จากกรณี “กัน จอมพลัง” พร้อมด้วย ทนายโรส และเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ราชบุรี เข้าพบ พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ วงค์เกตุใจ ผกก.สภ.บ้านโป่ง สอบถามถึงความคืบหน้าคดี นายวรายุทธ หรือปอนด์ อายุ 28 ปี และ น.ส.ละอองดาว หรือดาว อายุ 28 ปี ลูกสะใภ้ ร่วมกันก่อเหตุใช้สากทุบหัวชิงทรัพย์ นางมณีรัตน์ คำใส อายุ 57 ปี ผู้เป็นแม่ภายในบ้านพัก อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี จนได้รับบาดเจ็บสาหัส
เมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งนายวรายุทธ ปรือปอนด์ ส่งหลักฐานให้ทีมข่าวช่อง8 โดยภาพจะเห็นนายวรายุทธเติมน้ำมัน ประมาณ 07.48 น. โดยเหตุการณ์ทำร้ายแม่เกิดขึ้นเมื่อ 07.35 น. เป็นไปไม่ได้ที่จะทำร้ายแม่
โดยนายวรายุทธ์ ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นคนก่อเหตุ และถูกจับดำเนินคดีว่าร่วมสะใภ้ทำร้ายแม่
ล่าสุดคดีพลิก ตำรวจสภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้เปิดเผยว่า นางละอองดาว ลูกสะใภ้ ได้ยอมรับสารภาพแล้วว่าร่วมกับพี่ชาย คือ นายศรุดา เข้าไปทำร้ายนางมณีรัตน์ แม่ของนายวรายุทธ ส่วนนายวรายุทธ์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
จากการสอบสวน นางละอองดาว ให้การว่า นายศรุดา ขี่ออกมาจากบ้านของนางละอองดาว และมาจอดที่หน้าปากซอยบ้านของผู้บาดเจ็บ และเดินเท้าเข้าไปที่บ้านของผู้เสียหาย ก่อนจะปีนหน้าต่างเข้าหลบซ่อนตัวอยู่ รอจนผู้เสียหายกลับมาในเวลา 07.30 น. เมื่อผู้เสียหายเข้าไปในบ้านจึงได้ช่วยกันทำร้าย โดยใช้สายไฟรัดมือและเท้า ก่อนจะใช้สากกระเบือทุบ จากนั้นก็ชิงกระเป๋าสะพายของผู้ตายไปซึ่งมีเงินสด 3000 บาท แหวนทอง 2 วง ก่อนจะหลบหนี โดยนางละอองดาวไปยืนรอนายศรุดา ที่หน้าห้องผู้เสียหาย ตามภาพที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด ที่มีผู้หญิงสวมเสื้อสีแดงยืนอยู่ที่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย เพื่อรอนายศรุดา มารับก่อนจะพากันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีและนำของกลางซึ่งเป็นสากกระเบือ เสื้อผ้าที่สวมใส่ รวมทั้งกระเป๋าของผู้เสียหายไปทิ้งในถังขยะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังเทศบาลเมืองบ้านโป่ง เพื่อตรวจสอบรถขนขยะที่มาเก็บขยะในวันนั้นเพื่อจะได้ไปค้นหาหลักฐาน รวมทั้งนำผู้ต้องหาทั้งสองคนไปตรวจค้นที่บ้านเพื่อหาของกลาง
เบื้องต้นนางละอองดาว ซึ่งเป็นลูกสะใภ้ได้ยอมรับสารภาพว่า สาเหตุที่ทำร้ายแม่ผัว เนื่องจากเก็บความแค้นไว้นานเพราะแม่สามีนั้นพยายามกีดกันความรักระหว่างตนกับสามี และพยายามไปพูดให้ร้ายตนกับคนอื่น จนได้ชักชวนพี่ชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกันมาดักรอทำร้ายแม่ผัวดังกล่าว
โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิด บันทึกภาพของพี่ชายและนางละอองดาวขี่จักรยานยนต์หลังก่อเหตุ
ล่าสุดเมื่อเวลา 20.00 น. เจ้าหน้าที่กรมราชฑัณฑ์ได้ปล่อยตัวนายวรายุทธ์ หรือ ปอนด์ ออกจากเรือนจำกลางจังหวัดราชบุรี หลังศาลได้มีคำสั่งให้ปล่อยตัว เรื่องจากพบว่าไม่ได้มีส่วนกระทำความผิดทำร้ายร่างกายแม่และลักทรัพย์ โดยมีพี่ชายนายปอนด์ มารอรับ
ซึ่งหลังจากที่นายปอนด์ได้เดินออกมาจากเรือนจำ ทางพี่ชายและพี่สะใภ้ ได้เดินไปจูงมือและเรียกชื่อปอนด์ พร้อมกับบอกว่า “ปอนด์พี่มารับแล้ว กลับกับพี่นะ มีเรื่องจะบอกคนที่ทำร้ายแม่ คือเมียเอ็งนะ” ซึ่งตอนนั้นนายปอนด์ รับปากว่าจะกลับกับพี่ชายตัวเองแล้ว
ระหว่างนั้นทางพี่ชายละอองดาว และพี่สะใภ้ของละอองดาว เดินเข้ามากระชิดตัว และบอกว่า “ไปกับพี่นะ อย่าไปกับมัน มันต่อยเอ็ง ตอนนี้เมียเอ็งก็รออยู่ที่รถแล้ว”ทำให้ตอนนั้นนายปอนด์รู้สึกสับสน จนทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายมีปากเสียงกัน
โดยพี่ชายของละอองดาว อ้างว่า ถ้าหากกับพี่ชาย จะไม่ได้กลับ แต่จะถูกส่งไปบำบัดยาเสพติด แล้วอาจจะโดนทำร้ายร่างกาย ซึ่งพี่สะใภ้ของนายปอนด์ยังโต้เถียงกลับไปว่า “ยังจะกล้ามาอีกหรอ ทำขนาดนี้แล้ว”
ซึ่งสุดท้ายนายปอนด์บอกกับทุกคน ขอเลือกไปกับครอบครัวภรรยา
ซึ่งพี่ชายของละอองดาว ก็เข้าไปนำตัวปอนด์ไปที่รถ ระหว่างนั้น นางละอองดาว ก็ปรากฏตัวขึ้นมา พร้อมกับเข้าไปควงนายปอนด์ พร้อมกับร้องไห้ และบอกว่า “กลับบ้านกันนะ” แล้วก็รีบนายปอนด์ขึ้นรถทันที
จากนั้นทีมข่าวได้ สอบถามนางละอองดาวว่า “ตอนนี้ได้รับการประกันมาใช่ไหม สรุปว่าเรายอมรับหรือไม่ ว่าทำร้ายร่วมกันกับญาติพี่น้องหรือไม่ แต่ละอองดาวไม่ตอบคำถาม และเมื่อทีมข่าวถามนายปอนด์ว่ารู้หรือไม่ว่าตำรวจจับตัวตนที่ทำร้ายแม่เราได้แล้ว คือละอองดาวกับญาติพี่น้อง ทางนายปอนด์บอกว่า ผมไม่ทราบเลย ผมอยู่ในเรือนจำ นางละอองดาว สั่งให้ปิดทันที
ด้านนายปาล์ม พี่ชายนายปอนด์ ถึงกับขั้นคอตก ส่วนพี่สะใภ้ถึงขั้นน้ำตาที่นายปอนด์ เลือกไปอยู่กับครอบครัวภรรยาที่ทำร้ายแม่ แต่ที่จะมาอ้างว่ากลัวว่าผมจะต่อยเหมือนวันที่ขับได้ว่าแม่ถูกทำร้ายนั้น ผมยอมรับว่าโกรธมาก เพราะคิดว่านายปอนด์ทำร้ายแม่จริง แต่มาถึงตอนนี้แล้ว พอรู้ความจริงแล้ว ไม่อยากทำร้ายน้อง แต่ฝ่ายนู้นใช้เป็นข้ออ้าง เพื่อชิงตัวน้องชายไป
ก่อนหน้าทางพี่ชายละอองดาว โทรมาขอให้ถอนแจ้งความ ซึ่งการที่มาชิงตัวนายปอนด์ไปอย่างนี้ ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวข้องกับคดีด้วยหรือไม่ ยอมรับว่าเครียดมาก ไม่รู้ว่าจะกลับไปบอกแม่อย่างไร ว่านายปอนด์ไปกับครอบครัวละอองดาวแล้ว
หลังจากนี้ตำรวจจะยังคงเรียกนายปอนด์ มาสอบปากคำเพิ่มเติม ถึงเชื่อมโยงที่ภรรยาตัวเองและพี่ชายภรรยา เป็นคนก่อเหตุแม่ตนเองแท้ๆ เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบว่านายปอนด์ รู้เห็นด้วยหรือไม่ที่ภรรยาตนเองกับญาติพี่น้องไปทำร้ายหวังชิงทรัพย์