"ประภัตร" แจง บินพบ "ทักษิณ" ในฐานะเพื่อนสนิท เผยไทม์ไลน์กลับไทย บินเจ็ตส่วนตัวลงเครื่องไปศาล พร้อมติดคุกตามกระบวนการ ปัดคุยดีลการเมือง ย้ำสัมพันธ์ "พท.- ชทพ." ยังดี แนะให้จับตาการเมืองอะไรก็เกิดขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับการเจรจา
วันที่ 1 ส.ค. 2566 นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา ชี้แจงต่อกรณีที่เดินทางไปร่วมงานวันเกิดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ฮ่องกงช่วงปลายเดือนกรกฎาคมว่า ตนไปในฐานะเพื่อนเก่าที่มีความผูกพัน เมื่อถึงคราววันคล้ายวันเกิดนายทักษิณ ตนจึงไปเยี่ยมไปให้กำลังใจไม่ว่าอยู่ประเทศไหน ตนไปคนเดียวในฐานะเพื่อน ซึ่งนายทักษิณพูดถึงสถานการณ์ที่จะกลับมาเยี่ยมหลาน
ส่วนแนวทางการกลับบ้านนั้น นายทักษิณบอกว่า จะมาเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว และลงที่สนามบินดอนเมือง หลังจากนั้นไปศาล และหากจะไปเข้าคุกก็ยินดีปฏิบัติ
นายประภัตร กล่าวด้วยว่า การไปพบนายทักษิณไม่มีการพูดถึงดีลการเมือง มีแต่ย้ำความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคชาติไทยพัฒนาตั้งแต่อดีต ถือว่ามีความสัมพันธ์แนบแน่นในช่วงที่นายทักษิณ มีปัญหาทางการเมือง ได้มาพักผ่อนที่สุพรรณบุรี นายทักษิณยังเล่าว่า เคยถูกกล่าวหากับตนว่าขายชาติ หลังจากที่เชิญซาอุดิอาระเบียมาดูการทำนาที่บ้านควาย จ.สุพรรณบุรี เป็นการเล่าความหลังมากกว่าเพราะต่างคนต่างอายุเยอะแล้ว ส่วนเรื่องการเมืองนั้นในวันที่ 4 สิงหาคม จะรู้ว่าการเมืองเป็นอย่างไร
"ทุกวันนี้ ถามใคร ก็ตอบไม่ได้ เพราะไม่มีใครรู้ถึงความชัดเจนว่าใครจะรวมตัวเป็นรัฐบาลแม้แต่ผมยังตอบไม่ได้ เพราะไม่มีการประชุมพรรค จึงไม่ทราบว่านายวราวุธ ศิลปอาชาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา มีแนวทางอย่างไร"
ผู้สื่อข่าวถามว่า เจอคนจากพรรคอื่นไปคุยกับนายทักษิณด้วยหรือไม่ นายประภัตร กล่าวว่า ตนไม่เห็น เพราะเป็นการคุยในห้อง จึงไม่ทราบว่าใครนั่งห้องไหนบ้าง ตนฐานะเพื่อนเก่าพูดคุยกันถึง 2 ชั่วโมง
เมื่อถามว่า ได้มีการเชื้อเชิญร่วมงานทางการเมืองในอนาคตหรือไม่ นายประภัตร กล่าวว่า พรรคการเมืองทำงานรับใช้ประชาชนต่างต้องการร่วมรัฐบาลกันทุกพรรค แต่การรวมกันอย่างไรพรรคเล็ก อย่างพรรคชาติไทยพัฒนา ตอบไม่ได้เพราะไม่ใช่แกนนำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าพรรคชาติไทยพัฒนาจะเป็นร่วมรัฐบาลต่อไปใช่หรือไม่ นายประภัตร กล่าวว่า วันนี้ตนยังไม่ทราบว่าใครเป็นใครบ้าง เพราะตัวเลขจะปรากฏหลังการเลือกนายกฯ เป็นประเพณีทางการเมือง เมื่อใครพรรคไหนได้เป็นนายกฯ เขาจะเชิญพรรคอื่นๆ เข้าร่วมรัฐบาล ไม่มีใครที่ยกมือโดยไม่มีการเชื้อเชิญหรือจะยกมือโดยส่วนตัว ตนมองว่าไม่ได้ เพราะการเมืองต้องมีการเจรจา
เมื่อถามว่า ล่าสุดที่คุยกับพรรคเพื่อไทยสัญญาณทิศทางการเมืองเป็นไปในทิศทางบวกระดับใด นายประภัตร กล่าวว่า เป็นไปในทิศทางบวก พรรคชาติไทยพัฒนาเป็นพรรคเล็ก ไม่มีปัญหากับใคร ไม่มีศัตรู หรือเป็นอริกับใคร ส่วนจะเป็นพรรคเนื้อหอมหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่วันนี้กลิ่นตัวตนแรง รับแขกเยอะ
นายประภัตร ยังกล่าวด้วยว่า สูตร 8+2 ที่ออกมาจะเป็นไปได้หรือไม่ นั้น ตนมองว่า การเมืองอะไรเกิดขึ้นได้ทุกอย่าง จากประสบการณ์ที่มีมาการเมืองเป็นเรื่องการเจรจาตกลง เรื่องผลประโยชน์ว่าใครจะทำงานอะไรได้ ดังนั้น ไม่ต้องสนใจว่าสูตรนั้นจะมีหรือสูตรนั้นจะมา ซึ่งไม่มีใครรู้จริง เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม การโหวตนายกฯ วันที่ 4 สิงหาคม จะฉลุยหรือไม่ตนไม่แน่ใจ พรรคชาติไทยพัฒนาเป็นพรรคเล็ก แค่ 10 เสียง ดังนั้น ต้องฟังพรรคใหญ่ก่อนว่าตกลงกันอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า จุดยืนของพรรคชาติไทยพัฒนากับพรรคก้าวไกล ไปด้วยกันได้หรือไม่ นายประภัตร กล่าวว่า หัวหน้าพรรคพูดชัดเจนว่าไม่มีการแก้มาตรา 112 หากพรรคก้าวไกลยืนกรานว่าจะแก้ ปรับปรุง ปฏิรูปมาตรา 112 ชัดเจนว่าไปด้วยกันไม่ได้ ดังนั้นสูตรที่ว่า 8+2 คงเป็นไปไม่ได้
เมื่อถามถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง นำภาพนายประภัตรเดินทางไปฮ่องกงมาเปิดเผยต่อสาธารณะ ว่าเป็นการดีลลับทางการเมือง รู้สึกโกรธนายชูวิทย์ หรือไม่ นายประภัตร กล่าวว่า ไม่เคยโกรธเพราะตนไม่ได้ดูข่าว และไม่เห็นข่าวนั้น เพราะตามข่าวไม่ทัน จึงไม่ดูดีกว่า ทั้งนี้ตนกับนายชูวิทย์สนิทกันเขาเป็นเขยสุพรรณบุรี หลังสุดเจอกันเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว พูดคุยกันดี ไม่มีอะไร ไม่เคยโกรธ เนื่องจากชีวิตตนไม่เคยโกรธใครนอกจากโกรธตัวเองที่ไปไม่ทันเขา
เมื่อถามย้ำว่า ไปไม่ทันเขา หมายถึงไปฮ่องกงใช่หรือไม่ นายประภัตร กล่าวติดตลกว่า “ฮ่องกงไปก่อนเขา”