ภายหลังมีกระแสข่าวลือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เตรียมกลับไทย 10 สิงหาคม 2566 อีกทั้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊งค์ ลูกสาวนายทักษิณ โพสต์ข้อความในวันคล้ายวันเกิดครบ 74 ปี ของพ่อ ระบุว่า ดีใจที่นายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดาจะกลับประเทศไทย โดยวันที่ 10 สิงหาคมนี้ เครื่องบินจะลง ที่สนามบินดอนเมือง

จากนั้นมีข่าวลืออีกครั้งว่า นายทักษิณ ไม่ได้เดินทางกลับประเทศไทยตามนัด 10 ส.ค.นี้แล้ว

ล่าสุด 5 ส.ค. 66 นายทักษิณ ชินวัตร ทวีตข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ Thaksin Shinawatra ว่า ผมขอเลื่อนวันเดินทางกลับไทยจากวันที่10 ส.ค.ไปอีกไม่เกิน 2 สัปดาห์ วันเวลาจะแจ้งอีกครั้ง หมอเรียกให้ไปตรวจร่างกายก่อนครับ

ขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวล่าสุดที่อินสตาแกรม ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊งค์ พบว่ามีการโพสต์สตอรี่ เป็นข้อความที่มีคนส่งมาให้กำลังใจเธอ และครอบครัว ซึ่งเจ้าตัวได้ระบุข้อความด้วยว่า "ขอบคุณจากใจ"

ด้านนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

"เลื่อนอีกแล้ว หมอจะตรวจร่างกาย ถึงขนาดเลื่อนกลับเลยหรือ? หาข้ออ้างที่ทำให้คนไทยเชื่อมากกว่านี้ดีกว่าไหม? เดี๋ยวมีใครไปบอกว่า “เพ้อเจ้อ” ทุกอย่างเลื่อน ทั้งศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อไทยประกาศข้ามขั้ว โหวตนายกฯ การเลื่อนกลับไทยของทักษิณจึงเชื่อมกันหมด อย่าไปให้คนไทยรอเก้อ คงมีจตุพรกับชูวิทย์ 2 คนเท่านั้นที่รู้ว่าท่านไม่กลับ คนที่เคยติดคุกจะรู้ว่าการก้าวเท้าเข้าคุกล้วนอยู่ที่ใจ การกลับหรือไม่กลับจึงอยู่ที่ใจ ไม่ใช่ไฟยังไม่เขียว ครั้งหน้าไม่ต้องบอกล่วงหน้าดีกว่า จะกลับก็กลับเลย"

ขณะที่นายสมชาย แสวงการ สว. โพสต์ข้อความ ระบุว่า "ท่าทางจะยาวไป....เสียดาย อุตส่าห์ล้าง...รอ

ด้านฟากฝั่งอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส. พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความว่า "อยากให้คุณทักษิณตรงไปตรงมาซักครั้งว่าข้อเท็จจริง คือรอตั้งรัฐบาลเสร็จก่อน ไม่ใช่หมอเรียกไปตรวจร่างกาย

ทีมข่าวช่อง8 สอบถาม นางอมรัตน์ กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเลื่อนกำหนดการเดินทางกลับประเทศไทย โดยให้เหตุผลว่าแพทย์เรียกตรวจร่างกายว่าเหตุผลของนายทักษิณเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น และหากนับดูก็เลื่อนมาเกือบ 20 ครั้งแล้ว ซึ่งทุกครั้งที่ประกาศว่าจะกลับประเทศไทยก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่มีวาระทางการเมือง ซึ่งนายทักษิณถือเป็นคีย์แมนคนสำคัญของพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคหรือคนอื่นๆที่ออกมาให้ข้อมูล

ดังนั้นนายทักษิณเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของพรรคเพื่อไทย จึงมีความสำคัญ เพราะขณะนี้เป็นหน้าประวัติศาสตร์การเมืองที่สำคัญที่ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ซึ่งหาก 8 พรรคที่เคยร่วมเซ็น MOU กัน จะกลับไปจับมือกันได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพรรคเพื่อไทย นั่นคือการตัดสินใจของนายทักษิณ

นางอมรัตน์ ยังระบุด้วยว่าหากในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่ายังสามารถเสนอชื่อนายกฯรัฐมนตรีซ้ำได้ โอกาสที่พรรคก้าวไกลจะยังสามารถจับมือกับพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลก็ยังเป็นไปได้ โดยยอมรับว่าแม้มีความบาดหมางใจในเรื่องการเบี้ยวเก้าอี้ประธานสภา และการฉีก MOU ทั้ง 2 ฉบับ แต่ส่วนตัวก็ไม่ได้ถือโกรธ เป็นเรื่องของการเสียความรู้สึกต่อกัน แต่นั่นไม่ได้สำคัญเท่าเจตจำนงของประชาชนที่อยากเห็นการเมืองไทยเดินหน้า และมีประชาธิปไตยที่ปกติ ซึ่งรัฐบาล 312 เสียงจาก 8 พรรคเดิมจะมีเสถียรภาพมาก ขอให้จับมือกันแน่นๆ ไม่ต้องรอให้ สว. หมดวาระหากยังจับมือกันได้ แรงกดดันทางสังคมก็จะไปอยู่ที่จระเข้ขวางคลองนั่นคือสว. ซึ่งตนคิดว่า ในระยะเวลาไม่กี่เดือนก็จะสามารถตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ จึงฝากเรื่องนี้ไปยังนายทักษิณในฐานะคีย์แมนของเพื่อไทยด้วย

ส่วนการเลื่อนเดินทางกลับของนายทักษิณ จะเกี่ยวข้องกับการที่พรรคเพื่อไทยยังดีลตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จหรือไม่นั้น นางอมรัตนระบุว่าตั้งแต่ที่พรรคเพื่อไทยมาบอกแยกทางกับพรรคก้าวไกลก็เข้าใจว่าน่าจะได้พูดคุยกับสว. และมีพรรคการเมืองอื่นๆตัดสินใจมาร่วมด้วยแล้ว เพื่อให้ได้เสียงเพียงพอที่จะโหวตนายก แต่เนื่องจากสถานการณ์การเมืองเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มีตัวแปรหลายอย่างในวันที่ฉีก MOU คิดว่าเพื่อไทยน่าจะมั่นใจแล้วว่าสามารถตั้งรัฐบาลเองได้ แต่หลังจากวันนั้นมาจนถึงวันนี้ ก็ทราบว่ามีสว. บางคนเริ่มงอแงพรรคภูมิใจไทยก็เริ่มตั้งเงื่อนไข จึงเป็นห่วงว่าพรรคเพื่อไทย อาจโดนต้อนเข้ามุม กลายเป็นเบี้ยรองบ่อนเขาหรือไม่