นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวช่วงหนึ่งฟาดยับพรรคเพื่อไทยว่า เราควรจะมีธรรมาธิปไตยกันซักรอบนึง ถูกเป็นถูกผิดเป็นผิดว่ากันตามเนื้อผ้า บ้านเมืองจะได้ดำเนินไปอย่างถูกต้อง แต่ถ้าเอาด้วยวิธีไม่สนใจวิธีผิดก็ได้ ขอแค่มีอำนาจ เพราะฉะนั้นนี่จะเป็นวิกฤตที่ใหญ่มาก ความฉิบหายจะมาเร็ว ไม่ได้กินกันบ้างเหรอพรรคเพื่อไทย ตอนก้าวไกลชนะบอกกิน กำลังความเจริญกำลังจะมา

แต่ที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้ยินกินความฉิบหายกันบ้างเหรอเพราะทันทีที่ข้ามขั้ว เพราะฉะนั้นเราจึงบอกว่ากระดานน่ะเวลานี้ไม่ได้มีความเสี่ยงสำคัญว่า ใครจะมีอำนาจแต่คนที่จะมีอำนาจประชาชนก็จะต้องยอมรับโดยสนิทใจ ฆ่าเพื่อนแล้วมันมีอำนาจ คุณจะได้รับความชื่นชมหมายความว่าแม่พรรคก้าวไกล จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องของคนที่ไม่เห็นด้วยก็ว่ากันไปตามเนื้อผ้าแต่ในทางความเป็นมนุษย์มันจะไปแยกเผื่อไปจับมือกัน อีกทางหนึ่งมันทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราจึงบอกว่าหลักใหญ่ใจความผมก็อธิบายเรื่อง 112 ว่าผมสงสัยว่าพรรคการเมืองแต่ละพรรคแม้กระทั่งพรรคเพื่อไทยไปดูคลิปเก่าเก่าเรื่อง 112 ไม่นานจะมาดูถ้างั้นพวกแตกต่างจากพรรคก้าวไกลอย่างไรบ้าง

นี่คือความกังวลหัวข้ออวสานตนพูดให้คิดไหมว่าคนอยู่ในประเทศหรือ ต่างประเทศก็ตามไม่ต้องมาเชื่อตน แค่อยากบอกว่าเวลาคิดถึงบ้านเมืองมันต้อง ใช้หัวใจคิดที่มันฉิบหายทุกวันนี้ไม่เคยใช้หัวใจคิด และตนก็ไม่ได้ดูถูกว่าท่านใช้
หัวแม่ตีนคิดกันก็ต้องคิดว่าอะไรควรทำไม่ควรทำแล้วก็ต้องคำนึงถึงความรู้สึก ของประชาชนด้วยเก่งเราฉลาดเราให้คิดไม่ได้หรอแบบเนี่ยใครก็คิดได้แต่เขาไม่ อย่างที่ผมบอกถ้าจับมือกันไม่มีใครจัดตั้งรัฐบาลได้คุณก็ไม่ได้อีกทีก็ไม่ได้แล้วมัน
จะเกิดทางตันและนำจะไปนำจะไป สู่การหารือทางออกและมันก็จะไม่มีใครสาปแช่งไปถึงช่วลูกชั่วหลาน แล้วคุณจะรู้ว่าทำเป็นอย่างนี้จะไม่ทำ

"สมมติวันนี้ภาพที่คุณไปจับมือกับพรรคลุงเนี่ย ได้ให้ความเคารพเพื่อไทยเขาเรียกเขาบอกเขายังไม่ตกลงว่าเขาจะร่วมกับรวมไทยสร้างชาติคุยกันเฉยๆ พลังประชารัฐประเด็นก็คือว่าคุณจะพร้อมบอกคุณต้องคิดนะวันนี้เป้าหมายที่กลุ่มอำนาจเก่า เขาจะล้มเดิมทีเนี่ยเขาจะลงทักษิณ แต่วันนี้ก้าวไกลดันแซงหน้าไปแล้วแล้ววันนี้เพื่อไทยจะไปผนึกกับเขาคุณต้องคิดดีๆนะเขาอาจจะยืมคุณเนี่ย เพื่อให้คุณฆ่าเพื่อน แต่คุณอย่านึกนะว่าเมื่อคุณค่าเพื่อนแล้วเขาจะมาเป็นมิตรกับคุณ เมื่อคุณฆ่าเพื่อนเสร็จเขาก็จะกลับมาฆ่าคุณ ดังนั้นเรื่องนี้คุณจตุพร เลยบอกว่า เอาจริงให้ระวังมันมีนัยก็คือเมื่อไหร่คุณสลับขั้ว เมื่อนั้นด้อมส้มก็จะลง เพื่อไทยแฟนคลับก็จะลงถนน ถามว่าเพราะอะไรเพราะเขารู้สึกผิดหวัง คิดว่าตั้งรัฐบาลและจะสำเร็จ ผลสุดท้ายเกิดอะไรขึ้นแล้วจำได้ไหมเหตุการณ์มันจะคล้ายๆกับพฤษภาทมิฬ คล้ายกับ 6 ตุลา มาวันนี้เมืองไทยใครล่ะ อยากจะกลับประเทศไทย ก็คือคุณทักษิณ ชินวัตร ดังนั้นมีอย่างเดียว คือต้องไม่ข้ามขั้ว" นายจตุพร กล่าว 

ทีมข่าวของเรา ไปคุยกับ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากกระแส ที่พรรคเพื่อไทยถูกประชาชนโจมตีว่าหักหลังประชาชน หลังนายแพทย์ชลน่าน เป็นตัวแทนของแปดพรรคร่วมไปหารือกับพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ตอนนี้คนในพรรคยังไม่ได้มีการหารือถึงกระแสดังกล่าว แต่จะมีการนัดประชุมในวันพุธที่ 26 กรกฎาคมนี้

แต่ในฐานะที่ตัวเอง เป็น สส ของพรรคเพื่อไทย ยังคงยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีแนวคิดจับมือกับ 2 พรรค ของ ลุงป้อม และ ลุงตู่ และมองว่าการไปหารือกับสองพรรคดังกล่าวนั้นไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ขึ้น เพราะไม่มีทางเป็นไปได้เนื่องจากหากไปร่วมกับสองพรรคนั้นจริงก็จะขัดต่อนโยบายของพรรค

ตอนนี้พรรคเพื่อไทยยังคงยึดหลักการเดิม และจะร่วมมือกับอีกแปดพรรคร่วมในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งจะเป็นรัฐบาลที่เป็นตัวแทนของคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศที่แท้จริง แต่ถ้าหากว่าจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ก็ต้องช่วยกันเรียกร้องต่อ สว. ซึ่งถือเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะหากว่ามีการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองและได้รัฐบาลแบบนั้นมาก็จะทำให้ประเทศเข้าสู่วิกฤต ทางการเมืองครั้งใหญ่

ส่วนแนวทางการแก้ปัญหาเรื่อง สว ให้โหวตกลับ 8พรรคร่วมรัฐบาลที่ได้เสียงข้างมากนั้น นายจาตุรนต์ มองว่าควรใช้วิธีการหารือพูดคุยกัน เพื่อให้ สว เห็นแก่บ้านเมือง

ซึ่งหนึ่งในแนวทางที่หลายคนพูดถึงคือการถอยห่างออกมาเกี่ยวกับนโยบายการแก้กฎหมายมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล เรื่องนี้นายจาตุรนต์ บอกว่าจริงๆแล้วในแปดพรรคร่วมไม่ได้มีการหารือรวมถึงมีนโยบายเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ก็เป็นเรื่องดีที่หากทางพรรคก้าวไกลประกาศชัดเรื่องนโยบายเรื่องนี้ ว่าจะไม่มีการแก้ไข แต่จะมีหลักประกันหรือไม่ว่าหากมีการถอยห่างออกมาจากเรื่องมาตรา 112 แล้ว ทาง สว หรือ พรรคอื่น จะยอมโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะมองว่าการแก้ปัญหามาตรา 112 อาจจะเป็นแค่ข้ออ้างในการไม่โหวตเลือกเท่านั้น แต่จริงๆแล้วมีการตั้งธงเอาไว้อยู่แล้วว่าจะไม่ยอมให้พรรคการเมืองที่ได้มาจากเสียงของประชาชนขึ้นเป็นรัฐบาล