จากกรณีเมื่อคืนวันที่ 30 ก.ค. 2566 นายสุขชัย อายุ 54 ปี รปภ.ปืนโหด ที่ก่อเหตุใช้ปืนพกสั้นลูกโม่ขนาด.38 ยิงใส่ร่าง นายวิชา อายุ 72ปี พี่เขยเสียชีวิต ที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา ก่อนจะขับรถจักรยานยนต์ออกจากที่เกิดเหตุ ใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิง นายพงศ์ธร อายุ 31 ปี รปภ.เพื่อนร่วมงานเสียชีวิต อยู่ด้านหลังที่ทำการหมวดทางหลวงละหาร ก่อนหลบหนีไป เหตุเกิดในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ

ล่าสุด นายสุขชัย ผู้ต้องหา ประสานช่อง8 เพื่อขอมอบตัวตำรวจ โดยนัดหมายให้มารับตัวที่สถานีขนส่งหมอชิต2 กรุงเทพฯ

โดยมี ร.ต.อ.เจริญ ชิณทิพย์ รอง.สว.สส. สภ.จัตุรัสหัวหน้าชุดจับกุม พร้อมด้วยพ.ต.อ.อาทิตย์ ฉัตรชัยรัตนเวช ผกก.สภ.จัตุรัส ได้นำหมายจับศาลจังหวัดชัยภูมิ มาประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ กรุงเทพฯ จำนวนหนึ่ง พร้อมอาวุธครบมือ ไปดักรอจับกุมตัวนาย นายสุขชัย รปภ.ปืนโหด รายนี้ที่สถานีขนส่งหมอชิต2 กรุงเทพฯ

ขณะที่รถเข้าจอดที่ชานชาลาที่ 20 พบว่านายสุขชัย ผู้ต้องหาตามหมายจับ กำลังเดินลงจากรถทัวร์โดยสารสายกรุงเทพฯ-เชียงราย เจ้าหน้าที่จึงแสดงตนเข้าจับกุม ก่อนจะนำตัวมาสอบสวนที่ สน.บางซื่อ

เบื้องต้นผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ก่อนจะนำตัวมาสอบสวนต่ออย่างละเอียดที่ สภ.บ้านค่าย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย


โดยก่อนหน้านั้น ผู้สื่อข่าวช่อง8 วิดีโอคอลคุยกับผู้ต้องหา ที่ประสานมอบตัวผ่านช่อง8 โดยบอกว่ากล้องไม่ค่อยดี ไม่ค่อยชัด และบอกว่าเต็มใจที่จะมอบตัว แต่ตอนนี้อยู่บนรถทัวร์

ทันทีที่ตำรวจคุมตัวไปถึง ก็ได้มีการพานายสุขชัย ไปชี้จุดตรงรั้วบ้านที่อยู่ติดกันกับบ้านพี่เขย จากนั้นตำรวจก็ได้คุมตัวนายสุขชัย ไปชี้ตรงหน้าต่างของบ้านที่มีการไปเคาะเรียกให้หลานเปิดประตูก่อนจะเข้าไปก่อเหตุ กระทั่งเมื่อทางตำรวจนำตัวเข้าไปชี้จุดในบ้าน ก็คือจุดที่นายวิชา นั่งอยู่ตรงโซฟา

โดยนายสุขชัย ให้การรับสารภาพว่าได้ชักอาวุธปืนที่เอวขึ้นมายืนยิงนายวิชา จำนวน 2 นัด ในขณะที่นายวิชา นั่งชี้หน้านายสุขชัย มาจากโซฟา โดยคับแค้นใจที่ตัวพุพองและบอกว่าเป็นโรคร้าย ซึ่งบรรยากาศในการชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก็มีญาติๆมายืนดูกันโดยไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้น

จากนั้นตำรวจได้นำตัวนายสุขชัย ชี้จุดทำแผนในจุดที่ 2 ที่หมวดการทางละหาร ในพื้นที่ตำบลละหาน จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นจุดที่สอง ที่นายสุขชัย เข้าไปยิงนายพงศ์ธร เสียชีวิต

โดยทันทีที่ไปถึง ทางตำรวจได้คุมตัวนายสุขชัย เดินไปชี้จุดจอดรถตรงข้างหมวดการทาง จากนั้นนายสุขชัย ก็ได้พาตำรวจไปชี้จุด ตรงหน้าประตูทางเข้าห้องนอนของนายพงศ์ธร โดยให้การว่า ก่อนจะก่อเหตุได้มีการเคาะประตูเรียกก่อน และอ้างว่า ลงมือก่อเหตุยิงนายพงศ์ธร หมดแม็กในขณะที่นายพงศ์ธร เปิดประตูวิ่งสวนออกมา จากนั้นเมื่อยิงเสร็จก็เดินไปขึ้นรถเพื่อขี่หลบหนีไปตามเส้นทาง โดยแค้นศพที่2 จะลางาน แต่เพื่อนโวยวาย

ต่อไปได้ไปจุดที่3 ซึ่งเป็นเส้นทางหนี ที่สำนักสงฆ์ซึ่งมีพระน้องชายอยู่

จากนั้น ไปจุดที่4 ที่ไร่อ้อย โดยตั้งใจจะฆ่าศพที่3 แต่เมื่อไปถึงไปถามคนในไร่อ้อย โดยการมอมเหล้า เพื่อถามหาคน แต่มาทราบว่าคนที่จะฆ่าเสียชีวิตไปแล้วก่อนหน้านี้

จากนั้นได้หลบหนีออกจากจังหวัดชัยภูมิ หนีไปที่จังหวัดเชียงราย ก่อนไปที่จ.ตาก และมามอบตัวที่กรุงเทพฯ

โดยนายสุขชัย ผู้ต้องหา เปิดใจกับช่อง8 ว่า โดยนายสุขชัย บอกว่า ชนวนเหตุที่ยิงพี่เขย เป็นความกดดันจากพี่เขยที่สะสมมานานแล้ว ซึ่งเรื่องที่เขาประจานว่าตนเองเป็นเอดส์ มันเป็นความจริงที่เก็บไว้ในใจ ส่วนเรื่องที่ดิน จากพฤติกรรมที่ถูกพี่เขย กลั่นแกล้งโดยการแอบตัดต้นไม้ เอายาฆ่าหญ้าไปใส่ในบ่อเลี้ยงปลา และเอายาเบื่อหนูมาใส่อาหารให้กิน เป็นเพราะว่าเขาพยายามจะฮุบที่ดินของตนเอง แต่ไม่ฟันธงว่าเขาทำจริงหรือไม่ ซึ่งในขณะที่ตัดสินใจเดินเข้าไปยิงพี่เขย จ่อยิงไป 2 นัดโดยไม่ได้พูดอะไรก่อน เนื่องจากพี่เขยชี้หน้าและทำท่าทางรังเกียจตนเอง ส่วนหลานที่วิ่งหนีออกไปจากบ้าน ยืนยันไม่เคยคิดจะฆ่าหลาน

ส่วนที่ไปยิงนายพงศ์ธร ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจไปฆ่า แต่จะไปฝากบอกหัวหน้าเรื่องที่จะไม่ได้ไปทำงาน ซึ่งในขณะที่นายพงศ์ธร เปิดประตูออกมา เขาขึ้นเสียงและโวยวายใส่ ก็เลยยิงออกไปหมดแม็กเพื่อเป็นการสั่งสอน ยอมรับเคยมีปัญหากับนายพงศ์ธร แต่ไม่ถึงขึ้นต้องฆ่าเขาให้ตาย และตอนหลบหนีไปก็ไม่รู้ว่ากระสุนที่ยิงออกไปจะทำให้นายพงศ์ธรตาย

จากนั้นก็ได้ขี่รถไปตามทาง มีการแวะนอนข้างทางบ้าง แต่นอนไม่ได้ ก็เลยขี่รถไปขอนอนที่กระท่อมของนายประนอม ซึ่งการไปนอนที่กระท่อมในพื้นที่อำเภอหนองบัวแดง ยอมรับว่าตั้งใจวางแผนมอมเหล้านายประนอม เจ้าของกระท่อม ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ ให้พูดความจริงๆเรื่องที่พ่อของตนเองเคยถูกโกงที่ดิน เพื่อตามฆ่าคนที่เขยโกงที่ดินของพ่อไป 700 ไร่ในอดีต แต่ปรากฏว่า สืบไปสืบมา 2 คนที่โกงที่ดินพ่อ เขาตายไปแล้ว ก็เลยล้มเลิกความคิดแล้วก็ขี่รถต่อไปที่จังหวัดเชียงราย

ส่วนเรื่องที่ต้องโทรศัพท์ไปหานักข่าวก่อนเข้ามอบตัว เพราะต้องการอธิบายให้นักข่าวฟังถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ยืนยันในการเข้ามอบตัว ตนเองมั่นใจตำรวจที่คุยกับกล้องในข่าวช่อง 8 จึงตัดสินใจโทรศัพท์ไปนัดเจอกันที่หมอชิต ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณตำรวจทั้งผู้กำกับและผู้กองเจริญ ที่ทำตามสัญญา และพากลับมาเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายอย่างปลอดภัย ขอโทษครอบครัวของผู้ตายทั้ง 2 ชีวิต ยอมรับผิดทุกอย่าง

มือฆ่า 2 ศพ ตกใจดูช่อง 8 รู้ถูกล่าหวั่นจับตายนั่งทัวร์มอบตัว ลั่นแค้นถูกด่าติดเอดส์