จากกรณีเกิดเหตุโกดังเก็บประทัดและดอกไม้ไฟระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ในพื้นที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส แรงระเบิดทำให้บ้านเรือนประชาชน และรถยนต์พังเสียหายจำนวนมาก เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 12 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 121 ราย บ้านเรือนเสียหายกว่า 300 หลังคาเรือน

ทีมข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนมูโนะ ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุ 300 เมตร  เสียหายหนักทั้งอาคารเรียน หอพักเด็ก บ้านพักครู  ฝ้าเพดานถล่ม กระจกแตก โครงสร้างบ้านพักครูพังทั้งหมดไม่สามารถซ่อมแซมได้  โดยมีอาคารเรียน หอพักเด็ก รวม 5 หลัง และบ้านพักครูอีก 7 หลัง

คาดการณ์มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 3 ล้านบาท โดยหลังจากนี้โรงเรียนจำเป็นต้องประกาศปิดโรงเรียนเรียนฉุกเฉิน เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคมนี้ เพื่อเก็บกวาดและซ่อมแซมอาคารเรียนให้ปลอดภัย

โดยจากการสอบถามนางโสรยา ผอ.โรงเรียนบ้านมูโนะ บอกว่า จากแรงระเบิดโรงเรียนได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทั้งอาคารเรียน ฝ้าเพดานถล่ม กระจกแตก โครงสร้างบ้านพักครูพังทั้งหมดไม่สามารถซ่อมแซมได้  ซึ่งโดยรอบมีเศษเหล็กเศษกระจกแตกกระจายเกลื่อนโรงเรียน  ซึ่งต้องใช้ผู้มีความชำนาญในการเข้ามาจัดเก็บ ทั้งนี้ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเคลียร์พื้นที่ให้

เหตุการณ์ครั้งนี้รุนแรงมากจนแทบจะรับไม่ไหวเพราะเป็นเหตุฉุกเฉินที่ไม่สามารถเตรียมแผนรับมือได้ครู นักเรียน ผู้ปกครองได้รับผลกระทบกันหมด ต่างกับเมื่อครั้งเกิดอุทกภัยที่แม้จะเป็นภาวะวิกฤตแต่เราสามารถวางแผนรับมือไว้ล่วงหน้าได้ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ายังไม่หมดกำลังใจและไม่ท้อยังต้องเป็นหลักให้ครูและนักเรียน

ส่วนอาคารเรียน ฝ้าเพดานถล่ม กระจกแตก โครงสร้างบ้านพักครูพังทั้งหมดไม่สามารถซ่อมแซมได้ คาดการณ์มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 3 ล้านบาท

โดยมีการเปิดบัญชี รายได้สถานศึกษาโรงเรียนบ้านมูโนะ เลขที่บัญชี 914-3-04320-8 ธนาคารกรุงไทย สาขานราธิวาส

ขณะเดียวกัน มีการเผยคลิปซึ่งเป็นภาพภายในโกดัง โดยพบมีการบรรยายเกี่ยวกับพลุ ที่มีหลายแบบ หลายขนาด แบตเตอรี่ 

วันนี้ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่จ.นราธิวาส  โดยเข้าเยี่ยมและให้กำลังใจ ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบที่ศูนย์อพยพชั่วคราว โดยมีการมอบความช่วยเหลือเบื้องต้น ทั้งเงินเยียวยาและอาหาร

โดยพลเอกอนุพงษ์ เปิดเผยว่าสถานการณ์ตอนนี้ มีตัวเลทางการผู้ประสบภัย จำนวน 1,935 คน รวม 427 ครัวเรือน เสียชีวิต 11 ราย รอพิสูจน์อัตลักษณ์ 2 ราย บาดเจ็บ 209 ราย กลับจากโรงพยาบาลแล้ว 199 ราย ยังรักษาตัวที่โรงพยาบาล 10 ราย สำหรับความเสียหายด้านอื่นๆ มีผู้ลงทะเบียนทั้งสิ้น 620 ราย 

ซึ่งมีทั้งบ้านเรือน โรงเรียน รถจักรยานยนต์ รถยนต์ ความช่วยเหลือในเบื้องต้นทางจังหวัดได้ทำการประกาศปิดพื้นที่ประสบสาธารณภัย และเหตุการณ์ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ด้านอัคคีภัยในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก มีการจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ ศูนย์พักพิงชั่วคราว

สำหรับแผนฟื้นฟูหลังเกิดเหตุทางจังหวัดจัดชุดสำรวจแบ่งออก เป็น 5 ชุด เพื่อความรวดเร็ว พร้อมเตรียมทหารช่าง ประกอบด้วย กองทัพบก 5 ชุด ทหารเรือ 2 ชุด ชุดช่าง อส. และประชาชนจิตอาสา นักเรียนอาชีวะ โดยขึ้นทะเบียนเตรียมพร้อมซ่อมแซมบ้านผู้ประสบภัยแล้ว โดยจะเร่งซ่อมบ้านที่เสียหายเล็กน้อย ให้กลับมาปกติโดยเร็ว 

ส่วนบ้านเสียหายหนัก จะต้องดูเป็นรายบ้านไป แต่เบื้องต้นทางจังหวัดได้ดำเนินการตามแผนแล้ว โดยส่งหน่วยทหารเข้าซ่อมบ้าน 6 หลัง จาก 427 หลัง ทัังนี้จากการประเมินความเสียหายที่อยู่อาศัย จะใช้วงเงินถึง 42 ล้านบาท 

"โดยตนได้สั่งการกรมโยธาธิการและผังเมืองให้ออกแบบการจัดรูปที่ดินในบริเวณหมู่บ้านมูโนะที่เกิดเหตุ  แต่ต้องถามความสมัครใจของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ หากชาวบ้านเห็นด้วย ก็จะให้ผังเมืองออกแบบพื้นที่เพื่อให้ทุกคนได้รับผลประโยชน์  แล้วเดินท่อประปาเสาไฟฟ้าและพื้นที่สาธารณะใหม่  ในส่วนแผนนี้ถ้าชาวบ้านเห็นด้วยก็จะสามารถจัดสร้างหมู่บ้านมูโนะใหม่ได้อย่างรวดเร็ว" พลเอกอนุพงษ์ ระบุ 

นอกจากนั้น พลเอกอนุพงษ์ ยังได้สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ปกครองทั่วประเทศว่าหากประชาชนพบเบาะแสว่ามีโกดังเก็บดอกไม้เพลิงในชุมชนให้สามารถแจ้งเบาะแสมาได้ทันทีหลังจากที่รับจ้างก็จะมีการตรวจสอบพื้นที่และดำเนินการต่อไป