นาย จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน และอดีต สส พรรคเพื่อไทย ระบุถึงกรณีที่ นายทักษิณ จะเดินทางกลับไทยวันที่ 10 สิงหาคมนี้ ว่าโดยส่วนตัวแล้วยังไม่ปักใจเชื่อว่า นายทักษิณ จะกลับไทยจริง เพราะเคยพูดแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้กลับไทยมาเลยจริงสักครั้ง การกลับบ้านของอดีตนายกทักษิณมันคือความไม่ชัดเจนตลอด เพราะมันเกี่ยวข้องกับสถาการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยด้วย
แต่ที่น่าจับตามองคือถ้าก่อนวันที่ 10 ก่อนที่นายกทักษิณจะกลับมานั้น แล้วมีการข้ามขั้วทางการเมืองชัดเจนคือเพื่อไทยจับมือกับพรรคพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ เธอว่าพรรคเพื่อไทยได้หักหลังประชาชนอย่างเป็นทางการ แล้วจะเกิดความวุ่นวายทางการเมือง การกลับมาของนายกทักษิณอาจจะช่วยกบกระแสข่าวดังกล่าวได้
อีกมุมหนึ่ง นายจตุพรมองว่า การกลับมาในครั้งนี้ภายหลังจากที่พรรคเพื่อไทยหักหลังประชาชนไปจับมือกับพรรครัฐบาลเดิมแล้วนั้น ความรักของประชาชนที่มีต่ออดีตนายกทักษิณอาจจะไม่เหมือนเดิม อาจจะเกิดกระแสต่อต้านได้ เพราะการที่พรรคเพื่อไทยข้ามขั้วไปจัดตั้งรัฐบาลกับฝ่ายตรงข้าม ทุกคนย่อมรู้ดีว่าถ้าอดีตนายกทักษิณไม่ให้ทำใครในพรรคเพื่อไทยก็คงไม่กล้าทำ
ส่วนการที่อดีตนายกฯทักษิณ เคยปล่อยข่าวว่าจะกลับประเทศไทยนั้นจริงๆแล้วก็เป็นเพราะว่าอยากกลับจริงแต่ อยากกลับมาแบบไม่เข้าคุก จนมีคำพูดหลุดมาว่าอยากกลับมาแบบเท่เท่ แต่ดีลไม่สำเร็จ จึงไม่สามารถกลับได้ ทุกครั้งที่มีการปล่อยข่าวว่าจะกลับประเทศไทยมีการดีลทุกครั้งแต่ก็ดีลไม่สำเร็จ เพราะถ้าหากต้องการกลับมาแล้วเดินเข้าเรือนจำสามารถกลับมาได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว
แต่การที่อดีตนายกฯทักษิณอยากกลับมาแบบเท่เท่ ส่วนตัวนายจตุพรมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าภูมิใจและไม่สง่างามเหมือนกลับเข้ามาเดินเข้าคุกแบบลูกผู้ชายเหมือนที่ตัวเองก็เคยทำมาแล้ว เพราะจะทำให้ระบอบประชาธิปไตยในบ้านเมืองจะแข็งแรงเป็นนิรันดร์ แต่อดีตนายกทักษิณกลับมองว่าติดคุกวันเดียวก็เหมือนโดนฆ่าตายแล้ว
นอกจากนั้นนายจตุพร ยังเปิดเผยถึงเส้นทางการกลับไทยของอดีตนายกทักษิณแบบไม่ต้องเดินเข้าคุกมีด้วยกันสองช่องทางคือ / 1. คือรัฐบาลตราเป็นพระราชกำหนดหนดนิรโทษกรรมให้ (พลเอกประยุทธ์ คงไม่ทำให้) / 2. คือต้องติดคุกก่อนแล้วขอพระราชทานอภัยโทษ เป็นการส่วนตัว หรือขอพระราชทานอภัยโทษตามวาระพิเศษ เช่นมาถึงไทยวันที่ 10 สิงหาคมวันที่ 12 สิงหาคม ขอพระราชทานอภัยโทษเนื่องในวันแม่แห่งชาติ
ส่วนประเด็นที่หลายคนมองว่าการที่พรรคเพื่อไทยมีความพยายามจะจัดตั้งรัฐบาลให้ได้แบบไม่สนว่าจะรวมกับพรรคการเมืองไหนนั้น เป็นเพราะว่าต้องการช่วยเหลืออดีตนายกทักษิณให้สามารถกลับไทยมาได้แบบเท่เท่นั้น นายจตุพรมองว่ายิ่งพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลก็จะยิ่งทำให้การกลับมาแบบเท่เท่ของอดีตนายกทักษิณทำได้ยากขึ้นเพราะจะถูกคนจับตามองเป็นอย่างมาก
ส่วนสถานะระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลตอนนี้ นายจตุพรมองว่าเป็นลักษณะแบบเพื่อนนักหักเหลี่ยมโหด ถ้าเปรียบเปรียบเป็นเพลง ก็คงต้องไปฟังเพลง รอยไถแปร ของก้าน แก้วสุพรรณ ร้องว่า “ทุ่งนาแดนนี้ ไม่มีความหมาย เหลือเพียงกลิ่นโคลนสาบควาย” ซึ่งยากที่จะทำให้สองพรรคนี้กลับมาคืนดีเป็นเพื่อนรักกันเหมือนสมัยก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง