กรณีวันที่ 19 ก.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานบำเพ็ญกุศลศพคุณยายปราณี หรือ “ ยายปราณี ” อายุ 79 ปี ที่ ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 12 ก.ค.66 ที่ผ่านมา โดยลูกหลานนำศพคุณยายปราณี ตั้งศพบำเพ็ญกุศล และกำหนดพระราชทานเพลิงศพ วัดเพชรจริก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ในวันที่ 20 ก.ค.66
ด้านนายสวัสดิ์ แซ่ซี่ หรือ “ คุณตาซ่วน ” อายุ 85 ปี สามีคุณยายปราณี ซึ่งอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียกับการจากไปของคุณยายปราณี ภรรยาสุดที่รัก จึงมานั่งฟังพระสวดพระอภิธรรมศพอย่างใกล้ชิดทุกคืน แต่ปรากฏว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (18 ก.ค.) หลังสวดพระอภิธรรมพบว่า คุณตาซ่วน นั่งนิ่งหลับไป เมื่อตรวจสอบพบว่าคุณตาซ่วน เสียชีวิตแล้วอย่างสงบ ทางลูกหลาน จึงนำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลคู่กัน ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจ
วันนี้ 20 กรกฎาคม 2566 ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายังวัดเพชรจริก จ.นครศรีธรรมราช โดยตอนที่ทีมข่าวมาถึงพบว่าเป็นช่วงค่ำ ซึ่งครอบครัวได้เผาศพตาซ่วน และยายปราณี ไปตั้งแต่เวลา 15.00 น. ของวันนี้แล้วนั้น
ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนางสาวฉวีวรรณ ลูกสาวคนที่ 4 ของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตาซ่วน และยายปราณี พ่อแม่ของตัวเองนั้นครองรักกันมากว่า 60 ปี ซึ่งทั้งสองคนรัก ผูกพันกันมาก
กระทั่งปีหลังๆมานี้ ยายปราณี แม่ของตัวเองได้ป่วยโรคประจำตัวคือโรคเบาหวาน,โรคหลอดเลือดสมอง,และโรคหัวใจตีบ กระทั่งวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 เวลา 07.00 น. นางปราณี แม่ของตัวเองได้เสียชีวิตลง
วันที่ 13 กรกฎาคม 2566 เป็นวันรดน้ำศพของแม่ปราณี ตอนนั้นตาซ่วน พ่อของตัวเองก็ได้นั่งรถวิลแชร์ มารดน้ำศพภรรยา พร้อมพูดออกมาให้ลูกๆได้ยินว่า “อยากตาย ใจจะขาด ” ซึ่งตอนนั้น คาดว่าพ่อคงทำใจไม่ได้ ที่แม่เสียชีวิต หลังจากนั้นพ่อก็จะมานั่งฟังสวดอภิธรรมทุกวัน
จนมาถึงเย็นวันที่ 18 กรกฎาคม 2566 เวลาประมาณ 19.00 น. ตาซ่วน พ่อของตัวเองก็ได้มานั่งฟังพระสวดอภิธรรมตามปกติ (นั่งบนรถวิลแชร์) โดยพระได้สวดอภิธรรมประมาณ 30 นาที พอสวดอภิธรรมเสร็จ ทุกคนต่างลุกออกจากศาลาวัด มีแค่ตาซ่วนคนเดียว ที่นั่งนิ่งอยู่ในศาลาวัด ตัวเองและลูกหลานคนอื่นๆ จึงเข้าไปสะกิดเรียกตาซ่วน ว่าพระสวดเสร็จแล้ว ก็ปรากฏว่า ไปเห็นตาซ่วนนั่งนิ่ง ตัวแข็งสภาพหลับตาทั้ง 2 ข้าง อยู่บนรถวิลแชร์ พอตัวเองจับชีพจรดู ก็พบว่าชีพจรไม่เต้นแล้ว จึงมีการโทรเรียกพยาบาลให้มาดูอาการ กระทั่งพบว่า ตาซ่วน ได้เสียชีวิต
โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ ตัวเองจึงเชื่อว่า ที่ตาซ่วนเสียชีวิตตามคุณยายปราณีนั้น อาจเป็นพรหมลิขิต เพราะตอนแรก ลูกๆตั้งใจจะเผาศพคุณยายปราณี ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดอีกแห่ง แต่สุดท้ายก็ได้เอามาตั้งที่วัดเพชรจริก ซึ่งบังเอิญอีกว่า วัดเพชรจริก ก็มีเมรุสองอันตั้งคู่กัน จึงคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด เป็นเรื่องของพรหมลิขิต
ด้านนางนวล อายุ 61 ปี ลูกคนที่ 2 ให้สัมภาษณ์ว่า ตลอด 60 ปีที่พ่อและแม่อยู่ด้วยกันมา ทั้งสองรักกันมากไม่เคยแยกจากกัน
ตัวเองเชื่อว่าเมื่อเย็นวันที่ 18 กรกฎาคม 2566 ที่พ่อเสียชีวิตนั้น ก่อนเสียชีวิตพ่อต้องกำหนดจิตให้หยุดหายใจขณะฟังพระสวดแน่นอน เพราะวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 ขณะรดน้ำศพคุณแม่ พ่อได้บอกกับลูกๆว่า “เตี่ยอยากตาย” และคืนวันที่ 17 กรกฎาคม 2566 คืนก่อนพ่อเสียชีวิต 1 วัน ตัวเองได้นอนกับพ่อ แล้วสังเกตว่า พ่อจะกระวนกระวาย นอนไม่หลับทั้งคืน เหมือนคิดอะไรบางอย่างอยู่ กระทั่งเย็นวันที่ 18 กรกฎาคม 2566 พ่อก็ได้เสียชีวิต
สำหรับพ่อเป็นคนไม่ค่อยพูด ท่านไม่เคยพูดเป็นคำสอนแต่จะปฏิบัติให้ลูกๆเห็นตลอดว่า พ่อเป็นคนดี พ่อเป็นคนมีระเบียบ และพ่อก็ทำงานเก่งสู้ชีวิตกับแม่มาตลอด
ตัวเองอยากให้พ่อและแม่ไปสู่สุขคติ วันนี้ศพทั้ง 2 ก็เผาเมรุคู่กัน คิดว่าทั้งสองคงจูงมือกันขึ้นสวรรค์พร้อมกัน