ส่วนท่าทีวันนี้ (25ก.ค.66) ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน บอกสั้นๆว่า "ไม่ควรมั้ง" โดยเดินออกจากตึกบัญชาการ 1 ไปยังตึกไทยคู่ฟ้าทันที
ซึ่งระหว่างเดินได้ส่งยิ้มให้กับสื่อมวลชน สื่อมวลชนจึงกล่าวกระเซ้าว่า ยิ้มเช่นนี้จะไม่ให้สัมภาษณ์ใช่หรือไม่ ทำให้พลเอกประยุทธ์ยิ้มตอบ ก่อนจะเดินต่อเพื่อไปยังตึกไทยคู่ฟ้า
จากนั้นสื่อมวลชนได้ถามถึงเหตุผลที่ไม่ควรยืดระยะเวลาจัดตั้งรัฐบาลไปถึง 10 เดือน ซึ่ง พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องดูความเสียหาย ต้องทำให้ถูกต้องตามระเบียบกติกา
เมื่อถามถึงกรณีที่นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา ออกมาระบุว่าการตั้งรัฐบาลหากไม่สามารถทำได้ ควรจะมีช่องทางนายกฯคนนอก คิดว่าเหมาะสมหรือไม่ ควรถึงขั้นนั้นไหม พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่าย้ำถึง 2 ครั้งว่า “ไม่ทราบ ไม่ทราบ”
เมื่อถามย้ำว่า หากต้องยืดระยะเวลาออกไปอีก 10 เดือนจริง จะส่งผลทำให้ประเทศเกิดความเสียหายหรือไม่พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็ตอบกันเองก็ได้มั้ง”
ส่วนอยากบอกอะไรกับฝ่ายที่กำลังตั้งรัฐบาลขณะนี้หรือไม่ พลเอกประยุทธ์ ระบุว่า ไม่เกี่ยวข้องอะนะ ไม่เกี่ยวข้อง ทำหน้าที่รัฐบาลรักษาการต่อไปให้ดีที่สุด
ส่วนการที่พลเอกประยุทธ์ ประกาศวางมือทางการเมือง ถือเป็นการถอยให้พรรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เข้าร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ พลเอกประยุทธ์ไม่ตอบในประเด็นดังกล่าวและเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าในทันที
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าพลเอกประยุทธ์ มีท่าทางสบายใจ ไม่เครียดเหมือนในช่วงก่อนการประกาศวางมือทางการเมือง
ด้านฟากฝั่งพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐกล่าวถึงกระแสข่าวว่าจะวางมือทางการเมือง และจะไม่รับตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี ในรัฐบาลหน้าว่า ยังไม่รู้ ต้องดูก่อน
เมื่อถามว่า จะเป็นหัวหน้าพรรค ดูแลพรรคพลังประชารัฐต่อไปใช่หรือไม่ พลเอกประวิตร กล่าวว่า ก็ยังเป็นอยู่ จะให้ปิดสวิสซ์ 3 ป.หรือไง เมื่อถามว่า ยังไม่ได้ประกาศจะวางมือการเมืองใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่เคยพูดที่ไหน ว่าจะวางมือ เมื่อถามว่าแล้วจะเอายังไงต่อในการจัดตั้งรัฐบาล พลเอกประวิตร กล่าวว่า ไม่บอก ให้รอดู
ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ ฐานะประธานผู้ประสานงาน สส.พปชร. กล่าวถึงกรณีที่มีผู้เสนอให้ชะลอการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีออกไป 10 เดือน เพื่อรอให้ สว. หมดอำนาจก่อน ว่า หลังการเลือกตั้ง มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยจะต้องมีรัฐบาล ถ้าจะให้รอไปอีก 10 เดือน ตนว่าไม่ใช่สาระสำคัญ สิ่งสำคัญที่สุดคือ จะต้องรีบจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้นหากวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ มีการโหวต นายกฯ ตามกำหนดเดิมทางพรรคพลังประชารัฐ ก็มีจุดยืนชัดเจนมาโดยตลอดว่า ในการจะโหวตหรือไม่โหวต ต้องดูว่าพรรคร่วมรัฐบาลประกอบด้วยพรรคอะไรบ้าง และมีอุดมการณ์นโยบายหรือแนวทางอย่างไรบ้าง ดังนั้นหากพรรคเพื่อไทย จับมือกับพรรคที่มีนโยบายไม่ตรงหรือขัดกับแนวทางกับพรรคพลังประชารัฐ เราก็ไม่โหวตให้ ไม่ว่าจะเป็นพรรคก้าวไกลหรือพรรคใดก็ตาม
ในกรณีที่ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลยังจับมือกัน และเสนอแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐจะโหวตให้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่า ไปจับมือกับพรรคการเมืองใดก็ตามที่มีแนวทางหรือนโยบายที่ขัดกับพรรคพลังประชารัฐเราไม่จับมือแน่นอน มันไม่ใช่เฉพาะเรื่องมาตรา 112 เราพยายามจะชี้ให้สังคมเห็นว่า พรรคพลังประชารัฐเรามีอุดมการณ์ มีนโยบายของพรรคชัดเจนว่า เราจะก้าวข้ามความขัดแย้ง ดังนั้นพรรคการเมืองใดก็ตามที่เรามองเห็นเป็นประจักษ์แล้วว่า เมื่อร่วมงานกันแล้วจะเกิดความขัดแย้งแน่นอนจะทำให้สังคมแตกแยกอย่างรุนแรง เราจะไม่ร่วมงานอย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้หากมีการจับมือกันของพรรคเพื่อไทยและพรรคพลังประชารัฐ ก็อาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้งมีการชุมนุมเช่นกัน ตนเชื่อว่าประวัติศาสตร์ของประเทศไทย สอนให้คนไทยได้เรียนรู้อะไรอีกเยอะ การที่เราไม่ยอมรับสภาพความเป็นจริงในสังคม เราจะเดินแบบสุดโต่ง มันจะเกิดความแตกแยก เกิดความเสียหายกับบ้านเมืองรวมถึงประชาชน และการที่สังคมออนไลน์ได้เผยแพร่คลิปพรรคเพื่อไทยในช่วงหาเสียงว่า จะไม่จับมือกับพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น มองว่าตอนหาเสียงอย่าไปมองที่พรรคเพื่อไทยพรรคเดียว แต่ละพรรคก็พยายามสาดโคลนเข้าหากันเพื่อให้ตัวเองได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง จึงถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้ถือเป็นสาระสำคัญสำหรับการเมือง ที่เราเล็งเห็นคือ ประชาชนได้ประโยชน์อะไร
"ผมต้องถามว่า วลี คำว่ามีลุงไม่มีเรา พี่น้องประชาชนได้ประโยชน์อะไร การที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ท่านพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ มาเป็นหัวหน้าพรรค อยากให้ดูผลงานที่ท่านสร้างไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความมั่นคง เรื่องการแก้ไขปัญหาที่ดิน เรื่องน้ำ ล้วนแล้วแต่คำนึงถึงผลประโยชน์ประเทศชาติบ้านเมือง และพี่น้องประชาชน ขณะเดียวกัน ท่านเป็นรองนายกรัฐมนตรีที่ดูแล เรื่องความมั่นคง ท่านก็เป็นห่วงบ้านเมือง ว่าจะเกิดความแตกแยก และอาจจะมีปัจจัยอื่นเข้ามาแทรกแซงการเมืองไทยก็จะสะดุด" ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า "พร้อมระบุข้อความว่ากบน้อยตัวนิดๆอยู่มิดชิดแต่ในกะลา มันจึงนึกไปว่าในกะลาคือโลกกว้างใหญ่
กบเอ๋ยเจ้าไม่รู้ว่า โลกโสภากว้างใหญ่เพียงไหน จึงทะนงหลงผิดไปว่าโลกกว้างใหญ่นั้นคือกะลา"
ผู้สื่อข่าว สอบถามนายอนุทิน ถึงประเด็นโพสต์ดังกล่าว โดยยืนยันว่าไม่มีอะไรเป็นการโพสต์ เพื่อเตือนตัวเองไม่ได้มีนัยอะไร เมื่อสื่อมวลชน ถามต่อว่า ''ใครคือกบ" นายอนุทิน ตอบว่า ผมนี่แหละ พูดกับตัวเองเหมือนคุณชาดา ไทยเศรษฐ์ สส. ภูมิใจไทยจังหวัดอุทัยธานี
ระหว่างที่นายอนุทินเดินขึ้นรถได้ฮัมเพลงเจ้ากบของแกรนด์เอ๊กซ์ ขยายความว่าที่โพสต์ เพราะเห็นรูปที่มีคนถ่ายตัวเองที่มีคนถ่ายรถของคุณพ่อ ซึ่งเป็นรถซีตรองที่หน้ารถคล้ายกบ