จากกรณีเมื่อเวลา 20.00 น. ของ วันที่ 16 ก.ค.2566 นางเอ (นามสมมติ) ผู้เป็นแม่ได้พาลูกสาวอายุ 15 ปี ซึ่งอุ้มท้อง 8 เดือนเข้าแจ้งความที่สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เพราะก่อนหน้านี้ สังเกตความผิดปกติของลูกสาว ซึ่งมีอาการซึมเศร้า และคิดจะฆ่าตัวตาย ประกอบกับลูกสาวมีท้องที่ใหญ่ขึ้น ตนเองจึงเค้นลูกสาว กระทั่งทราบว่าถูกน้าเขยข่มขืนกระทั่งตั้งตั้งท้อง 8 เดือน และทราบชื่อคนก่อเหตุในเวลาต่อมา คือ บังฟัด หรือ นายสุรเดช โอ๊ะคำ อายุ28ปี มีศักดิ์เป็นน้าเขย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
บังฟัดมอบตัว ยืนยันไม่ได้ข่มขืนหลานสาว
วันนี้ (18 ก.ค.) ทีมข่าวช่อง 8 ได้คุยกับ ฟ้า (นามสมมติ) อายุ 31 ปี พี่ของบังฟัด เปิดเผยภายหลังนายสุรเดช หรือ บังฟัด ถูกจับว่า วันนี้เป็นการพาตัวไปมอบตัวให้กับตำรวจแต่ไม่ได้เป็นการจับกุม พอหลังจากปรากฏเป็นข่าว ตัวของบังฟัดได้กลับมาที่บ้าน ทุกคนก็ได้สอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยเจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่ได้มีการกระทำ แต่ในเมื่อถูกกล่าวหาว่าอาจมีการกระทำตอนที่เมาเหล้า ก็ต้องไปแสดงความบริสุทธิ์ใจ และรอผลตรวจดีเอ็นเอของเด็ก ซึ่งถ้าหากผิดก็ต้องว่าไปตามกระบวนการของกฎหมาย แต่ถ้าหากยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องครอบครัวก็พร้อมที่จะไปช่วยในการประกันตัวในวันพรุ่งนี้
สำหรับตนเองในฐานะคนที่อยู่ในบ้านและอาศัยอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่ ยืนยันว่าบ้านของตนเองไม่มีห้องนอนแยก และไม่มีพื้นที่ส่วนตัวที่จะทำให้บังฟัดมีการกระทำอนาจารเด็ก 15 ได้ ยกเว้นจะมีการไปก่อเหตุที่อื่น แต่การที่จะไปก่อเหตุที่อื่นก็เป็นไปได้ยาก เพราะหากนับช่วงเวลา โดยเฉพาะ8-9เดือน ที่คิดว่าตัวของบังฟัดจะไปก่อเหตุ ตนเองยืนยันว่า เป็นไปไม่ได้เพราะช่วงเดือนดังกล่าวบังฟัดได้กลับมาอยู่ที่บ้านกับครอบครัวแล้วไม่ได้อยู่บ้านฝั่งของเด็กผู้เสียหาย
ส่วนกรณีที่มีการสักคิ้วแล้วสังคมโจมตีว่า เป็นเอกลักษณ์เฉพาะนั้น อยากจะชี้แจงกับสังคมว่าเป็นความชอบส่วนตัว และตัวของบังฟัดก็มีการสักคิ้วมานานกว่าห้าปีแล้ว และที่ผ่านมาก็มีการสักอีกหลายแห่ง โดยมีการสักเจ้าแม่กวนอิมอยู่ที่ศีรษะ สักชื่อพ่อแม่เอาไว้ที่กลางอก และสักลายต่างๆเอาไว้ภายในร่มผ้า ส่วนคิ้วก็ไม่ได้มีไอดอลหรือต้องการที่จะทำเหมือนใคร เพียงแค่ต้องการสักให้เป็นรูปยักษ์ตามความชอบเท่านั้น และคนที่สักให้ก็คือกลุ่มเพื่อน เพราะเพื่อนรอบข้างก็เป็นช่างสักกันทั้งนั้น แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเข้าเรือนจำครั้งล่าสุด เพราะตอนที่เข้าไปในเรือนจำไม่ได้มีการสักอะไรเพิ่ม เข้าไปติดไม่นานในข้อหากัญชาเท่านั้น
แม่เด็ก15เผยมั่นใจลูกในท้องเป็นของบังฟัด
ด้านนางเอ (นามสมมติ) อายุ 37 ปี แม่ของเด็ก 15 ปี ที่ตั้งท้อง เปิดเผยว่า ตนเองเพิ่งรู้จากญาติที่โทรมาบอกว่าตัวของบังฟัดถูกจับแล้ว และเข้าใจว่าน่าจะเป็นการพากันไปมอบตัว ส่วนตัวจึงค่อนข้างกังวลใจกลัวว่าจะได้รับการประกันตัว และกลัวว่าจะเข้ามาก่อกวนลูกสาว จนเป็นเหตุทำให้คิดสั้นหรือคิดมากอีก เพราะอีกไม่กี่สัปดาห์ก็เชื่อว่าลูกสาวก็คงคลอดแล้ว โดยตอนนี้สภาพจิตใจของลูกค่อนข้างแย่ เพราะเจ้าตัวหวาดกลัวแม้กระทั่งเข้าห้องน้ำ ก็ต้องให้ตนเองไปส่ง เวลานอนก็จะมานอนข้างตลอด แม้แต่พ่อแม่ออกไปทำงานเจ้าตัวก็ต้องติดรถออกไปทำงานด้วย ไม่กล้าที่จะอยู่เพียงลำพัง โดยส่วนตัวก็รู้สึกสงสารลูกอยากมาก
ส่วนกรณีที่ครอบครัวของบังฟัด และตัวของบังฟัด ออกมายืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่ได้เป็นคนก่อเหตุนั้น ส่วนตัวเชื่อในคำพูดครั้งแรกของบังฟัด ที่สารภาพว่ามีการก่อเหตุตอนเมา รวมทั้งลูกสาวก็เป็นคนยืนยันว่าถูกกระทำจริง จึงมั่นใจ 100% ว่าลูกในท้องคือของบังฟัด แต่แม้ว่าผลตรวจดีเอ็นเอจะออกมาหลังจากนี้ ตนเองก็จะไม่ให้บังฟัดเข้ามายุ่งเกี่ยว แต่เพียงแค่อยากให้ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะไม่คิดว่าคนใกล้ชิดหรือคนใกล้ตัวจะทำกันแบบนี้
ขณะที่เรื่องของรอยสักบนใบหน้าและตามตัวของบังฟัด ตัวเองเคยเห็นมาซักระยะแล้ว โดยเริ่มมีการสักทีละนิดทีละหน่อยจนกระทั่งเต็มใบหน้า แต่ก็ไม่รู้เหตุผลว่าทำไมต้องสักขนาดนั้น หรือต้องการความเป็นเอกลักษณ์ให้คุณจำได้หรือไม่ แต่จากลักษณะรอยสักตนเองก็เคยเตือนลูกสาวว่าให้อยู่ให้ห่าง แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นกับลูกสาวเหมือนกัน