จากกรณี หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม ให้ความเห็นถึงพระพยอม หลังพูดแสดงความเห็นทางการเมือง และกล่าวถึงประเด็นที่มีการจะแก้มาตรา 112 ล่าสุด "พระพยอม" ขอบใจ "แพรรี่ ไพรวัลย์" ที่ออกมาปกป้องในฐานะรู้จักกันมาก่อน

แพรรี่ ไพรวัลย์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ไพรวัลย์ วรรณบุตร ระบุว่า "นะร่ำไรรักใคร่เห็นหน้า" มันอยู่ในท่อนไหนของพระไตรปิฎกคะ พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ในพระสูตรไหน แล้วตัวเองเป็นพระเนี่ย ใช้คำว่า ความเชื่อส่วนบุคคลได้ด้วยเหรอ คุณเป็นพุทธบุตร คุณไม่ต้องมีหน้าที่เผยแผ่คำสอนหรือหลักความเชื่อของพระพุทธเจ้าเท่านั้นเหรอคะ ตอนบวชเข้าไปถึงใครเป็นสรณะคะ ถือพุทธศาสตร์หรือถือไสยศาสตร์ บวชเข้าไปแล้วทำสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนและทรงห้ามแบบนี้ คุณรู้ไหมคะว่า ในทางพระศาสนาท่านเรียกนักบวชประเภทนี้ว่าอะไร และได้โพสต์ข้อความว่า "ไปหมดแล้วการพระศาสนา น่าอเนจอนาถใจ พระที่เป็นธรรมวาทีมีแต่ถดถอยกำลัง ต่อไปคงไม่เหลือหน่อเนื้อศากยบุตรให้กราบไหว้แล้วหล่ะ ปล. มั่นนะคะ กล้าพูดว่า ไม่ผิด" นอกจากนี้ แพรรี่ ยังโพสต์เฟซบุ๊ก ว่า "เราอยู่ในยุคที่พระซึ่งหากินกับเดรัจฉานวิชา มานั่งตำหนิพระที่ปฏิบัติดีและปฏิบัติตรงตามคำสอน กูจะขำ หรือกูจะร้องไห้ดีคะเนี่ย"

 

 

เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 66 ผู้สื่อข่าวจึงไปที่พบพระพยอม ที่วัดสวนแก้ว จังหวัดนนทบุรี ซึ่ง พระพยอม ได้บอกว่า กรณีดังกล่าวคงจะต้องแยกแยะว่าบางส่วนพูดได้ บางส่วนพูดไม่ได้ ซึ่งให้ข้อธรรมะกับนักการเมืองว่าควรทำสภาให้มีสัตบุรุษผู้สงบ ระงับอย่าหุนหันพลันแล่น ให้เยือกเย็นถ้าพระพูดแบบนี้ไม่ได้ก็แสดงว่าให้ธรรมะหลักคิดทางการเมืองไม่ได้

แต่ที่ไม่ได้ตามที่หลวงพี่น้ำฝนว่ามันน่าจะเป็นการเข้าข้างใดข้างหนึ่ง ไปอยู่ฝ่ายค้านถล่มรัฐบาล หรืออยู่ฝ่ายรัฐบาลถล่มฝ่ายค้าน พูดในลักษณะยกข้างหนึ่งเหยียบข้างหนึ่ง อย่างนี้จะไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องผิดหลัก เพราะฉะนั้นอาตมาเองก็จะไม่ดื้อถ้า มหาเถรสมาคมว่ายังไงอาตมาก็ว่าอย่างนั้น เดี๋ยวเข้าพรรษานี้ก็จะเงียบแล้ว จะให้ตัวเองเป็นศูนย์

 

 

นอกจากนี้ พระพยอมยังบอกอีกว่า ตอนนี้อาตมากระสุนลง หลายเรื่องหลายอย่าง มีการเล่นลามปามถึงขั้นตัดต่อหัวพระพยอมไปสวมใส่เสื้อสีส้ม ทำให้คนโทรเข้ามาหา และเขียนหนังสือมาที่วัด ขณะที่ตอนนี้ ไม่มีความเครียดเพียงเรื่องงานที่งานมันกำลังจะเดินไปข้างหน้า ขอความกรุณาฝ่ายที่ถล่ม ทางวัดก็ให้นึกถึงหมาแมว เด็ก คนชราที่มาอาศัยอยู่ในวัด