จากกรณีสายไหมต้องรอด-เพจสำรองได้รับการร้องเรียนมีบ่อนแห่งหนึ่ง เปิดเล่นทั้งวันทั้งคืนพิกัดบ้านห้วยลึก อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดวันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปตามพิกัดที่ผู้ร้องเรียนแจ้งเอาไว้ ในพื้นที่บ้านห้วยลึก ต.โพธิ์ชัย อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู

ซึ่งในขณะที่ทีมข่าวกำลังเลี้ยวรถเข้าไปยังบ่อน จู่ๆรถกระบะสี่ประตูสีดำก็สวนทางออกมา โดยที่ท้ายรถกระบะคันดังกล่าวมีอุปกรณ์ คือเก้าอี้ และโต๊ะของบ่อนอยู่เต็มท้ายรถขับไปตามทาง มุ่งหน้าข้ามเขาภูพานทองไปยัง อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี

โดยทันทีที่รถกระบะขับเลี้ยวขวาตรงสี่แยก ผ่านหน้าป้อมตำรวจสายตรวจจราจรเวร สภ.หนองวัวซอ ซึ่งมี ร.ต.อ.ภูวนัย ใจเก่ง และ ส.ต.ท.ทฤษฎี พลภักดี รับผิดชอบการกวดขันจราจรอยู่ จึงได้ขี่รถตามเพื่อให้รถกระบะคันดังกล่าวจอดข้างทาง เนื่องจากอุปกรณ์ที่อยู่ท้ายรถ ผิดกฏจราจร เปิดท้ายกระบะและไม่มีสัญลักษณ์ธงแดงติดอยู่ตรงท้ายรถ ที่สำคัญตำรวจขอตรวจสอบ ใบขับขี่ ไม่มี บัตรประชาชนไม่มี และไม่มีเอกสารคู่มือรถ ทาง ส.ต.ท.ทฤษฎี จึงได้เขียนใบสั่งให้ไปเสียค่าปรับที่โรงพัก

โดยเมื่อทีมข่าวถามกับนางลำไย (นามสมมติ) อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถว่าป้าจะขนของบ่อนไปไหน นางลำไย ก็บอกว่า เจ้าของบ่อนเขาไม่มีรถกระบะ เขาก็เลยจ้างป้า 2,000 บาท บวกค่าน้ำมันอีก 1,000 บาทให้ขนของไปส่งที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ยืนยันป้าไม่รู้จักเจ้าของบ่อน บ่อนเปิดมานานหรือยังป้าก็ไม่รู้ เพราะป้าไม่เคยเข้าไปเล่น และเท่าที่รู้ ก่อนจะไปขนของให้เขา เขาแจ้งกับป้าแค่ว่านายไม่รับตั๋ว ก็เลยจ้างให้ป้าขับรถขนของไปส่งให้เท่านั้น

เทียบภาพสถานที่จริง กับในภาพร้องเรียน

จากนั้นเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ทางตำรวจชุดสืบสวนของ สภ.เมืองหนองบัวลำภู ก็ได้มีการนำกำลังไปยังบ้านที่ระบุเป็นบ่อน โดยทันทีที่ไปถึง ก็พบว่ามีชาวบ้านนั่งเล่นไฟ่กันอยู่ 4 คน ทางตำรวจจึงได้เข้าไปจับกุม และได้ถามกับคนเล่นว่าใครเป็นเจ้าของบ่อน มีตำรวจที่ไหนรับเงินพวกเจ้าหรือไม่ และได้นำตัวชาวบ้านทั้ง 4 คนไปขึ้นรถ โดยตำรวจให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่าคนที่เล่นทั้ง 4 คน มานั้งเล่นไพ่กันแก้เหงาในขณะที่มาเฝ้าคนป่วยที่บ้านหลังดังกล่าว

ซึ่งในระหว่างจับกุม ทีมข่าวได้สังเกตภายในบ้าน ปรากฎว่าเมื่อนำภาพที่ผู้ร้องเรียนมาเปรียบเทียบดูแล้ว เป็นสถานที่เดียวกัน โดย 1. ผนังบ้านสีฟ้าเหมือนกัน 2.ตำแหน่งไฟตรงกัน 3.วอลเปเปอร์ด้านหลังนักพนันสีเดียวกัน 4.แอร์ติดอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน 5.ตู้กับข้าวตั้งอยู่ตำแหน่งเดียวกัน

ส่วนโต๊ะที่มีผ้าคุมสีเขียว ตามภาพที่มีนักพนันล้อมวงเล่นพนันกันอยู่ วันนี้ที่ตำรวจไปจับกลายเป็นโต๊ะนั่งกินข้าวไปตั้งแทนที่เอาไว้แล้ว เนื่องจากทางบ่อนขนของออกไปก่อนที่ทีมข่าวไปถึง

ขณะเดียวกันวันนี้ ทีมข่าวได้ตรวจสอบบริเวณรอบๆบ้านดังกล่าว พบว่ามีพื้นที่ติดอยู่กับกำแพงวัด ซึ่งหากเข้าประตูวัดไป จะเป็นลานจอดรถอย่างดีสำหรับนักพนันที่เข้ามาใช้บริการ ซึ่งภาพจากมุมสูงที่ทีมข่าวนำโดรนขึ้นไปบินสำรวจ บ่อนหรือบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่กลางชุมชน โดยจะมีบ้านคนและสถานที่ราชการอยู่ติดๆกันตรงทางเข้าออกของหมู่บ้าน

ชาวบ้านบ่นเสียดายบ่อนย้าย ตอนบ่อนอยู่เศรษฐกิจดี

ซึ่งวันนี้ในขณะที่ทีมข่าวกำลังเดินสำรวจอยู่บริเวณภายในวัด จู่ๆก็มีนางเงาะ (นามสมมติ) อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้าน ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดในวัด แล้วก็ลงรถมาถามทีมข่าวว่าเขาเล่นกันหรือยัง ทีมข่าวก็เลยเดินไปถามว่าป้า มาทำอะไร

โดยนางเงาะ บอกว่า วันนี้ตั้งใจมาเล่นไพ่ป๊อกเด้ง แต่ไม่รู้ว่าบ่อนย้ายไปแล้ว ที่ผ่านมาถ้าป้าเข้ามาเล่น มาก็แทงตาละ 200 ได้ 1,000 - 2,000 ก็กลับบ้าน แต่บางวันก็เสีย ส่วนที่เขาไปลือกันว่าบ่อนนี้เปิดมา 2 ปีแล้ว ไม่เป็นความจริง เพราะเท่าที่ป้าเข้ามาเล่น เขาเพิ่งย้ายมาเปิดได้ประมาณ 10 วัน บางวันคนก็เยอะ เท่าที่นับๆดูคนเล่นมีประมาณ 50 - 60 คน ส่วนเฮียหวัง ป้าไม่ได้สนใจว่าเขาเป็นใคร

ชาวบ้านเห็นต่างเผยความในใจกับช่อง 8 เสียดายที่บ่อนย้ายไป ยันบ่อนสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านทำเศรษฐกิจฟื้นฟู และเป็นผลพลอยได้ให้พระมีรายได้วันละ 500 บาท

จากนั้นในระหว่างที่ทีมข่าวกำลังจะกลับ ก็มีชาวบ้านอีกหนึ่งคนขี่รถมาคุยด้วย ซึ่งชาวบ้านรายนี้ บอกกับทีมข่าวว่า เสียดายที่บ่อนย้ายไป ที่ผ่านมาในขณะที่บ่อนย้ายมาในหมู่บ้าน เศรษฐกิจในหมู่บ้านดีมาก ค้าขายอะไรก็ดีไปหมด ชาวบ้านเอาอะไรมาขายคนในบ่อนก็ซื้อหมด แถมยังให้ราคาดีกว่าขายตามบ้านอีก เช่นข้าวที่เคยขายจานละ 60 บาท เอามาขายที่บ่อนเขาก็ให้จานละ 100 บาท และหมอนวดที่นวดตามบ้าน ที่เคยได้ค่าจ้าง 200 - 300 มานวดที่บ่อนเขาก็เพิ่มให้เป็น 500 - 700 บาท ซึ่งบ่อนที่มาเปิดในหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านตาดำๆมีกินมีใช้ เป็นไปได้ก็อยากให้บ่อนกลับมาเปิดอีก