อ.เจษฎ์ มอง สว. คือปัญหาการเลือกนายกฯ ทำให้ต้องจับมือพรรคการเมือง

ถ้าเกิดการเลือกนายกฯ ครั้งนี้ไม่มี สว.เข้ามาเกี่ยวข้อง มันจะเกิดสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปไม่ใช่แบบนี้ย้อนกลับไปเมื่อปี 49 หลังมีรัฐประหารครั้งนั้น ทหารจะใช้อำนาจในแบบกองกำลังเข้ามาแบบแข็งทื้อแต่ครั้งนี้มาในรูปแบบของ สว. ทำให้พรรคประชาธิปไตยจับมือกันอย่างเหนียวแน่น และทำให้การเป็นคู่แข่งกันในอดีตมันค่อยๆ สลายไป โดยหลังจากการเลือกตั้งเสร็จ ทักษิณได้พูดเอาไว้ชัดเจนมากว่า เรารู้ว่าเราแพ้เพราะอะไร เพราะเราโดนปัญญาประดิษฐ์ หรือว่า A หรือปฏิบัติการณ์ข้อมูล IO แล้วเราก็รู้ดีว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่เป็นไร เรามีสปริริตพอ มันแปลว่าอะไร มันแปลว่าเขาส่งสัญญาณตรงไปที่พรรคก้าวไกลว่าฉันรู้นะว่าเธอทำอะไรไว้ แปลว่ามันก็ไม่ได้จับมือแบบสนิทใจกัน ประการที่ 2 พรรคเพื่อไทยและก้าวไกล แข่งกันมาตลอดในช่วงหาเสียง แต่มันมีสภาวะที่ไม่ธรรมชาติอยู่ มันเลยจำเป็นต้องจับมือกัน ผมเลยไม่ได้มองว่ามันมีปัจจัยเดียวที่เปลี่ยน หรือมีเหตุผลเดียวที่ต้องเปลี่ยน มันเลยยังทำให้เกิดสถานการณ์ ข้าวต้มมัด ผมก็เลยมองว่า ข้าวต้มมัดเวลาเราจะกิน ถ้าไม่แกะตัวที่มัดมันไว้มันไม่มีทางกินได้แน่นอน ถ้าจะมัดเอาไว้แน่นยังไง สุดท้ายเราก็จะกินมันไม่ได้ถ้าเราไม่ปล่อยมันออกและสุดท้ายข้าวต้มมัดมันก็เน่า และถ้ามองที่ฐานเสียงของเพื่อไทยวันนี้ อาจต้องเกิดคำถามว่า เราเลือกเพื่อไทยมาเพื่อให้ก้าวไกลเป็นรัฐบาล หรือเลือกเพื่อให้เพื่อไทยเป็นรัฐบาล ถ้าจะถามถึงคะแนนนิยมของเพื่อไทย ถ้าเกิดเปลี่ยนขั้วผิดคำ จะกระทบไหม มันก็ไม่แน่ มันต้องดูที่สภาชุดนี้จะอยู่นานแค่ไหน ถ้ามันจะประคองกันไปได้ 4 ปี ทักษิณเคยพูดเอาไว้ว่า เราเรียนรู้แล้วว่าปัญญาประดิษฐ์มีจริงในการใช้ในการเลือกตั้ง คนรุ่นใหม่แบบที่คนต้องการเรารู้แล้วว่าต้องทำยังไง ทักษิณเองเคยสร้างพรรคการเมืองใหม่ๆเคยลองในสายการเมืองในหลายๆ รูปแบบมาแล้ว แม้ว่าเรื่องอื่นๆ หลายๆ เรื่องมันจะสอดคล้องกัน แต่ท้ายที่สุดมันจะเหลือเพียงเรื่องเดียวที่แตกต่างกันมากของ 2 พรรค คือ การแก้ไข ม.112

อ.นันทนา แย้ง อ.เจษฎ์ ไม่มองที่ สว.คือตัวปัญหา

ส่วนตัวมองว่ามันคือรัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่ผลิต สว.ออกมา และมีแค่ประเทศไทยที่ระบุให้ สว.มาโหวตเลือกนายกฯ ก็เลยไม่รู้จะพูดว่ายังไง เลยมองว่าปัญหาคือรัฐธรรมนูญฉบับนี้ต่างหากที่ต้องรีบแก้ไขจัดการ ตรงกับที่ อ.วันนอร์ ได้ออกมาบอกว่าภารกิจใหญ่ของ 8 พรรคร่วมจะต้องรีบแก้ไข คือ ยกร่างรัฐธรรมนูญ และถ้าไม่มี สว. การจัดตั้งรัฐบาลด้วยคะแนนเสียง 312 มันเป็นรัฐบาลที่แข็งแรงและมี
เสถียรภาพมาก และก็เป็นฝ่ายค้านที่กำลังดี และถ้ามองถึงทักษิณที่พูดถึงเรื่อง A หรือ IO จริงๆ แล้วเขานั้นแหละที่คลุกคลีกับเทคโนโลยีมาตลอด แต่ว่า ว่าต้องดูวัยด้วย ทักษิณในวัยนี้มันสู้คนรุ่นใหมไม่ได้เพื่อไทยเติบโตมา 22 ปี แล้วคนที่มาแข่งเขาได้คือก้าวไกลที่เพิ่งเติบโตไม่นาน ถ้าเกิดครั้งนี้ไม่มีก้าวไกลเพื่อไทยแลนด์ไสลด์แน่นอน แต่พอมันมีก้าวไกลมาแชร์คะแนนเสียงไปแต่คนส่วนใหญ่ก็มองไม่เป็นไรแต่ถ้ามีใครกระโดดออกจากตรงนี้นั้นแหละจะมีปัญหา

อ.ศิโรจน์ มองเรื่อง 2 พรรคจับมือเหนียวแน่น แต่สุดท้ายจะไม่ได้อะไร

ที่ผ่านมาเพื่อ ก็ไม่แน่ เพราะเพื่อไทยมีความสามารถในการเจรจา แต่ถ้าเพื่อไทยย้ายขั้ว คนก็จะมองว่าที่ผ่านมาเพื่อไทยไม่แน่จริง ซึ่งถามว่าถ้าข้ามขั้ไปแล้ว จะไปหาคะแนนเพื่อรวมเสียงเพิ่มยากไหม ตอบเลยว่ายากมาก แต่ก็อย่าลืมว่าเพื่อไทยมีความสามารถ เพื่อนเยอะ รู้จักคนเยอะ

วิเคราะห์โมเดลนายกฯ ที่จะถูกเสนอชื่อเข้าชิงในครั้งที่ 2 ถ้าเป็นเพื่อไทยจะผ่านไหม

อ.ศิโรจน์ : ก็เป็นไปได้ แต่ถ้าจะให้เพื่อไทยข้ามขั้วยังมองว่าเพื่อไทยไม่กล้าเสี่ยง

อ.เจษฏ์ : ทักษิณเป็นคนชอบลองดีม้าพยศและเป็นนักการพนัน ไม่มีอะไรไม่กล้า เพียงแต่ว่าเสี่ยวจะคุ้มค่าหรือเปล่า

เดือด! ตีแผ่เพื่อไทยทิ้งก้าวไกลเพื่อชาติได้ ชูทฤษฎีแก้ข้าวต้มมัด ส่งแม้วปราบม้าพยศ