หลังจากพรรค "เพื่อไทย" ประกาศแถลง แยกทาง ฉีก MOU ที่เคยทำร่วมกันกับพรรค "ก้าวไกล" โดยจะไม่มีพรรค "ก้าวไกล" ร่วมตั้งรัฐบาลด้วย ทำให้สื่อต่างชาติให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะพรรค "ก้าวไกล" ชนะเลือกตั้งแท้ ๆ แต่กลับโดนผลักไสให้เป็นฝ่ายค้าน
"ชาแนล-นิวส์-เอเซีย" ซึ่งเป็นเวบไซต์ข่าวของประเทศสิงคโปร์ ได้พาดหัวข่าวว่า "พรรคก้าวไกล ที่ชนะการเลือกตั้งไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตร 8 พรรคอีกต่อไป" "พรรคเพื่อไทย" ที่ก่อตั้งโดย อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร จะเสนอชื่อ นาย เศรษฐา ทวีสิน ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมีขึ้นในวันศุกร์นี้ (4 ส.ค.) และ "พรรคเพื่อไทย" ก็ได้หารือกับทาง "พรรคก้าวไกล" แล้วว่าจะเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล และเสนอชื่อ นาย เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี
ซึ่ง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถูกฝ่ายอนุรักษนิยม และ สว.ที่แต่งตั้งเข้ามาทำหน้าที่โดยทหาร ขัดขวางทุกวิถีทางในการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะพรรคก้าวไกลต้องการจะเข้ามาแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย ก็จะไม่สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112 แต่จะเน้นไปที่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจและการเมือง
ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว แกนนำพรรคเพื่อไทย อีกคน ได้กล่าวในการแถลงข่าวว่า พรรคเพื่อไทย ไม่มีทางเลือกจึงจำเป็นต้องแยกทาง กับพรรคก้าวไกล เพราะเผชิญกับการต่อต้านจากกลุ่มอนุรักษนิยมที่ยากจะเอาชนะได้
ทางด้าน ศาสตราจารย์ ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ จากสถาบันศึกษาความมั่นคงและนานาชาติแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้สัมภาษณ์กับ "ชาแนล-นิวส์-เอเซีย" ว่า พรรคก้าวไกล มีความเป็นได้ ที่จะถูกยุบพรรค ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น เราก็จะเห็นการประท้วงในประเทศไทย แต่ถ้า พรรคก้าไกล เดินหน้าเป็นฝ่ายค้าน และพรรคเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพลังประชารัฐ และพรรคอื่น ๆ ก็จะคล้ายกับการกลับมารวมตัวกันอีกครั้งของ "พรรคไทยรัก" ของ นาย ทักษิณ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว
ขณะที่ "รอยเตอร์" ได้พาดหัวข่าว ว่า "พรรคเพื่อไทยตั้งเป้าจัดตั้งรัฐบาล หลังถูกขัดขวางไม่ให้ตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคก้าวไกล ที่เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง" พรรคเพื่อไทย จะเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในรัฐสภาที่จะมีขึ้นในวันศุกร์นี้ (4 ส.ค.)
หลังจากที่พยายามผลักดันให้พรรคก้าวไกล ได้จัดตั้งรัฐบาล แต่กลับต้องเผชิญกับการต่อต้านจากกลุ่มอนุรักษนิยม และ สว. ซึ่งมีความตื่นตระหนกกับการนโยบายการปฏิรูปประเทศ ของพรรคก้าวไกลเป็นอย่างมาก
นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคก้าวไกล ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ ว่า "เขารู้สึกตกใจกับการตัดสินใจของพรรคเพื่อไทย ที่ประกาศแยกทางกับพรรคก้าวไกล แบบนี้ คล้ายกับว่า ทั้ง 2 พรรค เคยประกาศแต่งงานกันแล้ว แต่พอมาวันนี้ มันเหมือนเป็นการหย่าร้าง"
ขณะที่ผู้ประท้วงหลายร้อยคน ได้รวมกลุ่ม คาร์ม็อบ ทั้งรถยนต์ และรถมอเตอร์ไซค์ ขับไปที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยผู้ประท้วงหลายคน ตะโกนว่า "ยกเลิกมาตรา 112" แต่ก็มีผู้ประท้วงบางราย มียังความหวังว่า พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล จะยังคงเดินหน้าทำงานร่วมกันเพื่อประชาธิปไตย