จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ เวลา 02.50 น. (22 ก.ค. 66) เกิดเหตุยิงกันโดยมีรถเก๋งสีขาวไล่ยิงผู้เสียชีวิตคือนายภานุ อายุ 21 ปี โดยทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดพบผู้ก่อเหตุยิงหลายนัด ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ผู้ต้องสงสัยชื่อว่านายต้อม อายุ 32 ปี ได้เข้ามาพบตำรวจแล้ว 1 คน ส่วนรถยนต์ในกล้อง ทางตำรวจได้ไปตามตรวจยึดกลับมาตรวจสอบที่โรงพักเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา
ซึ่งการสืบสวน ตำรวจให้ข้อมูลว่าผู้ต้องสงสัยในคดีนี้มีทั้งหมด 4 คน โดย 3 คนยังไม่ติดต่อเข้ามามอบตัว
ส่วนศพของผู้ตาย วันนี้ทางญาติได้รับศพกลับมาจากโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่นแล้ว แต่ยังไม่ได้นำศพไปตั้งสวดอภิธรรม และได้มีการนำศพไปฝากเอาไว้ที่โรงพยาบาลท่าบ่อ เพื่อรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลังฐานมาตรวจร่องรอยกระสุนปืนว่าเป็นของใคร
ล่าสุดวันนี้ (23 ก.ค.66) ทีมข่าวช่อง 8 ยังคงไปติดตามความคืบหน้าทางคดีที่ สภ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เนื่องจากเมื่อเวลา 10.30 น. มีทางนายเพลง อายุ 48 ปี เข้ามามอบตัวกับตำรวจ จากนั้นในเวลา 11.00 น. นายกร อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์โตโยต้าวีออสสีขาว ก็ได้ตามเข้ามามอบตัวกับตำรวจเป็นคนที่ 3
กระทั่งวันนี้ในการสอบสวน นายเพลง ยอมรับกับตำรวจว่าอยู่ในรถในตำแหน่งข้างคนขับตอนไปก่อเหตุ ส่วนนายสีหนุ่ม อายุ 33 ปี (อยู่ระหว่างหลบหนี)เป็นคนขับ และคนยิงคือนายแอด อายุ 33 ปี นั่งในตำแหน่งด้านเบาะหลัง(อยู่ระหว่างหลบหนี) ส่วนนายต้อม ที่เข้ามามอบตัวเมื่อวานนี้ นั่งรถออกมาจากผับด้วยกันจริง แต่ลงรถตรงกลางทางเพื่อไปขึ้นรถยาริสสีขาวตามในภาพวงจรปิดที่เห็นขับผ่านไปมาในที่เกิดเหตุ ส่วนนายกร ที่ตามมามอบตัวในวันนี้ อยู่ในเหตุการณ์ที่เขม่นกับกลุ่มคนตายในผับ แต่ไม่ได้ขึ้นรถไปด้วยในตอนเกิดเหตุ
โดยปมเหตุในการสืบสวนเบื้องต้น พบว่าพฤติกรรมการก่อเหตุไม่ได้มาจากเรื่องยาเสพติดหรือความขัดแย้งส่วนตัว แต่เป็นเรื่องที่กลุ่มของผู้ตายไปเต้นกวนส้นเท้าและทำท่าทางเต้นยั่วยวนใส่เจ้าถิ่นก็คือกลุ่มคนก่อเหตุที่เป็นลูกหลานเจ้าของผับ(นายต้อม)
นายกร เปิดใจไม่เคยมีเรื่องกัน แค่อีกฝ่ายเต้นยั่วบาทา
ทีมข่าวสอบถามนายกร เจ้าของรถยนต์และเป็นเพื่อนกับกลุ่มคนก่อเหตุ ยอมรับว่า ขาไปเที่ยวตนเองได้ขับรถยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุไปกับเพื่อนๆจริง จากนั้นเมื่อไปถึงก็ได้เข้าไปเที่ยวกันปกติ แต่ตอนที่เพื่อนๆไปก่อเหตุ ตนเองไม่ได้ไปด้วย เนื่องจากจีบหญิงติดในผับ ก็เลยขึ้นรถออกไปโรงแรมกับผู้หญิง แต่ก่อนจะไปได้ฝากรถไว้กับนายสีหนุ่ม ซึ่งเป็นคนขับรถพานายแอดและนายเพลงไปก่อเหตุ
ส่วนเรื่องปมเหตุ ยืนยันว่า ในระหว่างเที่ยวกันอยู่ในคืนเกิดเหตุ ไม่ได้มีการทะเลาะกันหรือมีการลงไม้ลงมือกับกลุ่มของคนตายในผับ แต่มีการมองหน้าเขม่นกันจริง เนื่องจากกลุ่มของคนตายเต้นกวนส้นเท้าและเต้นยั่วยวน ส่วนนายแอด มือยิง ยืนยันหลังเกิดเหตุ ไม่ได้ติดต่อกลับมา
จากนั้นเมื่อตำรวจยึดรถยนต์ทั้งสองคันกลับมาที่โรงพัก จึงได้ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบหารายนิ้วมือในรถทั้งสองคัน เพื่อหาหลักฐานเพิ่มว่าใครอยู่บนรถทั้งสองคันทั้งก่อนเกิดและหลังเกิดเหตุ
เมียวอนสีหนุ่มมอบตัว อยากให้สู้คดี
ต่อมาในเวลา 14.40 น. ตำรวจชุดสืบสวนได้นำกำลังบางส่วนไปที่บ้านของนายสีหนุ่ม ที่ตำบลหายโศก อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี โดยทันทีที่ไปถึง ทางตำรวจได้เรียกแม่ของนายสีหนุ่ม ออกมาพูดคุยเพื่ออธิบายให้ฟังว่า รถยนต์ฮอนด้าซิตี้สีเทาที่จอดอยู่ข้างบ้านเป็นรถที่นายสีหนุ่มขับไปเที่ยวผับและเป็นรถที่พานายสีหนุ่มกับนายแอด หลบหนี จึงขอความร่วมมือขอตรวจยึดรถไปตรวจสอบ ซึ่งการมาในวันนี้มีสื่อมาเป็นพยานด้วยในการขอตรวจยึดรถกลับไปตรวจสอบ จากนั้นก่อนจะนำรถกลับไปโรงพัก ทางตำรวจก็ได้เปิดรถเพื่อตรวจสอบให้กับทางแม่นายสีหนุ่มดูต่อหน้าสื่อ โดยทางแม่ก็ให้ความร่วมมือกับทางตำรวจเป็นอย่างดี
ขณะเดียวกันทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางสมหญิง (นามสมมติ) อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของนายสีหนุ่ม บอกว่า ช่วงเย็นก่อนจะเกิดเหตุ สามีได้ขอออกไปเที่ยวกับเพื่อน จากนั้นก็ไม่ได้กลับมาที่บ้าน ยอมรับก่อนหน้านี้ก็ไปเที่ยวกับสามีเป็นประจำ ที่ผ่านมาเคยเตือนสามีว่าคบเพื่อนก็ให้ดูดีๆ เพราะเขาสนิทกับนายแอด ส่วนนายต้อมหลานเจ้าของผับ ไม่รู้ว่าเขารู้จักกันยังไง ยืนยันหลังเกิดเหตุ สามีไม่ได้ติดต่อกลับมาหรือมาที่บ้าน ส่วนเรื่องรถที่มีคนขับพาหนีแล้วเอารถมาจอดทิ้งไว้ ยืนยันว่าไม่รู้ใครเป็นคนขับรถไปส่งสามีกับนายแอด เพื่อหลบหนี หากสามีฟังอยู่ก็อยากจะให้เขากลับมามอบตัวเพราะลูกยังเล็ก
กลุ่มเพื่อนผู้ตายทำท่าเต้นให้เพื่อนดูท่าเต้นกวนทีน
ขณะเดียวกันวันนี้ทีมข่าวได้ไปเจอกับ นายโชคดี (นามสมมติ) อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนของผู้ตายที่ถูกระบุว่าเต้นกวนส้นเท้าเจ้าถิ่นในคืนเกิดเหตุ โดยทันทีที่ได้เจอกัน ทีมข่าวก็ถามว่าเอ็งเต้นท่าไหนเต้นกวนเขาจริงไหม ลองทำท่าทางในคืนเกิดเหตุให้ดูหน่อย ซึ่งนายโชคดี ก็ทำท่ายกแขนเต้นให้ดู เพื่ออธิบายว่าพี่ผมเต้นท่านี้ทั้งคืน โดยก่อนหน้านี้ก็เต้นแบบนี้ ผมมีคลิปยืนยันว่าผมไม่ได้เต้นกวนหรือเต้นยั่วยวนใครเลย พี่ลองดูในคลิปเอาแล้วกัน
ซึ่งวันนี้นายโชคดี ยังเล่าเหตุการณ์ในผับให้ทีมข่าวฟังอีกว่า คืนเกิดเหตุไปเที่ยวกัน 6 คน โดยเพื่อนที่ถูกยิงตาย ไปเที่ยวเป็นครั้งแรกและไม่เคยมีปัญหาอะไรกับกลุ่มคนก่อเหตุ เนื่องจากเขาเพิ่งเดินทางกลับมาจากจังหวัดร้อยเอ็ดได้ไม่ถึงวัน
โดยก่อนจะเกิดเหตุ ตนเองกับเพื่อนก็เต้นท่าเดียวกันกับในคลิป ซึ่งมีกลุ่มของคนก่อเหตุนั่งอยู่โต๊ะติดกัน ยืนยันไม่ได้กางแขนหรือเดินไปชนกับกลุ่มคนก่อเหตุ แต่นายต้อม ที่เป็นหลานของเจ้าของผับ เดินมาสกิดว่า "มึงเต้นท่าแบบนี้มึงอยากหลับหรอ" ตนเองก็ยกมือไหว้บอกว่าขอโทษครับ แต่เขาไม่รับไหว้แล้วก็เดินหันหน้ากลับไปที่โต๊ะของเขา จากนั้นตนเองกับเพื่อนก็เที่ยวกันต่อ กินเหล้าจนเมาหลับ กระทั่งมารู้ระหว่างทางกลับบ้านว่าเพื่อนถูกยิง ยืนยันก่อนจะถูกไล่ยิง กลุ่มคนก่อเหตุไม่ได้มีท่าทีจะขับรถตามเพื่อออกไปตามไล่ยิง และขอยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับกลุ่มคนก่อเหตุมาก่อน ผมเต้นท่านี้ประจำ ไม่ได้ตั้งใจเต้นกวนใคร