จากกรณีที่ชาวบ้านในอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อ้างว่าพบตำรวจนายหนึ่ง เดินไปเดินมา อยู่บริเวณจุดกลับรถหรือจุดยูเทิร์น เยื้องตลาดนัดบ้านพนมดิน ในตัวอำเภอพนมดงรัก ก่อนที่ตำรวจนายนี้ จะเดินไปโบกรถที่กำลังยูเทิร์น เพื่อเรียกตรวจ
แต่สิ่งที่ชาวบ้านในพื้นที่ จับตามองตำรวจนายนี้ ก็คือไม่คุ้นหน้า และแต่งตัวไม่เรียบร้อย ทั้งไม่ได้พกบัตรเจ้าพนักงานในขณะปฎิบัติหน้าที่ พอชาวบ้านให้แสดงบัตรก็บอกว่าบัตรอยู่สถานีตำรวจ ชาวบ้านต่างตั้งข้อสงสัยว่า ถ้าเป็นการตั้งด่าน ทำไมถึงได้ปฎิบัติหน้าที่อยู่คนเดียวไม่มี การตั้งด่านหรือผู้บังคับบัญชา คอยอยู่ควบคุม ชาวบ้านเกรงว่าจะเป็นตำรวจปลอมหรือไม่
ล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ บริเวณจุดกลับรถหรือจุดยูเทิร์นหน้าร้านนงนภัส เยื้องตลาดนัดบ้านพนมดิน อำเภอพนมดงรัก พบว่า บริเวณดังกล่าว เป็นจุดกลับรถตามปกติ ไม่ได้มีป้ายแจ้งเตือนห้ามกลับรถ
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถามน.ส.เกวลิน อายุ 21 ปี คนที่อยู่ในเหตุการณ์และเป็นเจ้าของร้านค้า เล่าให้ฟังว่า ช่วงเวลาประมาณ 6 โมงเย็นเกือบจะ 1 ทุ่ม มีชายแต่งกายคล้ายตำรวจ สวมใส่ชุดเครื่องแบบตำรวจ แต่ไม่มียศบนบ่าและไม่มีป้ายชื่อติดบนหน้าอกเสื้อ ขับรถยนต์เก๋งมาจอดตรงข้ามร้านลาบก้อย ซึ่งอยู่ข้างๆ ร้านค้าของตนเอง ในลักษณะการจอดแบบคล่อมเลนถนน ไม่ได้จอดชิดถนน ก่อนชายคนนี้จะเดินมาที่ร้านและมาชื้อเบียร์ จำนวน 1 กระป๋อง จากนั้นก็เดินหายไปที่ร้านลาบก้อย
สักพักไม่นานก็เห็นชายแต่งกายคล้ายตำรวจ เดินที่กลางถนน ก่อนจะไปโบกรถยนต์ของประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าที่มากลับรถหรือยูเทิร์นรถ จากนั้นก็ลักษณะเรียกรับเงิน หากใครไม่จ่ายก็จะทำทีโทรศัพท์และบอกให้เจ้าของรถยนต์ไปที่โรงพัก อ้างว่าให้ไปเสียค่าปรับที่โรงพัก แต่ชาวบ้านรู้ทันและไม่ให้เงินไป
จนกระทั่งมามีผู้เสียหาย ซึ่งตนเองไม่รู้ว่าเป็นใคร ขับกระบะสีดำและมายูเทิร์น พอชายคนนี้เห็นก็เดินไปกลางถนนและโบกให้รถกระบะสีดำจอด จากนั้นก็เรียกตรวจเอกสารกับเจ้าของรถ แต่เจ้าของรถไม่ยอม จึงเกิดการโวยวายและได้มีการขอดูเอกสารราชการหรือบัตรประจำตัวข้าราชการตำรวจ แต่ชายคนนี้อ้างว่าไม่ได้พกมา ก่อนที่ภรรยาเจ้าของรถทำการไลฟ์สดบนเฟซบุ๊ค จึงทำให้ตนเองและชาวบ้านต่างตั้งข้อสงสัยว่า ถ้าเป็นการตั้งด่าน ทำไมถึงได้ปฎิบัติหน้าที่อยู่คนเดียว และบริเวณดังกล่าวกลับรถหรือยูเทิร์นรถได้หรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบชายคนนี้เป็นตำรวจจริงหรือไม่
นอกจากนี้น.ส.เกวลิน ยังบอกอีกว่า จากการดูลักษณะท่าทางของชายนี้ เชื่อว่าเมาแน่นอนและอาจจะดื่มมาทั้งวันแล้วด้วยซ้ำ
ต่อมาเราได้รับคลิปกล้องวงจรปิดที่ร้านค้า เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม66 ซึ่งยืนยันได้ว่า ด.ต.นายหนึ่ง ดื่มเครื่องแอลกอฮอล์ ขณะปฏิบัติหน้าที่
โดยคลิปเวลา 18.43น. จะเห็นด.ต.ยืนอยู่หน้าร้าน โดยด.ต. ได้มาชื้อเบียร์ จำนวน 1 กระป๋อง หลังจากได้เบียร์ ต่อมาด.ต. ได้เดินไปที่ร้านลาบก้อยติดกับร้านค้า จากนั้นกล้องตัดไป
คลิปต่อมาเวลา 19.02น. ด.ต. ได้เดินออกมายืนที่หน้าร้านค้า ก่อนที่สักพักจะเดินไปที่รถเก๋งของ ด.ต.ปพลพัฒน์ ที่จอดอยู่ริมถนน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่รถกระบะสีดำเลี้ยวกลับรถพอดี ด.ต.จึงได้โบกให้จอด จากนั้นก็เรียกตรวจเอกสารกับเจ้าของรถกระบะคันดังกล่าว
ส่วนคลิปต่อมาเป็นคลิป 19.15น.คลิปต่อเนื่อง จะเห็นว่ามีผู้หญิงที่นั่งมากับรถกระบะสีดำ ถือโทรศัพท์ไลฟ์สด และได้พูดในลักษณะทำนองว่า ได้กลิ่นแอลกอฮอล์โชยมาจาก ด.ต. จากนั้นผู้หญิงคนดังกล่าวก็ขึ้นรถกระบะไป
ก่อนที่เวลา 19.19น.ด.ต.จะเดินไปขึ้นรถยนต์เก๋งของด.ต. ที่จอดอยู่ริมถนน แล้วก็ขับออกไป
ล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ บริเวณจุดกลับรถหรือจุดยูเทิร์น เยื้องตลาดนัดบ้านพนมดิน อำเภอพนมดงรัก พบว่า บริเวณดังกล่าว เป็นจุดกลับรถตามปกติ ไม่ได้มีป้ายแจ้งเตือนห้ามกลับรถ
ต่อมาเราได้ไปคุยกับนายสุข อายุ 50 ปี เจ้าของร้านลาบ ยืนยันกับเรา ชายคนดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง มีชื่อเล่นว่า นายหมาย อายุ 50 ปี จำชื่อจริงไม่ได้ ส่วนนายหมายกับตนเองเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนมานานแล้ว ก่อนจะสอบติดข้าราชการตำรวจและไปปฎิบัติหน้าที่อยู่กรุงเทพ และเพิ่งย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ อยู่ที่สภ.พนมดงรัก ได้ไม่นาน โดยตนเองก็ไม่ได้ติดต่อกับนายหมาย มานายมาก จึงไม่รู้รายละเอียดอะไร
วันเกิดเหตุตนเองก็เห็นนายหมาย ขับรถยนต์เก๋งมาจอดหน้าร้าน ในลักษณะเมา ก่อนจะเห็นถือกระป๋องเดินผ่านร้านไป และไปนั่งดื่มที่กระท่อมด้านหลังร้าน ตนเองก๋ไม่ได้สนใจอะไรเพราะเห็นว่าเมามากแล้ว
นายสุข ยังบอกอีกว่า ก่อนที่ตนเองจะปิดร้านได้ยินนายหมายพูดแว่วๆ ว่าไม่มีเงิน จะไปหาเงินก่อน ซึ่งตนเองก็ไม่คิดว่านายหมายจะไปหาเงินในลักษณะนี้ พร้อมกับวอนให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบและลงโทษเด็ดขาด
ต่อมาเราได้เดินทางไปที่ สภ.พนมดงรัก และได้สังเกตพร้อมกับเดินตรวจสอบภายในสภ.พนมดงรัก ไม่พบเจ้าหน้าที่ตำรวจนายดังกล่าว ปฎิบัติหน้าที่อยู่บนสถานีในขณะนั้น
จากนั้นเราจึงได้เข้าไปสอบถาม พ.ต.อ.นพดล พินิจอักษร ผกก.สภ.พนมดงรัก ทราบว่า นายตำรวจดังกล่าว ชื่อ ด.ต.ปพลพัฒน์ ซึ่งวันนี้ได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ 1 วัน และไม่ทราบว่าไปไหน
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากวันดังกล่าวตนเองได้สั่งการให้ ด.ต.ปพลพัฒน์ ออกปฏิบัติงานรักษาความปลอดภัยตามเส้นทางรับเสด็จโดยเฉพาะจุดเสี่ยงการจราจร
ซึ่งในการปฏิบัติหน้าที่ด้านการจราจร รถยนต์ของประชาชนที่สัญจรผ่านเส้นทางดังกล่าว อาจจะกีดขวางการจราจร จึงได้เรียกให้หยุดรถ ซึ่งอาจจะใช้คำพูดที่ไม่สุภาพในการพูดคุยกับประชาชน
ซึ่งก็ยอมรับว่า ก่อนที่ ด.ต.ปพลพัฒน์ จะย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ที่ สภ.พนมดงรัก ก็มีพฤติกรรมและการปฏิบัติกับประชาชนไม่สุภาพ
ส่วนกรณีที่ ด.ต.ปพลพัฒน์ เมาหรือดื่มแอลกอฮอล์ขณะปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ยอมรับว่ายังไม่ได้ตรวจสอบ เนื่องจากได้สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ไปก่อน แต่จากการสอบถาม ทราบว่า ด.ต.ปพลพัฒน์ เป็นคนที่มีบุคคลิกภาพคล้ายกับคนที่เมาสุราอยู่ตลอด แต่ก็ยังไม่ยืนยันว่าวันดังกล่าว ด.ต.ปพลพัฒน์ ได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขณะปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ซึ่งในเบื้องต้นได้สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว
พร้อมกับสั่งการให้ด.ต.ปพลพัฒน์ ชาติมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่สายตรวจและให้ปฏิบัติหน้าที่ สิบเวร โดยประจำการอยู่บนโรงพักแทน โดยมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป รวมทั้งให้ด.ต.ปพลพัฒน์ ชาติมนตรี เขียนรายงานข้อเท็จจริงส่งผู้บังคับบัญชา นอกจากนี้ตนเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจได้สั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ากระทำผิดจริง จะต้องถูกดำเนินการตามระเบียบวินัยต่อไป