เผาศพสองพ่อลูกผูกคอตายหนีความจน ไร้เงาแม่แท้ๆมาเผาศพลูก พบน้องข้าวทำประกันให้แม่ได้รับผลประโยชน์1แสน

กรณีมีคนไปพบศพนายไพบูลย์ หรือ แอ๊ด อายุ 31 ปี และ ด.ญ.มลชยา หรือ น้องข้าว อายุ 10 ปี เสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่งในต.สาวเอ้ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ คาดเสียชีวิตมาประมาณ 3 วัน เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความสลดใจให้กับชาวบ้านอย่างมาก หลังจากรู้สาเหตุว่าเกิดจากความยากจน ไม่มีเงินแม้จะให้ลูกไปโรงเรียน ไม่มีเพื่อนคู่ใจเพราะภรรยาหนีไปแต่งงานใหม่ ต้องรื้อสังกะสีหลังคาบ้านไปขายเอาเงินให้ลูกไปโรงเรียน ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปาใช้ เพราะถูกตัด ใช้ชีวิตอยู่ในความมืดนานกว่า 3 ปี

ล่าสุด 5 ส.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศพสองพ่อลูกได้ทำการฌาปนกิจศพในวันนี้ที่วัดสาวเอ้ ต.หินเหล็กไฟ อ.คูเมือง ซึ่งบรรยากาศในงานศพมีชาวบ้านมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก มีนายโสภณ ซารัมย์ สส.ในพื้นที่เดินทางไปร่วมงานด้วย ท่ามกลางบรรยากาศที่สลดใจ โดยเฉพาะนางสำเนียง อายุ 60 ปี แม่ของนายไพบูลย์ หรือแอ๊ด ที่ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นางสำเนียง เปิดเผยว่า เท่าที่ทราบจากครูน้องข้าว ได้เขียนผู้รับผลประโยชน์ประกันอุบัติหตุในโรงเรียน ระบุชื่อนางวนาลี หรือเป้ แม่น้องข้าว ซึ่งจะได้รับเงินค่าประกันการเสียชีวิตจำนวนเงิน 100,000 บาท แต่ถึงเวลานี้ยังไม่เห็นหน้าแม่น้องข้าวเลย ทั้งยังปิดโทรศัพท์ บล็อกเฟซบุ๊กไม่สามารถติดต่อได้ จึงอยากจะฝากถึงลูกสะใภ้ ถ้าทราบข่าวให้กลับมาเดินเอกสารเพื่อรับผลประโยชน์ประกันชีวิต เพราะเงินดังกล่าวสามารถเอามาทำบุญให้ลูกตัวเองได้ ทุกอย่างให้อภัย

ด้านนางสมปอง ครูสอนวิชาภาษาไทย โรงเรียนบ้านสาวเอ้ กล่าวว่า ที่ผ่านมาระหว่างการเรียน เด็กมักจะขาดเรียนบ่อยครั้ง คาดว่าน่าจะมีปัญหาเรื่องการเงิน น้องข้าวจะเดินมาโรงเรียนตั้งแต่ตอนเช้า แทบทุกครั้งจะมีภารโรง หรือครูในโรงเรียนถามว่า เอาเงินมาโรงเรียนกี่บาท”ถ้าน้องบอกว่าเอามา 5 บาท ครูหรือภารโรง จะเอาเงินเพิ่มให้เป็น 10 บาท หรือ 20 บาทเป็นประจำ โชคดีที่โรงเรียนมีอาหารกลางวันทำให้น้องข้าว อิ่มท้องไปได้ แต่ปัญหาลึกๆยอมรับว่าไม่รู้จะมีมากแค่ไหน