เริ่มแล้ว! ถกญัตติ โหวตนายกฯ รอบ2 "สุทิน" ลุกเสนอชื่อ "พิธา" อีกครั้ง ทำ ส.ส.รวมไทยสร้างชาติประท้วงวุ่น ชี้ผิดข้อบังคับเพราะ ญัตติถูกตีตกไปแล้ว
วันนี้ (19 ก.ค. 2566) มีการประชุมร่วมรัฐสภา โดยมีวาระการประชุมสำคัญ คือการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งถือว่าเป็นการนัดประชุมรัฐสภาเพื่อลงมติให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งที่ 2 หลังครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคก้าวไกล แต่ได้รับเสียงจากสมาชิกรัฐสภาเห็นชอบไม่ถึงกึ่งหนึ่งของสมาชิกเท่าที่มีอยู่ จึงถือว่ารัฐสภาลงมติไม่เห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
จากนั้น 09.32 น. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้เปิดประชุมหลังจากที่ องค์ประชุมครบ โดยได้นำเข้าสู่วาระการเสนอชื่อบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทันที
ก่อนที่ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นบุคคลให้รัฐสภาพิจารณาเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ นายสุทิน เสนอชื่อนายพิธา นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์ ส.ส.ราชบุรีพรรครวมไทยสร้างชาติ จะลุกขึ้นประท้วงทันทีว่า
วันนี้เห็นมีการเสนอชื่อนายพิธา ขึ้นมาอีกครั้ง รัฐสภากำลังทำผิดข้อบังคับข้อที่ 41 ที่ได้บัญญัติไว้ว่าญัตติที่ตกไปแล้ว ห้ามไม่ให้มีญัตติที่มีหลักการเช่นเดียวกันขึ้นมาเสนอในที่ประชุมอีก และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ได้มีการเสนอชื่อนายพิธา ไปแล้วและเสียงก็ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของรัฐสภา ตนเองที่เป็นอดีตกรรมาธิการยกร่างข้อบังคับ และประธานรัฐสภาก็คงทราบดีอยู่แล้วว่า ข้อบังคับมีสถานะเทียบเท่าพ.ร.บ. ถือเป็นกฎหมายที่สมาชิกรัฐสภาต้องยึดถือ
จากนั้น นายรังสิมันต์ โรม ได้ยกมือประท้วง ว่าเรากำลังดำเนินการตามระเบียบวาระเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ยืนยันเป็นการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ คนที่ยกมือหารือกับท่านประธานเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เรากำลังจะดำเนินการเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี การหารือเช่นนี้กับประธานรัฐสภาจึงอาจเป็นการกระทำผิดข้อบังคับ จึงขอให้ประธานวินิจฉัย
จากนั้นประธานรัฐสภา ยังยืนยันว่านายอัครเดช ยังไม่ได้ประท้วงผิดข้อบังคับ
ก่อนที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นประท้วงสมาชิกว่าผิดข้อบังคับที่ 36 หลังจากที่นายสุทิน ได้เสนอชื่อ บุคคลขึ้นมา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยจะต้องให้สมาชิกรัฐบาลทั้งหมดได้แสดงตนให้เรียบร้อยก่อน ค่อยจะประท้วงว่าจะเข้าข่ายผิดข้อ 41 หรือไม่ อีกครั้ง
ประธานรัฐสภาจึงนำที่ประชุมกลับมาเพื่อให้ที่ประชุมได้แสดงตน เพื่อรับรองการเสนอชื่อบุคคลดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามที่นายสุทินได้กล่าวเสนอ