จากเหตุการณ์ที่มีแม่คนหนึ่งโพสต์ข้อความบนโลกออนไลน์ เผยเรื่องราว เด็ก 2 ขวบ ถูกครู เนอสเซอรี่ จากศูนย์เตรียมความพร้อมก่อนวัยเรียนทำร้าย มีภาพรอยเขียวช้ำตามตัว ทั้งแก้ม , แขน ,แผ่นหลัง และอวัยวะเพศ โดยระบุข้อความว่า เตือนภัย...ผู้ปกครองที่จะนำบุตรหลานเข้าเรียนเนอสเซอรี่
คุณแม่ รายนึงเห็นแผลตามร่างกายลูกวัย2ขวบกว่า จึงได้พูดคุยกับลูกว่าไปโดนอะไรมา พอทราบว่าลูกถูกครูทำโทษ ด้วยการหยิกแก้มและหยิกที่อวัยวะเพศ ทำให้รู้สึกโกรธมากที่มาทำกับลูกแบบนี้ ก่อนหน้านี้ลูกเคยมาเล่าให้ฟังหลายครั้งว่าถูกครูตี แต่ตอนนั้นรอยแผลยังไม่ชัดขนาดนี้ ถึงลูกจะซนบ้างดื้อบ้างตามภาษาเด็ก แต่ครูก็ไม่มีสิทธิ์มาหยิบแก้ม และหยิกอวัยวะเพศจนเป็นแผลแบบนี้ ตอนนี้ลูกไม่อยากไปเรียนแล้วและมีอาการขวัญผวาตลอด เมื่อได้คุยกับผู้ปกครองบางรายถึงได้ทราบว่า เคยถูกครูทำโทษลักษณะคล้ายๆกันด้วย
ล่าสุดแม่เด็กได้แจ้งความไว้แล้ว และจะพาลูกเข้าตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลอีกครั้งในวันที่1ส.ค.นี้
ส่วนทางเนอสเซอรี่แห่งนี้ จะรับผิดชอบด้วยการ จ่ายค่ารักษาพยาบาล คืนค่าเรียนของเดือนกรกฎาคมให้ และจะให้ทนายทำการฟ้องแม่เด็กรายนี้ เนื่องจากแม่เด็กได้นำเรื่องราว ที่ลูกถูกครูทำโทษภายในเนอสเซอรี่มาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ทำให้เนอสเซอรี่แห่งนี้ได้รับความเสียหาย
วันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นไปยังบ้านของ นางสาวจิรภิญญา อายุ 19 ปี ผู้ที่โพสต์และะเป็นแม่เด็ก ของเด็กชายฟาริส อายุ 2 ปี ที่ถูกทำร้ายร่างกาย
นางสาวจิรภิญญา เล่าว่า เล่าว่า ตนเองกับสามีต้องทำงานทั้งสองคนจึงได้หาสสถานที่รับเลี้ยงลูก ก่อนจะมีคนแนะนำให้รู้จักเนอสเซอรี่ดังกล่าว ตนเองจึงได้ไปติดต่อและดูสถานที่ พบว่าเป็นสถานที่รับเลี้ยงลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว ด้านหน้าทำเป็นออฟฟิศเลี้ยงเด็ก ภาพรวมสะอาด เป็นห้องกระจก ติดแอร์ พบมีการรับเลี้ยงเด็กตั้งแต่ ทารกไปจนถึง 4-6 ขวบ ประมาณ 10 คน แม่เห็นจำนวนเด็กเยอะคิดว่าผู้ปกครองไว้ใจที่นี่จึงมีเด็กมาเยอะ และเป็นที่รู้จัก รวมถึงมีใบอนุญาตนับเลี้ยงแปะให้เห็นชัดเจนน่าเชื่อถือ และยังอยู่ใกล้บ้าน ทำให้สะดวกกับการรับส่งลูก
จนกระทั่งลูกอยู่ที่เนอสเซอรี่แห่งนี้ มา 3-4 เดือน ตนเองเห็นสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับลูกเห็นรอยเล็บ รอยเขียวช้ำตามตัว ตนเองไม่เอะใจอะไรคิดว่าลูกดื้อเล่นซนตามประสาเด็ก หรือครูอาจจะจับเด็กแรงหรือไม่จึงไม่ได้คิดอะไร แต่ก็พบว่าลูกมีอาการไม่อยากไปโรงเรียน เมื่อตนเองถามกับลูกว่า “ครูตีไหม “ ลูกบอกว่า “ครูตี” ก็ถามว่า “ตีตรงไหน” เขาก็ชี้ที่มือว่าตีตรงนี้ ตนก็ไม่เอ๊ะใจคิดว่าครูคงสั่งสอนปกติ
กระทั่งวันอังคารที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา สามีตนเองไปรอรับลูก แต่ครูไม่รู้ว่าพ่อของเด็กไปรอรับอยู่ด้านนอกจึงทำให้สามีเห็นคาตาว่า ครูกำลังใช้มือดึงหน้าลูกแบบดึงขึ้น แต่เมื่อครูหันมาเห็นสามีครูก็ตกใจจนลนลาน ไปหยิบกระเป๋ามาให้ แต่สามีก็ไม่ได้พูดอะไรในตอนนั้น เผื่อจะรอดูอาการของครูว่าจะพูดอะไรหรือไม่แต่ครูก็กลับไม่พูดในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เมื่อลูกกลับมาถึงบ้านครูได้ แชตไลน์มาหาตนเองบอกว่าขอโทษ อ้างว่าที่ทำลงไปเพราะทำโทษลูก ที่พาไปเข้าห้องน้ำ 20 นาทีแต่ลูกไม่ยอมฉี่ แต่ออกมาข้างนอกมาฉี่ใส่ของเล่นจึงทำให้ถูกทำโทษ ตนเองไม่ได้ตอบอะไรกลับไปแต่เมื่อกลับมาจากทำงาน ตนเองจึงรีบเปิดดูตามตัวลูกจึงพบรอยช้ำอีก 5-6 จุด ตามตัว และที่สะเทือนใจคือ ที่หัวนมลูกรอยเล็บจิก และรอยช้ำที่อวัยวะเพศ ตนจึงไม่พอใจ ถ่ายรูปไปเคลียร์กับครู ซึ่งครูก็ยอมรับ อ้างว่าเด็กทำผิด ทำไม่ถูกต้อง ก่อนขอจ่ายค่ารักษาให้ แต่พึ่งจ่ายมาแค่รอบเดียว จำนวน 1,129 บาท ทั้งที่แม่ส่งไป 2 รอบ ๆ แรก 1,293 บาท แต่ครูกลับเลือกจ่ายส่วนรอบที่ 2 แม่คิดว่าครูมองยอดมันน้อยกว่าครูจึงเลือกจ่ายยอดน้อยมาก่อน และคืนค่าเลี้ยง 1 เดือน จำนวน 4,500 บาท (เดือน ก.ค.)
โดยหลักๆ ตนพาลูกไปตรวจร่างกาย 1 รอบ แต่วันต่อมาไข้ขึ้นสูงมาก ๆจากนั้นส่าไข้ จนผื่นขึ้นเต็มตัว ตนจึงพาไปหาหมอ จึงมั่นใจว่าลูกโดนครูทำช้ำทั้งตัวและจิตใจลูกแย่จึงไข้ขึ้น
สำหรับแม่ไม่ได้ถามรายละเอียดวันอื่นเลย เพราะครั้งนี้เห็นเอง และครูทักมายอมรับเอง แม่จึงใจว่าครูทำรุนแรงหลายครั้ง แม่จึงทักถามแม่ ๆ คนอื่น แม่ ๆ บอกลูกก็เคยเจอแบบนี้ แต่แม่ทุกคนไม่ได้มีหลักฐาน เพราะขณะนั้นพอแม่ ๆรู้ก็ไม่ให้ลูกไปอีก ตัดปัญหากันไป
แม่ยอมรับว่าครูขอโทษและน้อมรับ จะรับผิดชอบ แต่หลังจากนั้นจิตใจลูกก็แย่มาก คนที่เคยสนิทมาเล่นกับลูก ก็โดนตัวลูกไม่ได้เลย ลูกร้อง งอแง และระแวง หวงตัว แม่จึงตัดสินใจโพสต์เรื่องร้องเรียนไปที่(กันจอมพลัง) และแม่ก็ไปแจ้งความเอาไว้
"การทำโทษหยิกขนาดนั้นไม่ควร ตัวแม่เองก็ไม่เคยทำลูก จริง ๆแม่มองว่าวัยนี้ดื้อก็แค่ขึ้นเสียง เพราะแม่ใช้วิธีนี้ก็ได้ผล อีกทั้งคนเป็นครูต้องมีแนวทางและวิธีการที่ดีกว่าแม่แน่นอน" แม่ของเด็กวัย 2 ขวบ กล่าว
สำหรับแม่ให้ครูทำโทษได้ แต่ควรเป็นไปในทางที่สมควรและเหมาะสม เพราะแม่เชื่อว่าลูกแม่ 2 ขวบเอง ทำแรงรงแบบนี้มันไม่ควร และครูเองก็เหมือนไม่รู้สึกผิดเลย มาอ้างว่ารับผิดชอบแล้ว จะเอาอะไร หนักหนา แม่ตั้งคำถามว่าลูกแม่จิตใจย่ำแย่