"วันชัย" มั่นใจโหวตนายกฯ รอบ 3 ผ่านฉลุย ไม่มีก้าวไกล-ไม่แก้ ม.112 เชื่อ สว.พร้อมยกมือหนุน
วันที่ 8 ส.ค. 2566 นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. กล่าวถึงแนวโน้มการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ของรัฐสภา ต่อการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ที่เชิญพรรคภูมิใจไทยร่วมรัฐบาล โดยมั่นใจว่า สว.จะลงมติให้ เนื่องจากไม่มีนโยบายการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 แล้ว และไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลแล้ว และหากพรรคเพื่อไทย สามารถรวมเสียงข้างมากของสภาผู้แทนราษฎรได้เกิน 250 เสียง ก็มั่นใจว่า สว.จะสนับสนุน เพราะ สว.ก็ต้องการให้เกิดรัฐบาลโดยเร็ว และหากล่าช้า สว.ก็จะได้รับผลกระทบด้วย เนื่องจาก ประชาชน ก็จะมองว่า สว.มีส่วนทำให้เกิดความล่าช้า เป็นอุปสรรคในการบริหารประเทศ และมั่นใจว่า ในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไป จะได้นายกรัฐมนตรีแน่นอน หากพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลไม่สะดุดขาตัวเอง หรือมีอุปสรรคจากข้อกฎหมาย
ส่วนกรณีที่มีผู้ร้องเรียนเรื่องคุณสมบัติของนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะการหลบเลี่ยงภาษีนั้น นายวันชัย เห็นว่า เป็นเรื่องการตรวจสอบขององค์กรที่เกี่ยวข้อง และในอนาคตก็เชื่อว่า พรรคการเมือง ก็ยังสามารถตรวจสอบได้ผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ที่มี สว.ออกมาตั้งแง่กันนั้น ก็ถือเป็นเรื่องส่วนบุคคล
นายวันชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่หากพรรคเพื่อไทย ไม่เชิญพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติร่วมรัฐบาลด้วย จะส่งผลต่อเสียงของ สว.ที่จะมาสนับสนุนด้วยหรือไม่ว่า สว.หลายกลุ่มได้พูดคุยกัน และได้ตัดประเด็นดังกล่าวออกไปแล้วด้วย เนื่องจาก สว.ไม่ได้เข้าข้างพรรคใด และต้องเข้าข้างประชาชน เพียงแต่ตัดนโยบายการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติออกไปแล้ว ก็มั่นใจว่า พรรคการเมืองที่สามารถรวมเสียงข้างมากได้ ก็จะเป็นหลักการที่ สว.จะยึดถือ และสนับสนุนรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ
นายวันชัย ยังกล่าวถึงกระแสข่าวที่ สว.จะตีตกชื่อนายเศรษฐา เพื่อให้สิทธิการจัดตั้งรัฐบาลเป็นของพรรคภูมิใจไทย และพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีว่า เป็นเพียงการวิเคราะห์ทางการเมืองของนักวิชาการ และยืนยันว่า สว.ไม่ได้ยึดเรื่องตัวบุคคลเป็นตัวตั้ง แต่ยึดหลักการเป็นสำคัญ เพราะไม่เช่นนั้น สว.ก็จะกลายเป็นตำบลกระสุนตก พร้อมย้ำว่า สว.อยากให้ประเทศมีนายดรัฐมนตรีโดยเร็ว
ส่วนการหาเสียงของพรรคเพื่อไทยที่ก่อนหน้านี้มีการโจมตีนโยบายทางการเมือง และแนวทางทางการเมืองของพรรคภูมิใจไทยนั้น นายวันชัย ระบุว่า ถือเป็นอีกเรื่องที่ต้องใช้ในการหาเสียง แต่ขณะนี้ เป็นเรื่องของการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชน เพราะถ้าประชาชนไม่ได้เลือกพรรคการเมืองใดแบบเสียงข้างมากเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ก็จะต้องประนีประนอมอำนาจกันของหลาย ๆ พรรคการเมือง เพื่อจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ลดการตั้งแง่จนประเทศสะดุด และหวังว่า พรรคการเมือง จะยึดประโยชน์การแก้ปัญหา และฟื้นเศรษฐกิจโดยเร็ว เพราะยิ่งมีรัฐบาลเร็ว ก็จะยิ่งทำให้ประเทศมีความเชื่อมั่น ไม่มัวแต่แบบซีกการเมือง เพราะการแบ่งข้างการเมือง ได้จบลงตั้งแต่ผลการเลือกตั้งปรากฏแล้ว เพราะทุกคนก็มาจากการเลือกตั้ง มีเกียรติ และศักดิ์ศรีที่มาจากประชาชนเหมือนกัน
นายวันชัย ยังยืนยันด้วยว่า ตนเองไม่ติดใจ หาก สส.พรรคก้าวไกลจะร่วมลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีให้กับพรรคเพื่อไทยด้วย เพราะถือเป็นเอกสิทธิ์ และความสวยงามของประชาธิปไตย และในอนาคต ก็ไม่มีทางรู้ได้ว่า จะมีการร่วมรัฐบาลในภายหลังหรือไม่ แต่ก็ไม่ได้กังวล และเชื่อว่า พรรคเพื่อไทย จะตระหนักปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ดี และทราบว่า ควรจะทำอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้ จึงมั่นใจว่า จะสามารถดำเนินการให้การจัดตั้งรัฐบาลบรรลุผลได้