หนุ่มอุดรวัย 21 ปี ขี่ จยย.ย้อนศรไกลกว่า 1 กม. เกิดลังเล-เลี้ยวเฉี่ยวรถกระบะล้มคว่ำเสียชีวิต
เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 28 ก.ค.66 พ.ต.ท.ประเสริฐ กุลบุตรดี สว.(สอบสวน) สภ.พานทอง รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนกัน ก่อนถึงไฟแดงนิคมอมตะซิตี้ชลบุรี เฟส 10 ถนนพานทอง-มาบโป่ง ช่วงขาออก ม.1 ต.มาบโป่ง อ.พานทอง จ.ชลบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิจตุรธรรมประทีป
ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน มีเกาะกลางถนนแบ่งเป็นขาเข้า อ.พานทอง 2 เลน และขาออกจาก อ.พานทอง 2 เลน บริเวณกลางถนนพบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า สีขาว ทะเบียน กทม. สภาพด้านหน้าพังเสียหาย ใกล้กันพบศพ นายอภิวัฒน์ อายุ 21 ปี ชาวอุดรธานี สภาพศีรษะแตกมันสมองกระจายเกลื่อนพื้นถนน แขนและขาหักทั้ง 2 ข้าง ห่างไปประมาณ 100 เมตร พบรถกระบะบรรทุกปลาสดยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์ ทะเบียนชลบุรี จอดอยู่บริเวณข้างทาง สภาพด้านซ้ายมีร่องรอยถูกชนเป็นรอยยาว กระจกข้างซ้ายหัก ล้อแม็คหน้าซ้ายแตก ส่วนบริเวณคอกที่บรรทุกปลายังพบเศษมันสมองของผู้ตายติดอยู่
จากการสอบถาม นายธนวันต์ อายุ 20 ปี คนขับรถกระบะ ให้การว่า ตนขับรถมาจากทาง อ.พานทอง มุ่งหน้าไปสี่แยกมาบโป่ง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถ จยย.คู่กรณีขี่ย้อนศรมาจากสี่แยกไฟแดงอมตะซิตี้ชลบุรีเฟส 10 ในเลนกลาง ตนพยายามหักหลบแล้วแต่ไม่พ้น เพราะว่ามีรถอีกคันขับตีคู่มากับรถ จยย. จึงถูกรถ จยย.เฉี่ยวบริเวณกระจกข้างซ้ายจนล้มคว่ำ ซึ่งตอนนั้นไม่ได้มีรถขับตามหลังมาชนซ้ำแต่อย่างใด ตนก็แปลกใจว่าทำไมกะโหลกศีรษะผู้ตายถึงได้แตกสมองเต็มถนน
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พบกับ น.ส.จุรีภรณ์ แซ่อึ้ง อายุ 28 ปี คนเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนขับรถตีคู่มาในช่องเลนซ้าย ส่วนรถกระบะบรรทุกปลาขับมาจาก อ.พานทอง วิ่งมาในช่องเลนขวา และเห็นรถ จยย.คันดังกล่าวขับย้อนศรมาจากไฟแดงลักษณะอยู่กลางถนน เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ จยย.เกิดลังเลว่าจะไปทางไหนดี แต่สุดท้ายได้หักไปเฉี่ยวบริเวณกระจกรถกระบะจนล้มลง
จากการตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุพบว่า จากจุดที่ผู้ตายนอนเสียชีวิตอยู่ห่างจากสี่แยกไฟแดงอมตซิตี้ชลบุรี เฟส 10 ประมาณ 1 กิโเมตร ซึ่งในช่วงกลางคืนจะเป็นสัญญาณไฟกะพริบ มักจะมีผู้ใช้รถ จยย.แอบขับขี่ย้อนศรเป็นประจำ ต่อมามีเพื่อนของผู้ตายได้ขับรถตามมาดูที่เกิดเหตุ ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามว่า ได้เจอกับผู้ตายครั้งสุดท้ายเมื่อไร เพื่อนผู้ตายบอกว่า เพิ่งจะแยกย้ายกันออกมาจากร้านอาหารแห่งหนึ่งบริเวณสี่แยกไฟแดงเมื่อไม่นานนี้เอง จากนั้นเพื่อนผู้ตายก็เดินหนีไปโดยไม่ให้สอบถามข้อมูลใด ๆ อีก
ส่วนในเรื่องคดีความนั้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ถ่ายภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานแล้ว และให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้ตายส่งชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่ รพ.พานทอง พร้อมจะเร่งหากล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบดูว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมาจากสาเหตุใด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป