จากกรณีเมื่อวานนี้ 21 ก.ค.66 เวลา 20.00 น. นายไพโรจน์ ผันโพธิ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 15 ต.บางแก้ว จ.สมุทราปราการ ได้รับแจ้งคนคลุ้มคลั่งเสพยาบ้าจนหลอนจับแม่ตัวเองกระแทกกับพื้นห้อง จะโยนแม่ออกหน้าต่างของอาคารแต่แม่คว้าแขนไว้ทัน เกือบตกตึกจากชั้น 5 เสียชีวิต เหตุการณ์เกิดขึ้นภายในอาคารเคหะบางนา-ตราด
ทีมข่าวช่อง 8 เราได้ภาพจากกล้องวงจรปิดเหตุการณ์เมื่อวานนี้ (21 ก.ค.) คลิปตัวที่ 1 เวลาประมาณ 2 ทุ่ม จะเห็นยายติ๋มผู้เป็นแม่ได้เดินออกจากห้องพักเดินลงไปที่ร้านค้าใต้อาคาร เพื่อไปซื้อเหล้าขาวให้ตามคำสั่งของนายเต๋าลูกชาย โดยนายเต๋าได้ยืนรอแม่อยู่บริเวณทางขึ้นบันไดชั้น 5
แต่ทราบว่า ขณะนั้นยายติ๋มไม่มีเงินสักบาท ทำให้ต้องโกหกลูกชายว่า ลงไปซื้อให้แล้วแต่ร้านไม่ยอมขายให้ เพราะร้านไม่รับเซ็นค่าเหล้าแล้ว
จากนั้นคลิปตัวที่ 2 จะเห็นนายเต๋าลูกชาย ได้ยืนรอเหล้าขาวจากแม่อยู่หน้าบันได เมื่อนายเต๋าเห็นว่า ยายติ๋มผู้เป็นแม่ไม่ได้เหล้าขาวกลับมา จึงลงมือทำร้ายร่างกาย พร้อมกับจิกหัวแม่ตัวเองจนล้มลงกับพื้น ก่อนจะลากจิกหัวแม่ขึ้นมาพาดกับขอบหน้าต่างของอาคารชั้น 5 ก่อนที่กล้องจะตัดไปช่วงที่นายเต๋าเดินย้อนกลับเข้าไปในห้อง ส่วนยายติ๋มหลังรอดตายได้ลงไปขอความช่วยเหลือกับชาวบ้านใต้ตึก
เช่นเดียวกับ นายทรงกรต ทามาฤทธิ์ อายุ 50 ปี เจ้าหน้าที่นิติของอาคาร ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมตึก ที่เคยเข้าไปช่วยยายติ๋ม ขณะถูกนายเต๋าทำร้าย ตามคลิปกล้องวงจรปิด (ชายเสื้อสีขาว) เจ้าตัวบอกว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว นายเต๋าเคยทำร้ายแม่ตัวเองจนบาดเจ็บสาหัสมาแล้ว ตอนนั้นตนเองอยู่ในเหตุการณ์พยายามเข้าไปช่วยห้ามแต่ก็ถูกนายเต๋าปรี่เข้ามาหาและใช้มือบีบคอ
ก่อนที่เจ้าตัวจะได้สติ และได้คุกเข่าก้มกราบตนเองตามภาพกล้องวงจรปิด พร้อมกับร้องไห้สำนึกผิด หลังจากได้สติว่า คนที่มันบีบคอ เคยให้ข้าวให้น้ำมันกิน
จากนั้น นายเต๋าก็ถูกตำรวจจับไปดำเนินคดี และมีนักสังคมสงเคราะห์จังหวัดสมุทรปราการมาช่วยเหลือยายติ๋มไปรอบหนึ่งแล้ว แต่ผ่านไปไม่นาน นายเต๋าหลังจากถูกพาตัวไปบำบัด ก็ถูกปล่อยตัวกลับมา นายเต๋า ไม่ยอมกินยารักษาตามหมอบอก และกลับไปเสพยาอีก ก็เกิดปัญหาเดิมๆ จนชาวบ้านเอื้อมระอา เพราะนายเต๋าก็ชอบลักเล็กขโมยน้อยด้วย ซึ่งมาเกิดเหตุครั้งนี้อีก ตนเองก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยจัดการขั้นเด็ดขาดด้วยเถอะ เพราะหากปล่อยไว้ไม่รู้วันไหนไม่ตอบอาจจะหลอนยาทำร้ายคนจนถึงขั้นเสียชีวิตก็เป็นไปได้
ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปห้องพักที่เกิดเหตุ โดยเดินทางไปพร้อมกับ นายไพโรจน์ ผันโพธิ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 15 ต.บางแก้ว เมื่อไปถึงพบว่า นายบุญนำ หรือ เต๋า อายุ 38 ปี ลูกชายที่ก่อเหตุ ได้นั่งกระดกเหล้าขาวอยู่ภายในห้องพัก ส่วนนางกองศรี หรือ ยายติ๋ม อายุ 73 ปี ผู้เป็นแม่ ได้เดินลงไปเก็บของเก่าเพื่อหาเงินให้ลูกชายซื้อยาบ้าและเหล้าขาวอยู่ใต้อาคาร
เมื่อทีมข่าวและผู้ใหญ่บ้านไปถึง นายเต๋าเห็นว่ามีคนมาหา จึงได้เดินออกมาต้อนรับ พร้อมกับก้มลงและยกมือไหว้ ก่อนที่ผู้ใหญ่บ้านจะบอกให้ลุกขึ้น พร้อมกับได้สอบถามนายเต๋า ถึงเหตุการณ์เมื่อวานนี้ที่เจ้าตัวลงมือทำร้ายแม่ว่าเกิดอะไรขึ้น
เจ้าตัวอ้างว่า เหตุผลที่เมื่อวานนี้ ต้องตีแม่ ก็เพราะแม่โกหกผมก่อน เพราะเมื่อวานนี้ตนเองได้ใช้ให้แม่ไปยืมเงินชาวบ้าน จำนวน 70 บาท และให้ลงไปซื้อเหล้าขาวให้ แต่แม่กลับโกหกว่า ไปยืมเงินคนมาไม่ได้ และอ้างว่า เจ้าของร้านเหล้าไม่ยอมให้เซ็น ซึ่งตนเองยืมแอบทองแม่อยู่หน้าต่างเห็นจึงรู้ว่าแม่โกหก จึงตั้งใจสั่งสอนแม่เล็กน้อยเท่านั้น โดยได้เอามือจิกหัวแม่ และลากแม่ไปที่ขอบหน้าต่าง แต่ตนเองไม่ได้ตั้งใจจะโยนแม่ลงตึกแน่นอน และที่ต้องทำร้ายแม่เพราะแม่ไม่ยอมทำตามคำสั่ง ตนเองอยากเหล้ามาก เพราะถ้าไม่ได้กินจะปวดท้องหนัก แต่แม่กลับไม่ยอมหาเหล้ามาให้เท่านั้น
ทีมข่าวถามต่อ ที่ผ่านมาเต๋าเคยทำร้ายแม่มากี่ครั้งแล้ว เจ้าตัวสารภาพว่า ทำร้ายแม่มาประมาณ 17-18 ครั้งแล้ว เคยทำร้ายแม่หนักสุด ก็ 5 ปีก่อน กระทืบแม่ไป 5 ครั้ง จนกระดูกซี่โครงแม่หัก 8-9 ซี่ จนบาดเจ็บสาหัส เพราะโมโหที่แม่ไปยอมทำตามคำสั่ง ไม่ยอมหาเงินมาให้เสพยา และซื้อเหล้ากิน ตนเองเสพยามาตั้งแต่เด็กแล้ว เสพมาประมาณ 20 ปี เคยเข้ารับการบำบัด กินยาแล้ว แต่ก็ไม่หาย เพราะยาที่หมอให้ตนเองไม่ชอบ และหันมาเสพยาอีก
ซึ่งตนเองก็อยากจะเลิกติดยาเหมือนกัน แต่ก็ทำไม่ได้ ทีมข่าวจึงชวนนายเต๋า หากต้องการหายติดยาอยากเลิกเหล้าจะพาไปให้หมอรักษาจะเอาไหม นายเต๋าบอก อยากไปบำบัด แต่ต้องให้หมอมาบำบัดที่บ้าน ตนเองจะไม่ขอไปบำบัดนอกบ้านเพราะกลัวหมอ พร้อมกับสัญญากับทีมข่าวและผู้ใหญ่บ้านว่าจะไม่ทำร้ายแม่อีก
ล่าสุดทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางกองศรี หรือ ยายติ๋ม อายุ 73 ปี แม่ของนายเต๋าที่ถูกลูกชายทำร้าย เล่าให้ฟังว่า เมื่อวานนี้ลูกชายได้ใช้ให้ตนเองไปซื้อเหล้าขาว แต่ตนเองไม่มีเงิน จะไปเซ็นเอาเหล้ามาให้ลูกชายก่อนก็ไม่มีร้านไหนให้ เมื่อเดินทางกลับไปที่ห้องก็ถูกลูกชายทำร้าย โดยเอามือจิกหัวลากลงกับพื้นและพยายามจับตนเองลากไปโยนลงจากตึก แต่ตอนนั้นตนเองพยายามจับขอบกางเกงลูกชายไว้และอ้อนวอนขอชีวิตกับลูกว่า “อย่าทำแม่เลย”ลูกชายถึงยอมปล่อย
ยอมรับที่ผ่านมาตัวเองถูกลูกชายกระทืบและทำร้ายหลายครั้งแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องประจำ สงสารลูกมากที่ลูกชายเป็นแบบนี้ หากฆ่าได้ฆ่าไปนานแล้วแต่ตนเองไม่อยากจะทำ ตนเองไม่อยากทำบาป
ทุกเช้าตนเองต้องตื่นนอนตั้งแต่ตี4ตี5 เพื่อที่จะออกไปเก็บของเก่าหาเงินมาให้ลูกชายซื้อเหล้าซื้อยาบ้าเสพหากไม่มีให้มัน มันก็ทำร้าย
หนักสุดคือ ถูกลูกชายกระทืบจนกระดูกซี่โครงหัก ปอดรั่ว ตนเองทนมาเกือบ 7 ปีเต็ม อยากให้ลูกชายหายจากยาเสพติดสักที อยากให้พาลูกชายไปรักษาให้หาย เพราะหากปล่อยไว้ตนเองเชื่อว่าในอนาคตสักวันหากลูกชายหลอนยาขึ้นมาอีกตนเองก็คงถูกฆ่าตายแน่ๆ เคยแจ้งตำรวจไปแล้ว แต่กลับนิ่งเฉย จับมาก็ปล่อย
ขณะเดียวกัน นายไพโรจน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 15 เจ้าของพื้นที่ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า นายเต๋าและยายติ๋มสองแม่ลูกนี้มักจะมีปัญหาทะเลาะตบตีกันเป็นประจำ เพราะทั้งคู่ก็ดื่มเหล้าเมาเกือบทุกวัน และนายเต๋ามักจะชอบทำร้ายผู้เป็นแม่เป็นประจำหากวันใดไม่ได้เงินเสพยาบ้าหรือดื่มเหล้าขาวก็จะหงุดหงิด ซึ่งตนเองอยากฝากให้หน่วยงานใดก็ได้ ช่วยเข้ามาช่วยเหลือ 2 แม่ลูกนี้ที เพราะตนเองก็หมดปัญญาแล้วเหมือนกัน เพราะเคยจับส่งตำรวจ ส่งไปบำบัดรักษา แต่สุดท้ายไม่นานก็ปล่อยกลับมาอีก เป็นปัญหาซ้ำซาก
และเมื่อวานนี้ถือว่ายังโชคดีที่นายเต๋ายังไม่ทันจับแม่ตัวเองโยนลงตึกตาย แต่ก็ไม่รู้ว่า ในอนาคตนายเต๋าจะไปก่อเหตุทำร้ายเพื่อนบ้าน ฆ่าแม่ตัวเองเพราะหลอนยา อีกหรือไม่ และใครจะรับผิดชอบ ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้ ไม่แก้ไขอีก นายเต๋าก็จะเป็นภาระของสังคมแบบนี้อีก