กระบะบรรทุกคนงานจับปลา ข้ามทางรถไฟคลองอุดม ใกล้เคียงสถานีรถไฟคลองอุดมชลจร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ถูกรถไฟบรรทุกสินค้าชน รถหมุนกระเด็นตกข้างทาง ตาย 8 ศพ บาดเจ็บ 3 ราย

วันที่ 4 ส.ค.66 เวลา 02.20 น. ร.ต.อ.ธีรวัต พรประสิทธิ์ รองสารวัตรเวร สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุมีขบวนรถไฟพุ่งชนรถยนต์กระบะทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เหตุเกิดขึ้นช่วงบริเวณจุดตัดทางข้ามทางรถไฟ ระหว่างสถานีหยุดรถไฟคลองอุดมชลจรมายังสถานีรถไฟเปรง พื้นที่รอยต่อ ม.6 และ ม.7 ต.คลองอุดมชลจร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุสีบรอนซ์ รุ่นดีแมกแบบตอนเดียวมีคอกกระบะสเตนเลสด้านท้าย หมายเลขทะเบียน 1ฒฆ-5942 กทม. ถูกขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าแบบหัวลากอุลตร้าแมนสีขาวแดง หมายเลขหัวรถจักร 5240 คันที่ 1 ที่กำลังลากตู้คอนเทนเนอร์จากสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง ลาดกระบัง (ICD) เพื่อไปส่งยังที่ท่าเทียบเรือแหลมฉบังมาจำนวน 31 ตู้รวมทั้งขบวน 32 โบกี้ พุ่งชนที่บริเวณด้านหน้าของตัวรถทางซ้ายและครูดไปตามคันตลอดแนวถึงด้านหลัง จนคอกสเตนเลสหลุดเปิดอ้าออกมาจากตัวรถ

บริเวณที่เกิดเหตุพบมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บนอนเรียงรายเกลื่อนไปตามแนวของเส้นทางรถไฟ ทางด้านขวาของรางจำนวน 3 ราย ทางด้านซ้ายจำนวน 7 ราย และที่กลางรางด้านท้ายของขบวนรถซึ่งจอดอยู่บนรางด้านซ้ายสุดจากทั้งหมด 3 รางห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 35 เมตร 1 ราย โดยผู้เสียชีวิตเป็นชาย 6 ราย หญิง 2 ราย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นขาย 3 ราย มีอาการสาหัส 1 ราย กระดูกท่อนแขนด้านซ้ายหักและขาขวาหัก ส่วนอีก 1 รายมีบาดแผลที่หน้าผาก และอีก 1 รายได้รับบาดเจ็บมีอาการฟกช้ำตามร่างกาย ถูกนำส่งไปยัง รพ.พุทธโสธร มั้งหมด

จากการสอบสวน นายวิชัย อยู่เล็ก อายุ 54 ปี ชาว ม.11 ต.ศีรษะจรเข้น้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ให้การว่าได้รับคนงานรับจ้างลากปลามาจากย่านวัดศรีวารีน้อยจำนวน 12 คน เพื่อมาลากปลายังที่บ่อเลี้ยงปลาของนายวิเชียร แสงทับสอน อายุ 58 ปี ในพื้นที่ ม. 5 ต.คลองอุดมชลจร ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุออกไปอีกประมาณ 5 กม.เศษ ซึ่งปกติจะพาคนงานมารับจ้างลากปลาที่บ่อนี้ปีละประมาณ 1 ครั้ง แต่เมื่อมาถึงยังที่เกิดเหตุมองไม่เห็นขบวนรถไฟ เนื่องจากระดับของรางรถไฟมีความสูงกว่าพื้นถนนทางรถยนต์มาก และสภาพแวดล้อมยังมืดสนิทด้วย จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น นายวิชัย ระบุ

หลังจากญาติของผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเดินทางมาถึงยังในที่เกิดเหตุ ต่างพากันส่งเสียงร้องไห้ระงม และพรางเรียกร้องหาชื่อและวิ่งไปดูว่าผู้เสียชีวิตรายใดเป็นญาติบ้าง โดยมีบางรายถึงกับเป็นลมหมดสติเมื่อมาถึงยังที่เกิดเหตุ โดยที่ตลอดแนวของเส้นทางรถไฟจากจุดเกิดเหตุไปยังจุดที่ขบวนรถหยุดอยู่กับที่ ระยะทางประมาณ 40 เมตรนั้น มีเศษชิ้นส่วนร่างกายของผู้เสียชีวิตตกกระจัดกระจายเกลื่อน มีบางรายกะโหลกศีรษะเปิดจนหลุดออกมาปลิวไปตามแนวของทาง รถไฟจนเป็นที่น่าสลดใจของชาวบ้านที่ออกมามุงดูในที่เกิดเหตุ

ขณะที่ นายสุรพัศ ประสพ อายุ 20 ปี ชาว ม.14 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ หนึ่งในผู้รอดชีวิตอย่างเฉียดฉิว เล่าถึงวินาทีระทึกว่า ขณะที่รถยนต์กระบะคันที่นั่งมากำลังจะขับข้ามรางรถไฟ ไปตนเองได้เห็นว่าขบวนรถไฟได้พุ่งเข้ามาใกล้จะถึงแล้วในระยะอีกเพียงไม่กี่เมตร แต่ได้ยินเสียงคนงานที่นั่งมาด้วยกันได้ร้องบอกคนขับรถไปว่าให้ไปเลยๆ แต่ตนมองว่าไม่น่าจะทันแล้วจึงได้กระโดดพุ่งลงไปจากตัวรถก่อนที่จะกลิ้งลงไปตามพื้นถนนของทางต่างระดับ ระหว่างทางรถไฟกับถนนรถยนต์ลงไปยังด้านล่าง

ซึ่งระหว่างนั้นได้หันกลับมามองดูรถคันที่นั่งมา จนพบว่าขับข้ามรางรถไฟไปไม่พ้นจริงๆ และเห็นเหตุการณ์ตลอดจนติดตา ซึ่งระหว่างที่จะกระโดดลงมาจากรถนั้น ได้ร้องบอกกับญาติที่นั่งมาด้วยว่าให้โดดลงแต่ญาตินั่งอยู่ในตะกร้าใส่ปลาจึงขยับตัวออกมาไม่ทัน ก่อนที่เขาจะมาเสียชีวิตไปในที่สุดกับเหตุการณ์นี้ ซึ่งช่วงที่รถยนต์กำลังจะขับข้ามไปนั้น ตนได้ยินเสียงหวีดรถไฟดังลั่นจำนวน 3 ครั้งก่อนหน้าแล้ว นายสุรพัศ กล่าว