จากกรณีเกิดเหตุโกดังเก็บประทัดและดอกไม้ไฟระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ในพื้นที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส แรงระเบิดทำให้บ้านเรือนประชาชน และรถยนต์พังเสียหายจำนวนมาก เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 12 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 121 ราย

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ชาวมูโนะผู้ประสบภัย ไม่เหลืออะไรเลย โดยสิ่งของที่ตอนนี้ชาวมูโนะต้องการ ยาสีฟัน ผ้าเช็ดตัว ผ้าละหมาด ผ้ารองละหมาด ข้าวสารอาหารแห้ง ของสด น้ำเปล่า โดยมีจุดที่รับที่สำนักงานกิ่งกาชาด อ.เบตง ส่งรถทหารจะลำเลียงนำข้าวของส่งไปยังมูโนะ

ส่วนการช่วยเหลือเยียวยา ล่าสุด นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า

กรณีเสียชีวิต ค่าจัดการศพ รายละ 50,000 บาท , เงินทุนเลี้ยงชีพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ครอบครัวละ 30,000 บาท , เงินทุนเลี้ยงชีพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตที่มีบุตรอายุไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์ จัดชุดเจ้าหน้าที่ช่างผู้นำในพื้นที่เจ้าหน้าที่อบต.ต่อลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลบ้านเรือนเสียหายจำนวนเจ็ดชุด อีกครอบครัวละ 50,000 บาท

กรณีบาดเจ็บ เงินทุนเลี้ยงชีพผู้บาดเจ็บสาหัส รายละ 30,000 บาท เงินทุนเลี้ยงชีพผู้บาดเจ็บทั่วไป รายละ 15,000 บาท

กรณีบ้านเรือนเสียหาย ค่าวัสดุในการก่อสร้าง/ซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย ตามความเสียหาย เท่าที่จ่ายจริง ไม่เกินหลังละ :เสียหายทั้งหลัง (เกิน 70%) 230,000 บาท
: เสียหายมาก (30% - 70%) 70,000 บาท
: เสียหายน้อย (น้อยกว่า 30%) 15,000 บาท
ค่าเครื่องอุปโภค และเครื่องใช้อื่น ๆ ที่จำเป็น (เฉพาะบ้านเรือนที่เสียหายทั้งหลัง และเสียหายมาก) ครัวเรือนละ 5,000 บาท

ส่วนเงินช่วยเหลือจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แยกเป็นกรณีบ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง จ่าย 49,700 บาท กรณีเสียหายบางส่วนประเมินตามสถานการณ์ และกรณีเสียชีวิต ช่วยเหลือรายละ 29,700 บาท ถ้าเป็นหัวหน้าครอบครัว จ่ายเพิ่มอีก 29,700 บาท

นางสาวรัชดา ต่อว่า สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกับจังหวัดนราธิวาส และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ ในวันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม 2566 ณ ตลาดมูโนะ ตาบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนเบื้องต้น

ขณะที่พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้เดินทางมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุบริเวณโกดังดอกไม้เพลิงระเบิด โดยมี พล.ต.ต.อนุรุธ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ได้นำชี้จุดเกิดเหตุและอธิบายถึงความรุนแรงของระเบิดที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะ 2 หลุมใหญ่ คิดรวมเป็นระเบิดหนักประมาณ 3,300 กิโลกรัม หรือ 3.3 ตัน ทำให้ตลาดมูโนะได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยเจ้าหน้าที่ได้กันพื้นที่จุดดังกล่าวให้ช่างขององค์การบริหารส่วนท้องถิ่นทำการประเมินเพื่อให้การช่วยเหลือ

นอกจากนี้แล้ว พล.ต.ท.นันทเดช ผบช.ภ.9 ยังได้เดินทางไปดู พ.ต.อ.นิยม สุวรรณคง ผกก.สืบสวนตำรวจภูธร จ.นราธิวาส ร.อ.สรชาติ ศาลารักษ์ ผบ.ร้อย ทพ.1004 และ ร.ท.อัครพัฒน์ อยู่รอบรียง รอง ผบ.ร้อยป้องกันชายแดนที่ 3 ได้ร่วมกันตรวจยึดดอกไม้เพลิง ซึ่งเป็นชนิดลูกบอล จำนวน 180 กระสอบ และดอกไม้เพลิงชนิดต่างๆอีก 22 ลัง ซึ่งมีน้ำหนักรวมกันประมาณ 900 กิโลกรัม ที่ถูกเก็บไว้บริเวณชั้น 2 ของอาคารพาณิชย์ 3 ห้อง ไม่มีเลขที่ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับอาคารพาณิชย์ 4 ห้อง ของนายสมปอง เจ้าของโกดังเก็บดอกไม้เพลิงที่เกิดระเบิด โดย 2 วัน เจ้าหน้าที่ทำการตรวจยึดดอกไม้เพลิงของนายสมปอง รวมจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 1,900 กิโลกรัม และเจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายไปเก็บไว้เพื่อตรวจสอบยังค่ายกัลยานิวัฒนาต่อไป

พล.ต.ท.นันทเดช กล่าวว่า สำหรับเจ้าของโกดังเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวแล้ว โดยเจ้าตัวนัดมาพรุ่งนี้ ถ้าไม่มาเราจะออกหมายจับ ส่วนกรณีดอกไม้เพลิงที่อยู่ในโกดังก็มีการคำนวณตรวจพิศุจน์ของเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดและกองพิสูจน์หลักฐาน ความรุนแรงของการระเบิดตีคราวๆไปความรุนแรงของระเบิดน้ำหนักมากกว่า 1,000 กิโลกรัมขึ้นไป ดอกไม้เพลิงในโกดังต้องมีการตรวจสอบถึงที่มาที่ไป กฎหมายระหว่างเส้นทางมีกฎหมายควบคุมตั้งแต่ขนส่งเก็บรักษาค้า เราตรวจสอบได้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบต้องใจเย็นๆ การเอามาเก็บต้องมีลูกค้าในประเทศและต่างประเทศ มันต้องมีเอกสารการนำเข้าการส่งออก การสร้างโกดังต้องได้รับการอนุญาต การก่อสร้างที่เก็บประทัดดอกไม้ไฟต้องมีลักษณะพิเศษกับการก่อสร้างทั่วไปมีกฏมีระเบียนชัดเจนได้สั่งตรวจสอบแล้วเช่นกัน เจ้าของโกดังเคยถูฏดำเนินคดีเกี่ยวกับการครอบครอง 5 หรือ 6 ปีที่แล้ว คือ ปี 59 เจ้าหน้าที่ตำรวจสั่งฟ้องไปแล้ว สำหรับการกัดตุนดอกไม้เพลิงจำนวนมากตรงนี้มีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ 5 กระทรวง เดี๋ยวก็มีการไล่ตรวจสอบทั้ง 5 กระทรวง ระหว่างนี้เราเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ในกรณีที่มีการเชื่อมโลหะภายในโกดังถือว่าเป็นการประมาทหรือไม่เราต้องมีการสอบสวนไม่อยากพูดไปมาแต่มีแนวโน้ม เพราะในโกดังมีวัตถุไวไฟ

แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ได้แสดงความห่วงใยประชาชนผู้ประสบเหตุและผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงบุคลากรเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ และได้มอบหมายให้ นายแพทย์ธิติพันธ์ ธานีรัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์ และนางสาวสุริ อุปมนต์ ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพจิตที่ 12 ส่งทีม MCATT (Mental Health Crisis Assessment and Treatment Team: MCATT) ของหน่วยงานสู่พื้นที่ดังกล่าว เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานดูแลประชาชนในพื้นที่ประสบภัยอย่างเต็มที่ทันที

ขณะที่เจ้าของโกดัง เบื้องต้นทราบว่ากำลังไปเที่ยวต่างประเทศ ตำรวจออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อหา เบื้องต้นประสานว่าจะเข้ามาวันพรุ่งนี้ (1ส.ค.66) หากไม่เข้าพบ ตำรวจจะออกหมายจับตามขั้นตอนของกฎหมาย

โดยเตรียมแจ้ง 3 ข้อหา 1.เป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดระเบิด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ และทรัพย์สินเสียหายเป็นจำนวนมาก 2.ความผิดในเรื่องของการครอบครองวัตถุจำพวกระเบิดเพลิง ประทัดและดอกไม้ไฟ 3.พื้นที่จังหวัดภาคใต้เป็นพื้นที่เฉพาะในเรื่องของความมั่นคงที่มีกฎหมายควบคุมในการจำหน่ายดอกไม้เพลิง

โดยพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า เตรียมตรวจสอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาก 5 หน่วยงานไม่ตรวจสอบ จะถูกแจ้งข้อหา มาตรา157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ขณะที่ในส่วนการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบโกดังพลุระเบิด จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย

กรณีบ้านเรือนได้รับความเสียหาย ค่าวัสดุในการก่อสร้าง ซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย ตามความเสียหายเท่าที่จ่ายจริง

กรณีบ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง ไม่เกินหลังละ 49,500 บาท

กรณีเสียชีวิต รายละ 29,700 บาท หากผู้เสียชีวิตเป็นผู้นำครอบครัว จะให้การช่วยเหลือเพิ่มอีกรายละ 29,700 บาท