อ.ศิโรจน์ ฟันธงเพื่อไทยกับก้าวไกล ไปรอดไหม?
ผมก็เสียวแทน เพราะคนที่เสนอชื่อเศรษฐาก็คือพวกคนที่เคยด่าทักษิณ ด่ายิ่งลักษณ์ ในสมัยก่อน ผมกังวลว่ามันเป็นแผนล่อซื้อเพื่อไทย ซึ่งการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ มันทำได้เพี้ยงครั้งเดียว ซึ่งหากเศรษฐาถูกเสนอชื่อมาแล้วเกิดไม่ได้ และเวลาที่ค่อนข้างจำกัด ไม่รู้ว่าเพื่อไทยจะไปหาเสียง สส. มาเพิ่มจากไหนได้ทัน ซึ่งภูมิใจไทยครั้งที่ออกจากพรรคเพื่อไทย ก็มีเรื่องกับทักษิณไว้เยอะ รทสช.ก็มองว่าน่าจะยาก ส่วน พปชรคิดว่าคงมีการคุยกัน แต่เสียงของ พปชร.ก็มีไม่เพียงพอ และหากเพื่อไทยมีแคนดิเคต 3 คน และจะต้องโหวด 3 ครั้ง มองว่ามันจะดูตลก และคิดว่าคงไม่ปล่อยให้โหวตจนครบ 3 คน
อ.นันทนา มองเรื่องเสนอชื่อเพื่อไทย ชิงนายกฯ ยังไง?
ถ้ามองอย่างที่บอกกันมา พรรคร่วมจะจับมือกันแน่นเป็นข้าวต้มมัด และเสนอชื่อเศรษฐา เข้าไป ก็ต้องลองโวตดูว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน ถ้าไม่ผ่านก็เข้าเกมของ สว. ในการบีบให้เพื่อไทยข้ามขั้ว ซึ่งหากมองสว.ที่ออกมาพูดว่าไม่เอาก้าวไกล ก็จะเห็นว่ามีแค่ไม่กี่คนและหน้าเดิมๆ ทั้งนั้น หากมองว่าโอกาสที่เศรษฐา จะถูกโหวตผ่านในรอบเดียว ก็มีแนวโน้มสูง เพราะเพื่อไทยอยู่ในสภามานาน และ สว. ก็สนิทสนมกับคนพรรคเพื่อไทยก็มีอยู่เยอะ แต่วันนี้ก็ยังเชื่อว่าเพื่อไทย ยังจับมือกับก้าวไกลอยู่เหมือนเดิม
อ.เจษฎ์ มองเรื่องการส่งชื่อเศรษฐา เข้าชิงนายกฯ
จริงๆ การโหวตไล่เรียงตามรายชื่อแคนดิเดตให้ครบทั้ง 3 คน ก็ไม่ใช่เรื่องตลกอะไร เพราะถ้าพรรคก้าวไกลบอกเสนอชื่อพิธาซ้ำได้ ก็แปลว่าเพื่อไทยก็ส่งชื่อส่งโหวตได้ และรัฐธรรมนูญที่เปิดให้ส่งชื่อแคดิเดต 3 คน ก็ไม่ได้ระบุว่าห้ามเสนอชื่อไล่เรียงในการโหวต ซึ่งมองว่าระบบเลือกนายกฯ สมัยนี้มันแตกต่าง จากในอดีตตรงที่มี สว.เข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าไม่มี ส.. พรรคการเมืองแทบจะไม่ต้องไปรวมพลัง รวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาล พรรคไหนได้อันดับ 1 ก็จัดไป จัดไม่ได้ก็ให้พรรคอันดับ 2 จัดแทน แต่สมัยนี้มันไม่ใช่มันมี สว.เป็นตัวแปร
อ.ศิโรจน์ มองเรื่องการจับขึ้วพรรคการมืองยังไง
การจับขั้วของเพื่อไทยและก้าวไกล มันเป็นรูปแบบการเมืองหลังรัฐประหาร มันต้องออกมาเป็นเช่นนี้ เพราะเพื่อไทยเองก็ประกาศเอาไว้ว่าเขาเป็นพรรคประชาธิปไตย เช่นดียวกับก้าวไกล และประกาศเช่นนี้มา 4 ปี และเมื่อมันจำเป็นจะต้องมีการจับขั้ว การแยกขั้วมันก็ จะต้องมีต้นทุนในการสูญเสียที่จะต้องจ่ายค่อนข้างเยอะ
อ.ศิโรจน์ ยังมองว่าต้องจับมือกันต่อไประหว่างเพื่อไทยและก้าวไกล
คือถ้าตอนนี้เพื่อไทยยืนยันจะปล่อยมือกับขั้วประชาธิปไตย มันก็จะมีเรื่องข่าวลือดีลลับออกมาไม่หยุดและมันจะทำให้ข่าวนั้นๆ คนยิ่งเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง เพราะถ้าเริ่มมีความเคลื่อนไหวในเชิงข้ามขั้วเมื่อไหร่เพื่อไทยคงจะโดนตั้งคำถามหนัก
อ.นันทนา เห็นด้วยกับ อ.ศิโรจน์ เรื่องการข้ามขั้วการเมือง
คนที่เลือกก้าวไกล ตอนนี้ยังยอมรับได้ถ้าจะส่งแคดิเดตของเพื่อไทยไปเป็นนายกฯ เพราะยังถือว่ามีอุดมการเดียวกัน แต่ถ้าเพื่อไทยสลับขั้วเมื่อไหร่ เพื่อไทยจะตกเป็นจำเลยของสังคมไปเลย ประชาชนจะตั้งคำถามต่างๆ นานาว่าทำไมไม่จับมือกัน เพราะคนหวังให้ฝั่งประชาธิปไตยชนะฝั่งเผด็จการ