23 ก.ค. 66 เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. พ.ต.ต.สิทธิศาสตร์ มูลมานัส สารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองหนองคาย ได้รับแจ้งคนถูกยิงเสียชีวิต 2 ศพที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวด้านหน้าเปิดเป็นร้านขายของชำ ภายในห้องนอน พบร่างของนายภูผา อายุ 48 ปี เจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิตอยู่ข้างเตียง บริเวณศีรษะด้านขวามีร่องรอยรูกระสุน 1 รู กระสุนทะลุออกทางซ้าย โดยมีปืนพกสั้นบาเร็ตต้ากึ่งอัตโนมัติ ขนาด .32 ตกอยู่ ส่วนบนเตียงพบศพนางสาวจุฑามาศ อายุ 21 ปี ภรรยาของนายภูผา นอนห่มผ้าห่ม บริเวณศีรษะมีรูกระสุนยิงแต่ไม่ทะลุ และพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ 1 ปลอก
ลูกสาวผู้ตาย เล่านาทีได้ยินเสียงปืนกลางดึก
ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุได้พูดคุยกับ น.ส.พิมพ์ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ลูกสาวของนายภูผา เปิดเผยว่า ตนเองมีน้องชายหนึ่งคนที่เป็นลูกของพ่อภูผา ส่วน น.ส.จุฑามาศ ผู้ตายเป็นแม่เลี้ยงที่คบหากับพ่อมาประมาณ 5 ปี โดยเมื่อคืนนี้หลังจากพ่อและแม่เลี้ยงกลับมาจากทำงาน ต่างคนก็เข้าห้องนอน ซึ่งตนเองนอนกับน้องชาย ส่วนพ่อก็นอนห้องเดียวกันกับแม่เลี้ยง กระทั่งประมาณเที่ยงคืน ในขณะที่ฝนตกหนัก ตนเองได้ยินเสียงดังปั้งหนึ่งครั้ง แต่ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะคิดว่าเป็นเสียงฟ้าร้อง
จนกระทั่งตื่นเช้ามา คิดว่าพ่อกับแม่เลี้ยงคงจะหยุดงานและยังนอนไม่ตื่น ก็เลยออกมาเปิดประตูร้านค้า แต่ปรากฎว่าเวลาผ่านไปถึงเที่ยงวัน พ่อกับแม่เลี้ยงก็ไม่ออกมาจากห้อง จึงโทรศัพท์ไปตามลุงให้ช่วยมาดูพ่อกับแม่เลี้ยงเนื่องจากไม่กล้าเปิดประตูเข้าไปดู และปรากฎว่าเมื่อลุงมาถึงพบศพพ่อกับแม่เลี้ยงตายอยู่คู่กันในห้อง
ยอมรับแต่ก่อนพ่อกับแม่เลี้ยงเคยมีปัญหาทะเลาะกัน แต่พักหลังๆไม่ได้ทะเลาะอะไรกันให้เห็น ซึ่งเรื่องส่วนตัว พ่อกับแม่เลี้ยงไม่ค่อยมาเล่าให้ลูกฟัง ส่วนประเด็นเรื่องหนี้สิน เท่าที่รู้พ่อเครียดปัญหาที่ถูกยกเลิกการขายของจากโครงการของร้าน และถูกยึดเงินประกัน ซึ่งร้านโครงการดังกล่าวพ่อกับแม่เลี้ยงเปิดได้ยังไม่ถึงปี ซึ่งหลังจากถูกยกเลิกร้าน พ่อกับแม่เลี้ยงก็ออกไปหางานทำ ยืนยันก่อนเกิดเหตุ พ่อกับแม่เลี้ยงไม่ได้พูดอะไรเป็นลางบอกเหตุหรือสั่งเสียอะไรเอาไว้ ซึ่งหลังจากนี้ เมื่อขาดเสาหลักอย่างพ่อไปแล้ว ตนเองกับน้องก็คงจะต้องกลับไปอยู่กับแม่แท้ๆที่จังหวัดอยุธยา
อาเผย 2 ผัวเมียเคยปรึกษาเรื่องเงินประกัน
ส่วนนายส่งศักดิ์ อายุ 56 ปี เป็นอาของนายภูผา บอกว่า ก่อนเกิดเหตุไม่กี่วันนายภูผา เคยมาปรึกษาตนเองที่บ้านถึงเรื่องเงินประกันประมาณ 2 - 3 แสนที่ถูกยึดไป เนื่องจากทำยอดขายไม่ได้ตามกำหนด ซึ่งร้านภายใต้แบรนด์ถูกดี ของนายภูผา ถูกยกเลิกการขายเพราะทำยอดไม่ได้ช่วงประมาณเดือนเมษายน
หลังจากนั้นเมื่อถูกยกเลิก ทั้งผัวทั้งเมียก็ได้ออกไปหางานทำ โดยคนเป็นผัวไปทำงานในห้าง ส่วนเมียไปรับจ้างล้างหน้าที่ร้านแห่งหนึ่งในเมืองหนองคาย
ยืนยันที่ผ่านมาทางครอบครัวพยายามช่วยเหลือทั้งคู่เต็มที่ แต่ทั้งสองคนก็แบกรับหนี้สินนอกระบบที่กู้มาอุดให้ร้านขายของไม่ไหวจึงเกิดความเครียดสะสม ส่วนเรื่องศพของทั้งสอง หลังชันสูตรเสร็จก็จะนำกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน เนื่องจากถึงตอนนี้ยังติดต่อครอบครัวของนางจุฑามาศไม่ได้