จากกรณีวันนี้ (18 ก.ค.66 ) ทางครอบครัวที่อยู่จังหวัดหนองบัวลำภู ได้ส่งเรื่องมาร้องกับ "เพจลุยชนข่าว" ให้ไปช่วยเหลือเรื่องทางคดี เนื่องจากในวันที่ 17 กรกฎาคม เวลาประมาณ 02.23 น. นายไกรสร อายุ 19 ปี ที่มีเพื่อนสนิทเข้ามารับตัวไปจากบ้านในเวลาประมาณ 01.00 น. ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลอย่างปริศนา ซึ่งทางแพทย์ได้ระบุผลชันสูตรเอาไว้ว่า นายไกสร ตายผิดธรรมชาติ โดยพบรอยช้ำแดงที่ใบหน้าด้านซ้าย,รอยบวมที่เหนือคิ้วขวา,รอยบวมที่ศรีษะด้านขวาผิดรูป,มีเลือดออกที่หูขวาและจมูก

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวหลังนายไกสรเสียชีวิต ทางญาติจึงได้เดินทางไปแจ้งความเอาไว้ที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู และต่อมาตำรวจได้ตามไปรวบตัวรุ่นน้องที่เข้ามารับนายไกสร ออกไปจากบ้านได้แล้ว 1 ราย ก็คือนาย นายกิตติกานต์ หรือ นายมาส อายุ 19 ปี ที่เป็นเพื่อนสนิทกับผู้ตาย แต่ปฏิเสธทำร้ายร่างกายผู้ตาย ทางญาติจึงติดใจว่าในการรับออกจากบ้านไปซ้อมจนตายยังไงก็ต้องมีผู้ร่วมก่อเหตุมากกว่าหนึ่งคน

จนกระทั่งวันนี้ตำรวจไปรวบตัวมาได้อีก 1 คนก็คือพลทหารศุภนัฐ ศรีนามบุรี อายุ 21 ปี พร้อมกับของกลาง คือกระบอกโช๊คที่ใช้ก่อเหตุ

ยายไม่เชื่อหลานถูกกระทืบตายโดยคนๆเดียว

ล่าสุดวันนี้(18 ก.ค.66) ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปพบกับนางสัว อายุ 76 ปี เป็นยายของผู้ตาย บอกว่า วันเกิดเหตุเป็นวันที่คาบเกี่ยวระหว่างวันที่ 16 และวันที่ 17 กรกฎาคม โดยก่อนที่หลานจะออกไปจากบ้าน หลานนอนอยู่ที่บ้านกับยายทั้งวัน กระทั่งประมาณ 15.00 น.ของวันที่ 16 มีนายมาส ซึ่งเป็นเพื่อนรักกับหลานชายขี่รถจยย.เข้ามาเรียกที่หน้าบ้าน แต่หลานชายหลับ ก็เลยไม่ได้ออกไปด้วย

จนกระทั่งเวลาผ่านไปถึงประมาณ 23.00 น. นายมาส ก็ขี่รถจยย.เข้ามาเรียกหลานชายอีกรอบ แต่รอบนี้หลานชายได้ขี่รถตามเขาออกไป ซึ่งพอหลานออกไปแล้ว ตัวยายเองก็นอนต่อ เพราะไว้ใจนายมาส เนื่องจากเขาเป็นเพื่อนรักกับหลานชาย แต่ปรากฎว่าช่วงประมาณ 01.00 น.ของเช้าวันที่ 17 นายมาส ได้ขี่รถมาบอกที่บ้านว่า ให้ไปดูหลานที่โรงพยาบาล โดยอ้างว่าไม่รู้เป็นอะไรอยู่ดีๆก็เรียกไม่ตื่น

จากนั้นยายก็แจ้งให้ครอบครัว เดินทางไปดูหลานที่โรงพยาบาล แต่ปรากฎว่า เมื่อไปถึงไม่พบหลานอยู่ในห้องฉุกเฉิน กระทั่งมีทางเจ้าหน้าที่เดินมาบอกว่าร่างของหลานอยู่ในห้องเก็บศพ ยอมรับว่าตกใจมาก ไม่คิดว่าหลานจะออกจากบ้านไปตายแบบนี้ ยืนยันก่อนจะเกิดเหตุ หลานไม่เคยบอกว่ามีปัญหากับใคร ส่วนทหารเกณฑ์ที่ถูกตำรวจจับ ก็ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ซึ่งวันนี้ที่ต้องให้ครอบครัวร้องเรียนไปยังเพจลุยชนข่าว เป็นเพราะว่าอยากจะให้หลานได้ความเป็นธรรม เนื่องจากทางครอบครัวไม่เชื่อว่าหลานจะถูกกระทืบตายโดยคนๆเดียวที่ลงมือก่อเหตุ ส่วนเรื่องคดี เป็นไปได้ก็อยากให้กฏหมายลงโทษคนก่อเหตุโดยการประหารชีวิต เพราะสิ่งที่พวกเขาทำลงไปมันเกิดกว่าเหตุ

ซึ่งทางแพทย์ได้ระบุผลชันสูตรเอาไว้ว่า นายไกสร ตายผิดธรรมชาติ โดยพบรอยช้ำแดงที่ใบหน้าด้านซ้าย,รอยบวมที่เหนือคิ้วขวา,รอยบวมที่ศรีษะด้านขวาผิดรูป,มีเลือดออกที่หูขวาและจมูก

พ่อเพื่อนไม่รู้เกิดเรื่องอะไร

จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุก็คือบ้านของนายมาส ที่บ้านโนนหวายในตำบลหนองภัยศูนย์ อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งจะอยู่ห่างจากบ้านของนายไกสร ผู้ตายประมาณ 1.3 กิโลเมตร

ซึ่งลักษณะบ้านที่เกิดเหตุ เป็นบ้านปูนชั้นเดียว ไม่มีร่องรอยคราบเลือดติดอยู่ที่พื้น เนื่องจากคนก่อเหตุที่เป็นทหารเกณฑ์ ล้างเลือดและนำผ้าปูที่นอนเช็คทำความสะอาดไปหลังเกิดเหตุแล้ว

โดยนายวินัย พ่อของนายมาส ได้พาทีมข่าวเดินไปดูยังจุดเกิดเหตุ และอธิบายให้ทีมข่าวฟังว่า ช่วงค่ำของวันเกิดเหตุ ตนเองไม่ได้อยู่ที่บ้านเนื่องจากออกไปทำงาน กระทั่งเวลาประมาณ 23.30 น. ในขณะที่กลับมาที่บ้าน ก็เห็นนายไกสร ผู้ตายซึ่งเป็นเพื่อนกับลูกชาย นอนอยู่ที่เก้าอี้ โดยมีทหารเกณฑ์คนที่ก่อเหตุ นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ข้างๆกัน ส่วนลูกชายเท่าที่เห็นตอนนั้นเขาเดินไปที่หลังบ้าน

จากนั้นในเมื่อไม่มีอะไรผิดปกติ ตนเองก็ได้เดินเข้าไปอาบน้ำในบ้าน กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณเที่ยงคืน เห็นว่ามันดึกแล้ว ก็เลยเดินออกมาบอกทหารเกณฑ์ให้ปลุกนายไกสรกลับบ้าน แต่ปรากฎว่าปลุกเท่าไหร่ก็ปลุกไม่ตื่น กระทั่งทหารเกณฑ์ได้พยายามผายปอดปั้มหัวใจให้กับนายไกสร แต่ปรากฎว่าไม่มีชีพจร ตนเองก็เลยให้ทหารเกณฑ์โทรศัพท์ไปแจ้งกับกู้ภัยและให้ลูกชายตามไปที่โรงพยาบาลเผื่อไปบอกญาติของนายไกสร

ยืนยันไม่รู้จริงๆว่าเขาทะเลาะกันเรื่องอะไร และถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้คุยกับลูกชาย เพราะลูกชายถูกตำรวจคุมตัวไปตั้งแต่อยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนทหารเกณฑ์คนที่มาก่อเหตุเพิ่งจะเคยเห็นมาที่บ้านเป็นครั้งแรก ส่วนเรื่องคดี ตอนนี้ยังไม่ได้ไปเยี่ยมลูก และเชื่อว่าตอนเกิดเหตุเขาไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์

พลทหารยอมรับทำร้ายผู้ตายจริงเพราะแค้นหนัก

ล่าสุดตำรวจตามจับผู้ก่อเหตุได้แล้วคือพลทหารศุภนัฐ จากนั้นนำตัวพลทหารรายนี้ไปเข้าห้องขัง ทีมข่าวได้มีโอกาสสอบถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น ตอนเกิดเหตุทำอะไรกับนายไกสรบ้าง แล้วนายมาส ร่วมก่อเหตุด้วยหรือไม่

ซึ่งพลทหารศุภนัฐ คนก่อเหตุอ้างว่าก่อนเกิดเหตุนั่งกินเหล้ากันอยู่ 3 คน จากนั้นได้มีปากเสียงกับนายไกสร ตอนก่อเหตุยอมรับว่าต่อยและเตะนายไกสร โดยเน้นเตะที่หน้านายไกสร ไปหลายครั้ง ยืนยันก่อเหตุแค่คนเดียว ส่วนกระบอกโช๊ค ที่ตำรวจยึดมาเป็นของกลาง ไม่ได้ใช่ตีคนตาย ส่วนปมเหตุก็ไม่ใช่เรื่องยา แต่มันเป็นความแค้นส่วนตัว ยืนยันนายมาสไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ญาติสองฝ่ายเจอหน้าบรรยากาศตึงเครียด

ส่วนบรรยากาศที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู ในช่วงเช้าวันนี้ค่อนข้างจะตึงเครียด เนื่องจาก ญาติทั้งสองฝ่ายได้มาเจอหน้ากัน ซึ่งทันทีที่ได้นั่งใกล้กันเผื่อรอคิวเข้าสอบปากคำ น้าสาวของนายไกสร ที่มากับแม่ของนายไกสร ก็เริ่มถามว่าครอบครัว ของพลทหารศุภนัฐ คนก่อเหตุว่า ไม่รู้เรื่องเลยหรอว่าคนในบ้านออกไปก่อเหตุ มันเกินไปไหมกระทืบหลานฉันถึงขั้นตายคาตีน ยังไงฉันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด หลานฉันต้องได้รับความยุติธรรมและหลานฉันจะไม่ตายฟรี กระทั่งยายของพลทหารศุภนัฐ และหลานที่มาด้วยกัน ก็อธิบายไปว่า ก่อนเกิดเหตุไม่รู้ว่าหลานออกไปทำอะไร รู้แต่ว่าพอมันตื่น มันก็แต่งตัวใส่กางเกงขาสั้นและบอกแต่ว่ามันจะออกไปเตะตะกร้อ จากนั้นมันก็หายไปจนตำรวจเชิญญาติมาที่โรงพัก ซึ่งวันนี้ยายของพลทหารศุภนัฐ ยังยกมือไหว้ครอบครัวของผู้ตาย และพยายามบอกว่า หากหลานผิดก็ขอโทษด้วยเพราะไม่รู้จริงๆว่าเขาจะออกไปก่อเหตุ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ไม่มีใครอยากจะให้เกิดขึ้นมา

เชิญวิญญาณหนุ่มกลับบ้าน แต่ได้ยิงเสียงร้องไห้วนเวียน

ซึ่งวันนี้สิ่งที่น่าสลดใจก็คือทางครอบครัวคนตาย ไม่มีเงินทั้งส่งศพไปชันสูตรและค่ารถไปกลับเพื่อรับศพกลับมาบำเพ็ญกุศล / โดยวันนี้ทีมข่าวได้ประสานไปยัง นางสาวณีรตี ศรีมูลดา ประธานสมาคมสายธารสะพานบุญจังหวัดหนองบัวลำภู ให้เข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งทางสมาคมก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยทั้งส่งศพไปชันสูตรที่จังหวัดเลย และรับศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน

ซึ่งบรรยากาศที่มันน่าสลดใจที่สุด จะเห็นว่าเมียของผู้ตายได้พาลูกน้อยทั้งสองคนของผู้ตาย ขึ้นรถตู้ของสมาคมไปรับศพที่จังหวัดเลยเพื่อนำศพกลับมาที่จังหวัดหนองบัวลำภู

จากนั้นเมื่อศพเดินทางมาถึงบ้าน พ่อของนายไกสร ก็ได้จุดธูปจำนวน 12 ดอก เพื่อบอกกล่าวกับเจ้าที่เจ้าทางให้เปิดทางขอนำศพของนายไกสรเข้าไปในบ้าน กระทั่งก่อนจะนำศพลงมาจากรถ คุณณีรตี ประธานสมาคม ที่เป็นคนจัดการเรื่องศพให้ฟรีทั้งหมดได้ให้พ่อของนายไกสร จุดธูปอีกจำนวน 1 ดอก แล้วก็ให้พ่อเรียกชื่อลูกเพื่อนำศพลงจากรถ

ขณะเดียวกันเรื่องนี้ยังไม่จบ เนื่องจากหลังรับศพของนายไกสร กลับมาบำเพ็ญกุศล พ่อของนายมาส ที่เป็นเจ้าของบ้าน ได้โทรศัพท์เข้ามาติดต่อทางญาติของนายไกสร ให้ไปเชิญวิญญาณนายไกสร ในที่เกิดเหตุ เพราะตั้งแต่คืนเกิดเหตุไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านได้ เนื่องจากได้ยินเสียงวิญญาณของนายไกสร เดินร้องไห้วนเวียนอยู่ภายในบ้าน

ซึ่งวันนี้ทันทีที่ญาติวางสายโทรศัพท์พ่อของนายมาส ก็ได้มีการนิมนต์พระสงฆ์ จำนวน 1 รูปเข้าไปทำพิธีเชิญวิญญาณในจุดที่คาดว่านายไกสร นอนตายอยู่ที่หน้าบ้าน

โดยนางสาวณีรตี ศรีมูลดา ประธานสมาคมสายธารสะพานบุญจังหวัดหนองบัวลำภู บอกว่า จริงๆแล้วหลังเกิดเหตุทางญาติผู้ตายได้มาขอคำแนะนำจากตนเองในเรื่องคดี ซึ่งตนเองไม่สามารถช่วยได้ ก็เลยแนะนำให้ติดต่อไปทางช่อง 8 โดยตรง ซึ่งหลังจากช่อง 8 ลงพื้นที่มาช่วยในวันนี้ เรื่องทั้งหมดก็คลี่คลายเนื่องจากตำรวจตามจับคนก่อเหตุได้ทั้งหมด

ซึ่งส่วนตัวในขณะเข้าไปช่วยเหลือครอบครัวผู้ตาย ก็รู้สึกหดหู่ที่ต้องเห็นภาพเมียผู้ตายอุ้มลูกน้อยไปรับศพพ่อ ส่วนเรื่องการเข้าไปเชิญวิญญาณเมื่อช่วงเย็นอย่าง กะทันหันตามภาพ เนื่องจากได้รับแจ้งจากเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ว่าพบเจอกับความเฮี้ยนของคนตาย มาเดินวนเวียนร้องไห้อยู่ภายในบ้าน ซึ่งเมื่อคืนนี้ตนเองก็เจอเหมือนกัน โดยเหตุการณ์เมื่อคืนได้ยินเสียงคนตายมา กระซิบข้างหูว่า พี่ผมเจ็บ ผมอยากบ้าน ช่วยรีบไปรับผมกลับบ้านหน่อย

ส่วนเรื่องทั้งส่งศพรับศพกลับมาจัดงานศพ ทางสมาคมช่วยเหลือครอบครัวคนตายฟรี และเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาประธานโครงการของสมาคม ก็ได้มอบเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัวผู้ตายไปจำนวนเงิน 40,000 บาท

ทหารเกณฑ์กระทืบโจ๋ตาย ช่อง 8 ลุยช่วยเจอปริศนาจับเพิ่ม สลด 2 เด็กเกาะโลงลาพ่อ