สู้ความจนไม่ไหว พ่อ-ลูกเลือกจบชีวิตทั้งคู่ ไม่มีน้ำ-ไฟใช้ 3 ปี งัดสังกะสีไปขาย เพื่อหาเงินให้ลูกไปโรงเรียน พบเอกสารขอทุนแต่ยังไม่ได้เขียน
4 ส.ค. 66 กรณีมีคนไปพบศพนายไพบูลย์ หรือ แอ๊ด อายุ 31 ปี และด.ญ.มลชยา หรือ น้องข้าว อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป.4 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ผูกคอติดกับตัวบ้านลักษณะศพหันหน้าเข้าหากัน สภาพศพเริ่มเน่าเปื่อย คาดเสียชีวิตมาประมาณ 3 วัน
เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความสลดใจให้กับชาวบ้านและผู้ที่ทราบข่าวเป็นอย่างมาก หลังจากรู้สาเหตุว่าเกิดจากความยากจน ไม่มีเงินแม้จะให้ลูกไปโรงเรียน ไม่มีเพื่อนคู่ใจเพราะภรรยาหนีไปแต่งงานใหม่ ต้องรื้อสังกะสีหลังคาบ้านไปขายเอาเงินให้ลูกไปโรงเรียน ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปาใช้ เพราะถูกตัด ใช้ชีวิตอยู่ในความมืดนานกว่า 3 ปี
ด้านนางปด อายุ 38 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า หลังจากบ้านนายแอ๊ด ถูกตัดน้ำตัดไฟ รู้สึกสงสารเพราะไม่มีเงินไปจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ในฐานะที่เป็นเพื่อนบ้านและรู้สึกสงสารเด็ก จึงให้ต่อน้ำไปใช้ แต่ยังไม่ให้ต่อไฟไปใช้ได้เกรงว่าภาระในครอบครัวของตนจะยากลำบากอีก ส่วนสาเหตุการก่อเหตุของนายแอ๊ดครั้งนี้ ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นเพราะภรรยาหนีไปเอาสามีใหม่ ทิ้งลูกให้เลี้ยงคนเดียว และยังมีโรคประจำตัว หาเงินให้ลูกไปโรงเรียนไม่ได้
ส่วนตัวคาดว่าพ่อน่าจะทำเด็กก่อนเพราะเห็นเดินหน้าก้มหน้าไม่พูดจากับใคร โดยไม่เห็นน้องข้าวเดินตาม หรือมาเล่นบริเวณนี้ แล้วนายแอ๊ด ย้อนไปผูกคอตัวเองตายตาม
ความคืบหน้าล่าสุดเจ้าหน้าที่พบแบบฟอร์ม ใบขอทุนเรียนดีของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.)ที่ น้องข้าว ขอมาจากครู แต่ยังไม่ทันกรอกข้อมูลวางอยู่ภายในบ้าน นอกจากนี้ยังพบจดหมายลาตาย ซึ่งคาดว่านายแอ๊ด เป็นคนเขียนก่อนก่อเหตุ โดยเขียนข้อความว่า "มีคนคิดใหม่อยู่ไปอะไร เกิดแก่เจ็บตายก็เห็นแล้ว เห็นโลกมาหมดแล้ว ตายดีกว่า" พร้อมวาดภาพใบหน้าคน 2 คน ด้านท้ายของจดหมาย