ขณะที่ท่าทีของ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีผู้ตรวจการแผ่นดินส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาขอให้วินิจฉัยกรณีที่ประชุมรัฐสภาลงมติข้อบังคับการประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ไม่ให้เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ชิงตำแหน่งนายกฯซ้ำ เป็นการขัดรัฐธรรมนูญและขอให้เลื่อนการประชุมรัฐสภา ในวันที่ 27 ก.ค.เพื่อโหวตนายกฯรอบสามออกไปก่อนว่า เรื่องนี้ให้ฝ่ายกฎหมายประชุมกันในวันที่ 24 ก.ค.เพื่อสรุปผลมาแจ้งให้ตนทราบ จากนั้นจะนำเรื่องไปหารือกับวิป 3ฝ่ายในวันที่ 26 ก.ค.ต่อไป รวมถึงต้องฟังผลการหารือของ 8 พรรคร่วมรัฐบาลมาประกอบการพิจารณาด้วย ซึ่งวันที่ 25 ก.ค.อาจจะชี้แจงในรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนการประชุมทีมกฎหมายของรัฐสภาที่ได้หารือถึงการจะต้องเลื่อนการโหวตนายกฯในวันที่ 27 ก.ค.หรือไม่ ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปจะให้เลื่อนการประชุมออกไปหรือไม่ โดยทีมกฎหมายขอให้ไปฟังความเห็นในที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย วันที่ 26 ก.ค.ก่อน
ขณะที่นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. กล่าวถึงการนำจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ที่อาจทำให้พรรคก้าวไกลต้องไปเป็นฝ่ายค้านว่า จะต้องขึ้นอยู่กับพรรคเพื่อไทยตัดสินใจ
ส่วนกรณีที่ประชุมรัฐสภาวางมาตรฐานเกี่ยวกับการใช้ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อ 41 ห้ามเสนอชื่อซ้ำในสมัยประชุมเดียวกัน ทำให้พรรคเพื่อไทยกังวลจะไม่ผ่านความเห็นชอบนั้น นายเสรี เห็นว่า เรื่องดังกล่าวจะไม่มีทางตัน เพราะแม้จะเสนอชื่อบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีพรรคการเมือง ก็สามารถเสนอชื่อคนนอก หรือคนที่อยู่ในบัญชีเช่นเดิมก็ได้ แต่ต้องดำเนินการให้หมดบัญชีก่อนแล้วจึงใช้เสียง 2 ใน 3 ของสมาชิกทั้งหมดงหรือ 500 เสียง เพื่อยกเว้นการใช้บัญชีนายกรัฐมนตรีจากพรรคการเมือง แต่ในกรณีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล อาจไปติดเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ
ส่วนโอกาสเกิดรัฐบาลปรองดองจะเป็นไปได้หรือไม่ นายเสรี เห็นว่า สามารถเป็นไปได้ แต่อาจไม่ใช่การรวมทุกพรรคการเมือง จะมีเพียงพรรคก้าวไกล ที่อาจไม่ได้เข้าร่วม เพราะเป็นพรรคที่มีจุดยืนแตกต่างจากพรรคอื่น ๆ และการเปิดทางนายกรัฐมนตรี คนนอกบัญชีฯ ก็มีโอกาสเกิดได้เช่นกัน แต่อยู่ที่พรรคการเมือง จะตกลงร่วมกันว่า จะเห็นด้วยหรือไม่ และต้องได้เสียง สส.เกิน 251 เสียงขึ้นไป
เฟซบุ๊ก “เทวดาผู้หยั่งรู้ ฟ้าดินฯ อากาศ มหาสมุทร” ของ พระคเณศ สุจิณโณ ได้ออกมาไลฟ์ขณะยังสวมจีวรอยู่ โดยราดน้ำตาเทียนบริเวณศีรษะทั่วไปทั้งหน้า บอกว่า เปลวเพลิงไม่สามารถทำอะไรตนเองได้ พร้อมกล่าวสาปแช่งกลุ่มผู้ชุมนุมและผู้เรียกร้องประชาธิปไตย
สร้างความฮือฮาอีกครั้งด้วยการใช้หยดน้ำตาเทียนลงหัว นั้นทีมข่าวตรวจสอบ เฟสบุ๊กของ เค ร้อยล้าน พบว่า หลังจากที่มีการไลฟ์สดคลิปน้ำตาเทียนราดหัว เจ้าตัวได้มีการไลฟ์สดซี้แจงว่า " การที่เอาน้ำตาเทียนราดหัวแล้วไม่ร้อน ไม่ได้เป็นการอวดอุตริมนุษยธรรมแต่อย่างใด เป็นการขี้ให้เห็นว่าการศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา และการศรัทธาต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า การศรัทธาต่อพระอิศวรและการศรัทธาต่อพระเจ้าอยู่หัว
ทำให้น้ำตาเทียนไม่สามารถทำอันตรายต่อตัวข้าพเจ้าได้ และย้ำว่าไม่ใช่เป็นการอวดอุตริ ซึ่งการทำครั้งนี้ไม่ใช่ว่าไม่แสบ และไม่ร้อน แต่มันร้อนและแสบ แต่เพราะเกิดจากความอดทน และการฝึกความอดทนครั้งนี้ประกอบกับมีการสวดบทสรรเสริญ จึงทำให้น้ำตาเทียนและความร้อนไม่สามารถทำอะไรใบหน้าและบริเวณหัวได้ และไม่เพียงแค่บริเวณหัว ยังพบว่ามือข้างขวา ที่ใช้ดับเทียนก็ยังถูกลวกจนพุพอง ฉะนั้นการจะทำทั้งหมดจึงเป็นเพียงแค่การฝึกสมาธิและฝึกจิต ไม่ใช่เป็นการอวดอุตริ"
โดยที่ผ่านมา วีรกรรมเคร้อยล้าน เริ่มตั้งแต่ 1 ก.พ.2562 ปล่อยงูเห่ากลางถนนราชดำริ , ใช้น้ำแดงราดตัวเอง ปาขวดลงพื้น ตะโกนชี้หน้าด่าทุกคน , ตบป้าเป้าขณะชุมนุม , 23 ต.ค. 2565 โยนกระเป๋าพร้อมตะโกนมีระเบิดใส่นายธนาธร
ด้านพระพยอม กัลยาโณเจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวว่า เป็นคนแปลกๆมาตั้งแต่ยังไม่ได้บวช ทำอะไร ไม่เป็นคนปกติเหมือนคนอื่น เสียภาพลักษณ์ เอาเทียนไปหยดหน้าหยดตาจนมองไม่เป็นผู้เป็นคน ชอบทำตนให้ลำบากชอบทำตนให้เดือดร้อน กลายเป็นโลกะวัชชะชาวโลกติเตียน ว่าสติปัญญาไปไหน ทำไมไม่เลือกที่ตัวเองทำแล้วสบายสังคมเป็นสุข ไปสาปแช่งคนอื่นทำให้ภาพลักษณ์ของพระอันตรธานหายไป พระมีแต่สอนธรรมะคนอื่น ถ้าปฏิบัติแล้วไม่ดีขอให้เลิกเสียเถอะ กรณีนี้ยังไม่ถือว่าไม่ถึงขั้นอาบัติ อย่างอาตมาก็โดนอยู่ แต่ไม่ถึงกับสาปแช่งแค่ด่า หยาบคาย เช่นไปเชียร์พรรคการเมืองไม่ได้เชียร์ก้าวไกลแบบหัวปักหัวปำ อาตมาไม่เห็นด้วยกับพรรคก้าวไกลบางเรื่อง ขอเตือนชาวพุทธอย่าวุ่นวายให้มากนักเลย จะมีพระแบบไหนถือว่าเป็นที่ไม่ดีอย่าไปเหมาเข่ง ถ้าใครมาด่ามาว่ามาแช่งถือว่าเราเป็นเจ้าของบ้านแล้วมีแขกมายืนด่ายืนว่าหรือเอาสิ่งไม่ดีมาให้เราเราเป็นเจ้าของบ้านมีสิทธิ์ที่จะไม่รับเอาไว้ในบ้านแล้วคืนให้เจ้าของเขาไป คำด่าของเขาเราไม่รับให้คืนไปเป็นเจ้าของคนด่าให้เป็นสมบัติติดตัวเขาไปทุกภพทุกชาติ