งเป็นจุดที่เจ้าตัว มาซื้อน้ำมันเบนซิน เพื่อเอาไปก่อเหตุเผาร่างผู้เสียชีวิต  ที่จุดนี้ ผู้ต้องหาให้สัมภาษณ์สั้นๆว่า “ตัวเองยอมรับว่ามีการเตรียมการวางแผนมาก่อน 2 สัปดาห์ โดยมาซื้อน้ำมัน จากร้านค้าแห่งนี้ เพื่อนจะไปเผาแรงงานชาวเมียนมา ยืนยันว่าจะไม่ขอโทษผู้เสียชีวิต เพราะมีการไหว้ขอโทษไปก่อนหน้านี้แล้ว”

 

ต่อมาตำรวจได้พาผู้ต้องหามาทำแผน จุดที่ 3 เป็นจุดที่นายประพันธ์ ก่อเหตุยิงนายประยงค์ เมื่อมาถึงจุดนี้ นายประพันธ์ ก็ได้มาชี้จุด ว่าวันเกิดเหตุ หลังจากยิง 2 ศพแล้ว ตัวเองได้เดินมาที่ถนน แล้วเห็นนายประยงค์ยืนอยู่ จึงมาการยิงนายประยงค์ จนเสียชีวิต

 

ตอนที่ทำแผนในจุดฆ่านายประยงค์นั้น ได้มีลูกสาวนายประยงค์ รวมทั้งชาวบ้าน และญาติๆของผู้เสียชีวิต มายืนดูเหตุอยู่รอบๆ แต่ไม่มีเหตุวุ่นวายแต่อย่างใด

 

ต่อมาตำรวจ ได้คุมตัวนายประพันธ์ ไปทำแผนจุดที่ 4 ซึ้งเป็นจุดที่นายประพันธ์ เอาชวดน้ำมันมาซุกซ่อนไว้  แล้วใช้เผาศพชาวเมียนมา

 

จากนั้นนายประพันธ์ มาชี้จุดที่ 5 ซึ่งเป็นจุดที่ยิงนายขาว แล้วก็เผาร่างนายขาวไปพร้อมกับรถมอเตอไซค์

 

จากนั้นนายประพันธ์ ได้ไปชี้จุดที่ 6 ซึ่งเป็นจุดที่ยิงนายน้อง อายุ  37 ปี แรงงานเมียนมาที่แคร่ไม้หน้าบ้าน

 

และต่อด้วยการทำแผนจุดที่ 7 ที่นายประพันธ์ ก่อเหตุยิงนายนาย แรงงานลาวเมียนมา อายุ 50 ปี ในบริเวณห้องนอน  ซึ่งตอนนั้นนายน้อง และนายนาย กำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่

 

โดยขณะทำแผนที่จุดนี้ ผู้ต้องหาก็บ่นว่าเหม็นกลิ่นเลือดของผู้ตาย

 

หลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ พาผู้ต้องหาเดินมาขึ้นรถ ผู้ต้องหาได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวอีกว่า ตัวเองบอยืนยันว่ามีการวางแผนเตรียมการในการฆ่าทั้ง 4 ศพมาก่อน เพราะกลุ้มผู้ตายนั้น สร้างความเดือดร้อนให้ตัวเองมามาก ทั้งลักขี้ยาง ตัดหน้ายาง และเผาบ้านของตัวเอง  ตัวเองเคยเตือนพวกเขาไปหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ฟัง  แล้วก็ยังมีนายสุรชัย ลูกชายของนายประยงค์ (ลูกคนที่มาเจอศพนายประยงค์)  ที่มีนิสัยชอบขโมยของในสวนตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องตัดหญ้า หรือของใช้อื่นๆ ถ้าตัวเองเจอนายสุรชัยวันนั้น ตัวเองก็จะยิงเขา ส่วนวันเกิดเหตุนั้น ตัวเองยิงแรงงานชาวเมียนมา2 คนก่อน ซึ้งยิงตอนที่พวกเขานอนหลับ จากนั้นก็ไปยิงนายประพันธ์ แล้วจึงกลับมายิงแรงงานชาวเมียนมาอีกราย พร้อมกับเผาร่าง

 

นอกจากนี้ นายประพันธ์ ยังชี้บ้านของตัวเอง หลังที่เจ้าตัวอ้างว่า ถูกนายประยงค์เผา จนเสียหายทั้งหลังให้ทีมข่าวดู ซึ่งเมื่อทีมข่าวตรวจสอบก็พบว่าบ้านหลังดังกล่าว มีสภาพถูกไหม้ทั้งหลังจริง 

ไอ้เหี้ยมสุดชิลฮัมเพลงพี่เสกโชว์ฆ่า 4 ศพ บ่นเหม็นเลือด ไม่ไหว้ขมาขอพูดปากเปล่า