เกาะกระแสการเมือง ที่ประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ มีการรวมตัวกันจัดกิจกรรมทางการเมือง โดยมีการเผาดอกไม้จันและรายชื่อสว. ที่ไม่เห็นด้วย ที่วันนี้ไม่ได้มีนายกฯชื่อพิธา
ขณะที่กรุงเทพฯ ทนายอานนท์ ขึ้นปราศรัย ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
โดยรายการลุยชนข่าว ได้เชิญนักวิชาการ ซึ่งมี รองศาสตราจารย์ เจษฎ์ โทณะวณิก , รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส , ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์
โดย อ.นันทนา มองถึงประเด็นสว.ยืนยันจุดยืนเดิม มีก้าวไกลไม่โหวตนายกฯ คิดว่าสุดท้ายยังเดินคู่ได้หรือไม่ว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยตัดสินใจในระยะยาว เขาก็คงไม่ด่วนกระโดดข้ามขั้วไม่เปลี่ยนขั้วทันที แต่ถ้ามองว่าเกมนี้เป็นเกมอำนาจ ถ้าหนะวันนี้มีโอกาสที่จะสร้างคะแนนนิยม เขาอาจจะกระโดดข้ามขั้วไป เพราะเงื่อนไขเริ่มมาถึงจุดไปต่อไม่ได้ มันก็เกือบจะถึงทางตัน
ตราบใดที่ยังไม่ได้ลองในแง่จับมือกันไว้ก่อนแล้วเสนอแคนดิเดต 1 คน เชื่อว่า ยังเปลี่ยนคน เปลี่ยนสถานการณ์พอโหวตได้ จริงๆ เพื่อไทยโชว์ความเก๋าว่าตัวเองมีประสบการณ์ มีความนิ่ง ตรงนี้
ต้องงัดออกมาใช้
ขณะที่ อ.คิโรตม์ มองประเด็น เรื่องการยกเลิกเกณฑ์ทหารถ้ามีการข้ามขั้ว เพื่อไทยก็ทำลำบาก และจะไปจับมือกับพลังประชารัฐ ลดขนาดกองทัพ มันเป็นไปไม่ได้ ถ้ายกตัวอย่างว่า พรรคเพื่อไทยขออำนาจรัฐไว้ก่อน ซึ่งเขายังไม่ได้พูด แต่ถ้าบังเอิญเขาบอกไม่เป็นไร ข้ามขั้ว ทำนโยบายเงินๆ ทองๆ เดี่ยวประชาชนกลับมารักเราเอง ไม่เชื่อ ไม่สำเร็จ รอบนี้คนเลือกด้วยนโยบายที่เป็นประชาธิปไตย และนโยบายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง
ส่วนอ.เจษฏ์ มองประเด็น เงินดิจิตอล 1 หมื่น เป็นเรื่องที่น่าจะเป็นไปไม่ได้ อยู่ดีๆ เอาเงิน 5 แสนล้านมาแจก พรรคไหนพูดเรื่องหว่านโปรยเงิน กกต.ต้องสกัด พรรคก้าวไกลเสนออะไรหลายๆอย่างที่พูดตรงๆ จุดนึงถ้าพรรคเพื่อไทยบอกอยู่กับก้าวไกลก็ได้ แต่ถ้าจะแสดงฝีมือในการจัดการ ในการคุยกับสว.ได้ด้วยทำให้สว.เชื่อและไว้ใจว่าเพื่อไทยเอาอยู่ คุณทักษิณไม่ใช่ไม่เสี่ยงที่อยู่กับก้าวไกล อยู่กับอีกฝั่งก็เสี่ยงเพื่อไทยเสี่ยงทั้ง 2 ฝั่ง
นอกจากนี้ อ.นันทนา ให้ความเห็นตอนพิธาออกจากสภา หลัง 14 พ.ค. ประเทศไม่เหมือนเดิม เห็นด้วย เพราะการเปลี่ยนแปลงตรงนี้ เป็นแบบพลิกแผ่นดิน เพราะเพื่อไทยก็เสนอการเปลี่ยนแปลงเหมือนกัน คนที่เลือกก้าวไกลเขาเข้าใจ คนที่พยายามพูดเรื่อง 112 มันเป็นการกล่าวหามากกว่า ถ้าถามว่า เพื่อไทย
ไม่จับกับก้าวไกลอะไรจะเกิดขึ้น มันจะต้องมีใครพังไปสักข้างนึง เขารู้สึกว่าพิธาเป็นนายกที่ดีที่สุดที่เคยเจอมาทำไมไม่ได้ เขาจะมองว่า สว.ชุดนี้สกัดเสียงเขา และเขาจะจดจำ ถ้าใครกระโดดออกไปคิดว่าประชาชนจะไม่ยอม
ด้านอ.ศิโรตม์ ให้ความเห็นประเด็น เรื่องเพื่อไทยจะไปจับมือกับพลังประชารัฐ คิดว่าเป็นไปได้ถ้าเพื่อไทยหน้ามืด ถ้าเพื่อไทยถอยเร็วจะพัง การไปข้ามขั้วมีผลต่อนโยบายเยอะ
นอกจากนี้ อ.เจษฎ์ ให้ความเห็นประด็น พล.อ.ประยุทธ์ ยุบสภาไมได้ คนที่จะยุบสภาต้องเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจเต็มและเป็นนายกรัฐมนตรีเองเท่านั้น พอมีก้าวไกลประเทศไทยไม่เหมือนเดิม ตั้งแต่มีก้าวไกลประเทศไทยเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม แต่วันนี้เห็นใจก้าวไกลก็เห็นใจ น่าเห็นใจเพื่อไทยเหมือนกัน สมมติว่า 2 พรรคสว.ไม่เลือก รอสว.หมดไป ก็ต้องมาดูว่า 2 พรรคจับมือกันหรือไม่ หมายสิ่งหลายอย่างโทษพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ต้องรักษาการต่อไป
ด้านอ.นันทนา มองประเด็นว่า เป็นคิวเพื่อไทยที่จะขึ้นมาจัดตั้งรัฐบาลได้ สว.ต้องเป็นจำเลยของสังคม ถ้าทนไม่ไหวก็เข้าเกมดีลลับลังกาวีมันมีอยู่จริง
ขณะเดียวกัน อ.เจษฎ์ มองประเด็น ดีลลับมีแต่ไม่เกี่ยวกับลังกาวี ดีลลับไม่ต้องไปลังกาวี ดีลลับเขาโทรศัพท์คุยกันอยู่แล้ว ผมว่านะ พล.อ.ประวิตรกับทักษิณคุยกันอยู่ และคุณทักษิณก็อาจจะคุยกับหลายคน