กรณี 2 คนร้าย ก่อเหตุอุกอาจ ตามยิงหนุ่มใหญ่ขณะกำลังเข้าห้องน้ำ กระหน่ำ 4 นัด จนวิ่งหนีตายสิ้นใจในบ้านคนอื่น ตำรวจพุ่งเป้าสาเหตุปัญหาส่วนตัว ล่าสุดพบเบาะแส รถยนต์คนร้าย มุ่งหน้าหลบหนีไปทาง อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร

วันที่ 20 กรกฎาคม 2566 ความคืบหน้า กรณี 2 คนร้าย ก่อเหตุอุกอาจ ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาด จ่อยิง นายทรงพล อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายน้ำแข็ง ที่ปากทางเข้าวัดสว่างเนตรดงขุย จนเสียชีวิตคาบ้าน ซึ่งเป็นบ้านของ นายบุญยัง อายุ 75 ปี โดยพฤติกรรม คือ 2 คนร้ายเป็นชาย รถยนต์กระบะ มาจอดอยู่ทางด้านหลังของบ้าน แล้วคนร้าย ทั้ง 2 คน ก็ได้เดินลงมาจากรถ เพื่อถามหาผู้ตาย โดยขณะนั้นผู้ตาย กำลังทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ ได้ตะโกนบอกขึ้นว่า” กูขี้อยู่ “ จากนั้น คนร้ายทั้ง 2 คน จึงเดินเข้าไปหาผู้ตาย และมีการพูดคุยกันสักพัก ก่อนจะทะเลาะกันและก่อเหตุ ใช้อาวุธปืนจ่อยิงผู้ตายที่บริเวณด้านหน้าห้องน้ำถึง4นัด จนผู้ตายอาศัยลมหายใจเฮือกสุดท้ายวิ่งหนีตายเข้าไปหลบในบ้านและเสียชีวิตในบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งจากการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียด พบว่า ผู้ตายถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ บริเวณปาก จำนวน 1 แห่ง , บริเวณหน้าท้องข้างสะดือ จำนวน 1 แห่ง,บริเวณ ด้านข้างตัวใต้รักแร้ข้างขวา จำนวน 1 แห่ง และใต้ข้อศอกแขนขวา จำนวน 1 แห่ง ซึ่ง 3 แห่งลูกกระสุนฝังใน นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุยังพบลูกกระสุนปืนตกอยู่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนคนร้ายทั้ง 2 หลังก่อเหตุได้ขับรถหลบหนีไม่ทราบทิศทาง

จากนั้นทีมข่าวจึงได้หาข้อมูลบริเวณพื้นที่เกิดเหตุจึงได้พบว่าก่อนที่นายดุ่ยจะเสียชีวิต ได้มีผู้พบและคุยกับนายุด่ยเป็นคนสุดท้าย คือ นายตี๋(นามสมมุต) ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ใกล้เคียงบริเวณที่เกิดเหตุและก่อนเกิดเหตุก็ได้ยืนคุยอยู่กับนายดุ่ย ทีมข่าวจึงสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยนายตี๋เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า

“ ก่อนเกิดเหตุตนได้ตัดหญ้าอยู่บริเวณข้างบ้านซึ่งเป็นเวลาประมาณ 18.00 น. ซึ่งส่วนตัวแล้วก็มีความสนิทกับนายดุ่ยประมาณหนึ่ง และนายโดยก็จะเทียวเข้ามาหาตายังและภรรยา เพื่อเอาของเข้ามาให้โดยในเมื่อวานก็เช่นกันนายหนุ่ยได้เข้ามาหาตายัง จากนั้นจึงเดินมาหาตนและได้พูดกับต้นประมาณว่าขอยืมตังค์ซัก 50 บาทเพื่อจะเอาไปเติมน้ำมันรถซาเล้ง โดยตนก็บอกไปว่ามีเพียงแค่ 40 บาทและก็กำลังจะล้วงกระเป๋าให้จากนั้นมีรถกระบะขับเข้ามาบริเวณหลังบ้านตายัง โดยในขณะนั้นเมื่อไหร่ดูเห็นรถขับเข้ามาก็ได้พูดขึ้นมาว่ารถใครวะ และได้เริ่มเดินเลาะรั้วบ้านของตนเพื่ออ้อมไปยังบ้านตายัง จากนั้นก็มีชายสองคนเดินลงจากรถและชายคนหนึ่งก็ได้เดินเข้ามาหาตนและถามว่าเมื่อกี๊ใครเดินผ่านไป ซึ่งตนก็ไม่ได้ตอบอะไร ชายคนดังกล่าวก็ได้เดินเลาะรั้วบ้านของตนตามนายดุ่ยไป ส่วนอีกคนหนึ่งเดินเข้าไปที่บ้านตายัง และชายสองคนดังกล่าวก็ได้ไปเรียกนายดุ่ย ที่บริเวณห้องน้ำของบ้านตายัง ที่นานดุ่ยได้เดินไปหลบอยู่ จากนั้นก็มีการคุยกันลักษณะว่าอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาขอตรวจฉี่นายดุ่ย

และมีเสียงนายดุ่ยโวยวาย ลักษณะว่าจะตรวจอะไรก็ได้แต่ต้องเอาบัตรมาแสดงก่อนว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงจากนั้นได้เพียง ประมาณ 2 นาทีตนก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นสามนัด จากนั้นชายทั้ง2คนก็ได้เดินมาที่รถแล้วขึ้นรถไป โดยชายผู้เป็นคนนั่งข้างได้ลงจากรถมาอีกหนึ่งรอบ และเดินเข้าไปที่บ้านตายัง และมีเสียงปืนดังขึ้นอีกหนึ่งนัดรวมทั้งหมดสี่นัด และชายคนดังกล่าว ก็ได้กลับมาที่รถเราทั้งสองคนก็ขับรถออกจากบ้านของตายังไป

จากนั้นก็มีเสียงตายังมาเรียกตน ว่าให้ช่วยนายดุ่ยด้วย นายดุ่ยถูกยิงแผลเต็มตัวไปหมด ตนจึงรีบวิ่งไปดู ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณสองสามวันต้นเห็นชายคนที่เป็นคนนั่งข้างมากับพวกอีกประมาณสามคนและได้มาสอบถามหานายดุ่ยกับหลานของตน ซึ่งปกติแล้วนายดุ่ยจะเป็นคนที่พูดจาโวยวาย เป็นเรื่องปกติแต่ไม่มีอะไร

ในวันนี้นี้ทีมข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปยังที่เกิดเหตุซึ่งที่เกิดเหตุเป็นบ้านของ ตายังอายุ 75 ปีซึ่งอยู่บ้านกับภรรยาอายุ 90 ปี ซึ่งสองตายายเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ที่นายโดยถูกสองคนร้าย อ้างเป็นตำรวจเข้ามาขอตรวจฉี่ และหลังจากนั้นนายดุ่ยจึงถูกยิง เข้ามาเสียชีวิตในบ้านของตายัง

โดยทีมข่าวได้พบกับตายัง ทีมข่าวจึงสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยตายังเล่าให้ทีมข่าวฟังว่า

“นายหนุ่ยเปิดร้านน้ำแข็งอยู่ในตำบลดงขุยและจะคอยเข้ามาที่บ้านเสมอ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้เข้ามาเป็นเวลาหลายวันและเมื่อสองสามวันที่ผ่านมาก็ได้กลับเข้ามาโดยไม่เข้ามาจะนำอาหารมาให้สุนัขและคอยเขาข้าวสารและอาหารอื่นๆมาให้ตนและภรรยาโดยก่อนเกิดเหตุนายเมื่อคืนนายดุ่ยได้เข้ามาที่บ้าน และนำน้ำมันมาเติมรถซาเล้งที่จอดไว้หน้าบ้านของตนจากนั้นตนซึ่งนอนอยู่ในบ้านก็ได้ยินมีเสียงรถขับเข้ามาบริเวณหลังบ้านแต่ตนก็ไม่ได้เดินออกไปดูแล้วได้ยินเสียงถามหานายดุ่ยและได้ยินเสียงคุยกัน ลักษณะว่าเหมือนมีการขอตรวจฉี่แต่นายดุ่ยก็โวยวาย ประมาณว่าจะตรวจฉี่ตรวจขี้อะไรก็ได้ แต่ต้องเอาบัตรมาแสดงก่อนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ประมาณสองถึงสามนาที หลังจากนั้นตนจึงได้ยินเสียงปืนดังขึ้นก็คิดว่าต้องเกิดเหตุการณ์ไม่ดีแน่นอนแต่ไม่กล้าออกไปดูจากนั้นได้ยินเสียงเหมือนนายดุ่ย คลานเข้ามาในบริเวณบ้านของตนและเหมือนเสียงคนเดินตามมาและได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีกหนึ่งนัด จากนั้นตนจึงได้ยินเสียงรถขับออกไป เมื่อได้ยินเสียงรถขับออกไปต้นจึงลุกจากที่นอนแล้วเดินมาดูก็พบว่าในดุ่ยนอนเสียชีวิตพิงเสามุมบ้านของตนและมีบาดแผลถูกยิงจำนวนหลายนัด ตนจึงได้เรียกเพื่อนบ้านให้เข้ามาช่วย และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งโดยปกติแล้วนายดุ่ยเป็นคนจิตใจดี และคอยเข้าเอาของมาให้ตนตลอด แต่นายดูจะเป็นคนที่พูดจาเสียงดังดูลักษณะเหมือนโวยวายและไม่ทราบว่านายดุ่ยมีปัญหาอะไรกับใคร มาก่อนหน้านี้หรืออาจเป็นเพราะความที่เป็นคนโวยวายจึงอาจจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้ถูกยิง

จากภาพวงจรปิดจะเป็นภาพที่ จับภาพรถคนร้ายระหว่างหลบหนีได้โดยคนร้ายใช้เส้นทางดงขุย-พิจิตร โดยใช้รถกระบะโตโยต้าวีโก้สีบรอนเงิน ลักษณะตอนครึ่ง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ซึ่งจากภาพเป็นช่วงเวลาหลังจากที่คนร้ายได้ก่อเหตุยิงนายดุ่ยแล้วใช้เส้นทางดังกล่าวหลบหนี เวลาที่คนร้ายขับรถผ่านกล้องเวลา18.54น.

กล้อง1 ช่วงนาทีที่ 0.08 ของคลิปรถคนร้ายวิ่งผ่านมุ่งหน้าพิจิตร(ปั้มน้ำมัน)

กล้อง2 ช่วงนาทีที่ 00.22 ของคลิป คนร้ายขับรถผ่าน(ร้านอะไหล่รถ)

กล้อง3ช่วงนาทีที่ 00.20ของคลิป คนร้ายขับรถผ่าน(ร้านอะไหล่รถที่เดียวกับตัวที่2)

จากนั้นทีมข่าวจึงได้ข้อมูลสอบถามเพิ่มเติม จากนายตี๋จึงทราบว่า ก่อนหน้านี้ได้โดยมีประวัติเคยใช้สารเสพติดแต่ได้เลิกมาประมาณสองปีแล้ว ซึ่งนายดุ่ยเคยถูกส่งบำบัดพร้อมกับนายตี๋ และนายดุ่ยเคยพูดถึงเรื่องการมีปัญหากับแก๊งปล่อยเงินกู้ให้นายตี๋ฟัง แต่นายตี๋ไม่ทราบรายละเอียด