ประเด็นการเมือง ยังถูกจับตาอย่างมาก โดยเฉพาะการแจ้งข่าว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับไทย ในวันที่ 10 ส.ค. 66 โดยอายุครบ 74 ปี เมื่อ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสข่าวซูเปอร์ดีล ที่ฮ่องกง
เรื่องนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สส.พรรคเสรีรวมไทย ถึงการคาดการณ์สถานการณ์การเมืองในอนาคต โดยประเด็นข่าวลือที่ว่าคุณธนากรบินไปฮ่องกงเพื่อไปพูดคุยกับคุณทักษิณ คุณธนากรไม่ยอมรับกับนักข่าว แต่ความเป็นจริงไปพูดคุยกับคุณทักษิณเพื่อขอร้องให้เพื่อไทยไม่เอาสองลุง แล้วก้าวไกลจะยอมถอย ให้เพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งดีลนี้ ลุงตู่ยอมวางมือ ลุงป้อมยอมถอย ถึงเป็นที่มาของ “ซูเปอร์ดีลฮ่องกง”
ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวถึงประเด็นก่อนหน้านี้ตนเคยเปรยแล้วว่าแนะนำให้ก้าวไกลถอย อย่าไปยุ่งกับเพื่อไทยที่จัดตั้งรัฐบาล ก็บอกเปรยๆ ตรงกับที่คุณชูวิทย์แฉ “ซูเปอร์ดีลฮ่องกง” ส่วนเหตุผลที่เพื่อไทยอยากร่วมจัดตั้งรัฐบาล เพราะต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตรา หลังแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จ ก็บรรลุเป้าหมายก็บรรลุเป้าหมายแล้วอาจอยู่ไม่ครบเทอม ส่วนเรื่องที่จะจับมือกับภูมิใจไทย พลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ ดีลมันจบแล้ว คุณทักษิณถึงกลับมาไทย
ขณะที่ประเด็นทำไมคุณทักษิณถึงกลับมาไทยหลังโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 3 ซึ่งแม้ผลโหวตจะออกมาว่าคุณเศรษฐาได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ก็ยังไม่ได้รับการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังไม่สามารถดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีได้ แล้วทำไมคุณทักษิณถึงไม่กลับมาไทย ตอนที่คุณเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว
คุณทักษิณวางหมากเกมการเมืองไว้หมดแล้ว ที่กลับมาในช่วงที่พลเอกประยุทธ์ยังเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะซูเปอร์ดีลฮ่องกง ดีลสำเร็จแล้ว แต่ถ้ากลับมาตอนที่คุณเศรษฐาดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี นั่นจะหมายความว่าคุณเศรษฐาใช้อำนาจในทางมิชอบช่วยคุณทักษิณกลับไทย
นอกจากนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวถึง ประเด็นก้าวไกลที่ปล่อยให้ นายนครชัย ขุนณรงค์ หรือ ไอซ์ เป็น สส.ระยอง เขต 3 ทั้งที่เป็นอดีตนักโทษ คดีลักทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เมื่อราว ๆ ปี พ.ศ. 2542-2543 โดยศาลสั่งลงโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน
ตนเชื่อว่าหัวหน้าพรรคก้าวไกลไม่ทราบข้อมูลก่อนหน้านี้ว่านายนครชัยเคยถูกจำคุกมาก่อน เนื่องจากเป็นข้อมูลเก่าเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ตนไม่โทษที่พรรคก้าวไกลไม่รู้ แต่ก้าวไกลต้องออกมารับผิดชอบ แม้ว่าล่าสุดนายนครชัยประกาศผ่านเฟซบุ๊ก จะขอลาออกจากการเป็นสส.ในสัปดาห์หน้า ตนก็ยังยืนยันว่าไม่ใช่ว่าออกแล้วจบ แต่จะต้องทำตามกฎระเบียบกฎหมาย
ตอนแรกตนไม่ได้ต้องการจะแฉประวัติของนายนครชัย แต่เพราะที่ผ่านมาก้าวไกลชอบอวดอ้างว่าส.ส.ของตนเองดีนัก ของคนอื่นไม่ดี ก็เลยออกมาแฉ ให้ดูที่ผ่านมาส.ส.พรรคก้าวไกลก็มีคดีหลายคน ทั้งเมาแล้วขับ ทำร้ายร่างกายผู้หญิง และลักทรัพย์ ตนขอยกตัวอย่างพรรคตน ตนคัดประวัติทุกคนที่มาสมัครส.ส. แต่ไม่ได้ถูกเลือกเป็นสส. เพราะคนที่กาเลือกคิดไม่เป็น
กรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกมาพูดเรื่อง สส.ระยอง พรรคก้าวไกล เคยติดคุก นั้น
รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส คณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก เปิดเผยว่า การกระทำดังกล่าวถ้าหากสังคมมองก็จะตั้งคำถามว่า ช่วงหลังมีการพูดถึงพรรคก้าวไกล แต่เป็นทำนองแนวลบ อาจจะมีนัยยะบางอย่างอยู่หรือไม่อย่างไร เพราะท้ายที่สุดแล้ว ตัวของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็มีคะแนนเสียงเพียงแค่1เสียง แต่กำลังมีการพูดลักษณะทำให้พรรคก้าวไกลเสียหาย
ดังนั้นเรียกได้ว่าการกระทำของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่แฟร์ต่อพรรคก้าวไกล และเชื่อว่าสังคมก็ดูออกว่ามีเจตนาทำไปเพื่ออะไร เพราะก่อนหน้านี้ก็พูดแต่ว่ามีการทำเอ็มโอยู8พรรคร่วม และแนวทางจะดีอย่างไร แต่พอพรรคก้าวไกลไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ กลับกลายเป็นว่ามีการเปลี่ยนท่าที จึงทำให้มองได้ง่ายว่ามีบางอย่างซ่อนเร้นอยู่หรือไม่อย่างไร และทำไปเพื่อวัตถุประสงค์อะไร
แล้วส่วนตัวคาดการณ์ว่า หากการจัดตั้งรัฐบาลมีการจับมือข้ามขั้ว แล้วดำเนินการจัดตั้งสำเร็จ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ อาจจะได้รับตำแหน่งบางอย่างที่สำคัญหรือไม่ในรัฐบาล ช่วงหลังจึงออกมาพูดเกี่ยวกับพรรคก้าวไกลมากขึ้น และแม้ว่าปัจจุบันจะยังอยู่ในกลุ่มพรรคร่วมทำเอ็มโอยู แต่เมื่อมีการกระทำแบบนี้เกิดขึ้นก็อาจดูไม่เป็นทำกับบางพรรคเช่นกัน รวมไปถึง “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็ถือว่าเป็นพี่ใหญ่และเป็นผู้ใหญ่มาก ควรจะเป็นคนกลางในการประนีประนอม มากกว่าการตรอกอุดความขัดแย้งเพิ่ม ยิ่งทำแบบนี้ ยิ่งทำให้สังคมดูออกว่ามีเจตนาทำเพื่ออะไร และมีนัยยะอะไรซ่อนอยู่”
รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส คณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก ยังกล่าวถึงกรณีการโหวตนายกรัฐมนตรีที่จะเกิดขึ้นในวันที่4 ส.ค. ก่อนวันกำหนดการเดินทางมาของนายทักษิญ ว่า เรื่องนี้เห็นได้ชัดเจนว่าทุกอย่างมีการเตรียมการ มีวันเวลาที่วางเอาไว้ทั้งหมดแล้ว ว่าจะต้องได้นายกรัฐมนตรีก่อนที่นายทักษิณจะกลับบ้าน เพราะดูจากการที่พรรคเพื่อไทยได้มีการเชิญพรรคการเมืองอื่นซึ่งก่อนหน้านี้อยู่คนละขั้ว แต่มีการเชิญมาพูดคุยกันแล้วมีการเร่งรัดบางอย่าง จนเป็นเหตุสังเกตได้
และหากเพื่อไทยมีการจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ ก็ถือว่าเป็นเป้าหมายที่ทำเอาไว้รองรับชัดเจน หากดูตามช่วงเวลาแล้วจึงเชื่อมั่นได้ว่า 4 ส.ค. จะต้องได้นายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน แล้วเมื่อได้นายกรัฐมนตรี ก็จะเป็นไปตามวันเวลาที่นายทักษิณประกาศเอาไว้ว่าจะเดินทางกลับ ดังนั้นทุกอย่างค่อนข้างมีความชัดเจนและมีวันเวลากำหนดชัดเจนเช่นกัน
และสัญญาณที่บ่งบอกถึงวันเวลากำหนดการที่ชัดเจน คือสังเกตได้จากไฟล์ที่เห็นต่างหรือฝ่ายที่ไม่เอานายทักษิน ช่วงนี้ดูเงียบและไม่มีเคลื่อนไหวใดๆ ฉะนั้นก็เป็นไปได้ตามที่มีคนออกมาพูด ที่ว่า แดงกับเหลืองจะรวมกัน เพื่อล้มส้ม ตั้งนั้นก็มีความเป็นไปได้เพราะดูจากกระแสแล้วตอนนี้ฝ่ายที่เห็นต่างค่อนข้างนิ่งเงียบ “เพราะทุกอย่างมันคือกระบวนการนำพาทักษิณกลับบ้าน”