"วสวรรธน์" หัวหน้า "เพื่อไทรวมพลัง" คาดประชุม 8 พรรคร่วมฯ 2 ส.ค. นี้ ถกเรื่องศาล รธน. จ่อรับคำร้องปมเสนอชื่อ "พิธา" - จุดยืนแก้ไขมาตรา 112 ยันไม่มีคุยผลัก "ก้าวไกล" เป็นฝ่ายค้าน ชี้ 312 เสียงต้องมัดกันแน่น
วันที่ 31 ก.ค. 2566 นายวสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง เปิดเผยความคืบหน้าในการประสาน 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลเพื่อประชุมเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมรัฐสภาวาระโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ โดยระบุว่า เบื้องต้นยังไม่ได้มีการนัดหมายอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าน่าจะเป็นวันที่ 2 ส.ค.นี้
โดย นายวสวรรธน์ คาดว่า ในการประชุมจะพูดคุยถึงเรื่องหากศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาจะรับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีรัฐสภามีมติไม่เห็นชอบให้เสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซ้ำ เป็นการขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ จะทำอย่างไรต่อ
ทั้งนี้ ยังมีเรื่องจุดยืนการแก้ไขมาตรา 112 ทางพรรคก้าวไกลว่าอย่างไร ซึ่งตนมองว่า ทางพรรคก้าวไกลน่าจะทำการบ้านมาแล้ว รวมถึงความคืบหน้าเรื่องหาเสียงของพรรคการเมืองและ สว. เพราะต่างคนต่างไปพูดคุยกันมา แล้วมารายงานความคืบหน้ากัน
เมื่อถามถึง กรณีที่มีรายงานข่าวว่าทางพรรคก้าวไกลจะโหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย แต่จะถอยไปเป็นฝ่ายค้าน นายวสวรรธน์ กล่าวว่า ไม่มี ยังไงก็ไม่มี ยังเป็น 8 พรรค 312 เสียงอยู่ ยังไม่ได้มีการคุยกันว่าก้าวไกลจะเป็นฝ่ายค้านสักที มีแต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย บอกให้ถอย ซึ่งไม่ได้ออกมาเป็นมติ 8 พรรคร่วม
นายวสวรรธน์ ยังเผยว่า ในการประชุม 8 พรรคร่วมที่ผ่านมาตนก็การเสนอว่าให้ไปขอเสียงพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา มาดู แต่ไม่ได้ไปพูดว่า 2 ลุง และพรรคเพื่อไทยก็ได้รับฉันทามติจากอีก 7 พรรคให้ไปคุย เราไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าเป็นพรรคไหน แล้วแต่พรรคเพื่อไทย
"เราให้เกียรติเขาที่จะไปคุยกับพรรคไหน เราไม่ได้ไปบังคับว่าต้องไปเอาใครมา เขาบอกเราว่าเชิญมาพูดคุยไม่ได้เชิญมาร่วม ไม่ได้อยากให้เอาไปเป็นประเด็นว่าลุงมาด้วยแล้วก้าวไกลจะไปเป็นฝ่ายค้าน เพราะ 8 พรรคยังไม่มีมติตรงนี้เลย 312 เสียง ยังต้องมัดกัน เพราะหากแตกกันก็จะไม่มีรัฐบาลจากฝั่งที่ประชาชนคาดหวัง"
เมื่อถามว่า ที่ทางพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้มีการติดต่อมา ได้ติดต่อสอบถามอะไรไปหรือไม่ เนื่องจากใกล้ถึงวันโหวตแล้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง กล่าวว่า ยังไม่มี เพราะเขาคงกำลังประสานกันอยู่ เราก็ไม่ได้ไปเร่งเขา เรารู้อยู่แล้วว่าเวลามีเท่านี้ก็แค่เตรียมตัวเองให้พร้อม และวันนี้ตนก็จะเดินทางเข้าไปสแตนบายรอที่กรุงเทพฯ