สืบนครบาล รวบ "แฮม" หัวโจกแก๊งบุษราคัม ลวงให้รักก่อนหลอกเอารถ พบเหยื่อไม่ต่ำกว่า 15 ราย มูลค่าความเสียหายเกือบ 1 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล จับกุมตัว น.ส.เดือนเพ็ญ หรือ "แฮม" อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยาที่ 384/2566 ลงวันที่ 24 ก.ค. 66 ข้อหา "ร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่น" พบประวัติต้องโทษคดีอาญา 2 คดี 1. วันที่ 19 มี.ค. 66 ถูกดำเนินคดีในข้อหา "ร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่น" พื้นที่ สภ.แหลมฉบัง / 2. วันที่ 9 ก.พ. 66 ถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหา "ร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่น" พื้นที่ สภ.แหลมฉบัง

พฤติการณ์กล่าวคือ แก๊งบุษราคัม สุดยอดแก๊งต้มตุ๋นอันดับต้นของประเทศไทย กรรมวิธีการหลอกสุดแนบเนียน ยิ่งกว่าในละคร โดยแก๊งนี้มีแผนประทุษกรรมคือจะให้ สาวสวยรายหนึ่ง (ทราบภายหลังชื่อ น.ส.บุษราคัม) ตีสนิท "แสร้งรัก" กับเหล่าชายขี้เหงา และสานความสัมพันธ์จนกระทั่งมีความสนิทในระดับหนึ่งก่อนจะใช้ ลูกอ้อนขอให้เหล่าชายขี้เหงา "ใช้ชื่อทำสัญญาเช่าซื้อรถ" ให้ โดยจะอ้างว่าตนติดแบล็กลิสต์ ส่วนค่าเงินดาวน์และผ่อนชำระค่างวดตนจะรับผิดชอบเอง ซึ่งเหยื่อเห็นว่าเป็นเพียงแค่การใช้ชื่อทำสัญญา ไม่ได้เสียเงินใด ๆ ประกอบกับอาการตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัก ต่างหลงเชื่อดาวน์รถให้ และในวันนัดทำสัญญาเช่าซื้อรถ น.ส.บุษราคัม จะให้เพื่อนร่วมขบวนการอีก 3 คน มาสร้างสถานการณ์โดยทำทีแสดงเป็นญาติและช่วยกัน ต้มตุ๋นเหยื่อจนสุดท้ายเมื่อเหยื่อจ่ายเงินดาวน์รถเรียบร้อยแล้วทั้ง 4 คน ก็จะหายไปพร้อมกับรถที่พึ่งจะดาวน์ออกมาไปอย่างงง ๆ ทำให้สุดท้ายเหล่าชายขี้เหงาที่ตกเป็นเหยื่อต้องตกอยู่ในสภาพ “ผ่อนกุญแจ” เสียเงินไปฟรี ๆ ทุกเดือน โดยแก๊งนี้ออกอาละวาดในพื้นที่ ภาคตะวันออก , ภาคกลาง และภาคตะวันตก โดยมีผู้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งต้มตุ๋นนี้ไม่ต่ำกว่า 15 ราย

ล่าสุดในห้วงปี 2566 แก๊งนี้ได้ออกอาละวาดใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งมีผู้ตกเป็นเหยื่อกว่า 2 ราย โดยเหยื่อทั้งสองรายได้พบกับขบวนการต้มตุ๋นนี้ผ่านทางแอปพลิเคชันหาคู่ พูดคุยกันทำนองชู้สาวกับหญิงสาวซึ่งชื่อว่า น.ส.บุษราคัม จากนั้นได้ถูกต้มตุ๋นให้ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ กระบะ โตโยต้า รุ่นรีโว่ สี่ประตู สีขาว ราคา 905,607.08 บาท ซึ่งสุดท้ายก็ถูกขบวนการนี้ต้มตุ๋นและเชิดรถไปในวันทำสัญญาเช่าซื้อ โดยตอนแรกยังตกอยู่ในอาการงุนงงแต่เมื่อเริ่มได้สติ ผู้เสียหายเริ่มติดใจสงสัยจึงนำชื่อและสกุลของผู้ต้องหาไปสืบค้นทางอินเทอร์เน็ต จึงพบว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์กระทำผิดในลักษณะนี้หลายคดี การกระทำของผู้ต้องหากับพวกซึ่งมีลักษณะเป็นขบวนการ มีการแบ่งหน้าที่กันทำ สร้างเหตุการณ์ขึ้นมาให้ผู้เสียหายตายใจ จึงเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน และได้แจ้งเบาะแสมาทางเพจ “สืบนครบาล IDMB”

ซึ่งต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้ตรวจสอบแผนประทุษกรรมแล้วพบว่าแก๊งต้มตุ๋นแก๊งนี้ก่อเหตุมาอย่างโชกโชน มีรูปแบบการหลอกลวงที่แนบเนียน จึงได้ส่งชุด “สืบนครบาล” สืบสวนติดตามจนกระทั่งสืบทราบว่า น.ส.เดือนเพ็ญ อายุ 33 ปี เป็นหัวโจกของขบวนการ หรือคนคอยวางแผนในการปฏิบัติการให้กับแก๊งบุษราคัม ซึ่งต่อมาได้มีการออกหมายจับ น.ส.เดือนเพ็ญ ในเวลาต่อมา กระทั่งในวันที่ 31 ก.ค. 66 พล.ต.ต.ธีรเดชฯ นำกำลังชุดสืบนครบาลเข้าจับกุม น.ส.เดือนเพ็ญ ได้ในที่สุด โดยจับกุมได้ที่ 73/1 หมู่ที่ 4 ตำบลท่าชุมพล อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี โดยจับกุมได้ขณะที่กำลังแพ็คกระเป๋าเพื่อเตรียมหลบหนี

ในชั้นจับกุม น.ส.เดือนเพ็ญ จิตวิมลประเสริฐ ผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การ “วกไปวนมา” จับใจความไม่ได้โดยตีบทแตกโกหกหน้าตายอ้างว่า “ตนเองจบการศึกษาชั้น ปวช. จากโรงเรียนชื่อดังใน จ.ราชบุรี แต่ไม่ได้เรียนแต่เนื่องจากได้ตั้งครรภ์บุตรก่อน ปัจจุบันทำงานค้าขาย ในทางคดีนั้นตนไม่รู้เรื่องการลักรถของ น.ส.บุษราคัมฯ แต่อย่างใด และไม่รู้จักกันด้วย ส่วนเงินที่โอนกันไปมาระหว่างตนและบุษราคัม เป็นค่ายืมเงินจิปาถะทั่วไป ส่วนที่ไปเจอกับเหล่าเหยื่อในห้างนั้น น.ส.บุษราคัมฯ หลอกให้ตนเองไปเป็นเพื่อนโดยตนเองไม่ทราบเลยว่ามีการไปหลอกลวงคนอื่นๆ” หลังการจับกุมได้นำตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แหลมฉบัง ดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “จากข้อมูลของ น.ส.เดือนเพ็ญฯ ยังคงให้การวกวน ซึ่งเราคงยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การแต่อย่างใด จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนคนที่เคยตกเป็นเหยื่อหรือที่กำลังจะถูกแก๊งนี้หลอกลวง โปรดแจ้งเบาะแสมาที่เราทางเพจเฟสบุ๊ค สืบนครบาล IDMB เรามีเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง และแม้จะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ สงสว่าง ผบช.น.”