ปัญหาระหว่างนายสมชาย ผู้ก่อเหตุฆ่ายกครัว 5 ศพ กับ น.ส.ชมพู่ อดีตภรรยา ทีมข่าวยังได้ข้อความแชตที่นายสมชาย ง้อขอคืนดี น.ส.ชมพู่ บอกว่า "ต่อไปนี้เราคงหมดวาสนาที่จะอยู่ด้วยกันแล้ว ยอมรับนะว่า..เสียดายมาก..." "คุณจะทรมานตัวเอง และผมไปถึงไหน เรามาแก้ไขด้วยกันนะที่รัก ผมนอนเซ็งอยู่บนห้อง" ขณะที่ชมพู่ตอบว่า "พี่รู้ไหม บางทีพู่ก็เหนื่อยจนไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว" ซึ่งนายสมชายก็ตอบว่า "ผมก็เหนื่อย แต่ผมอยากได้คำตอบที่ชัดเจนกว่านี้ที่รัก"
ขณะที่ นางสาวภาวนา อายุ 49 ปี อดีตภรรยาของนายสมชาย ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองก็ไม่อยากบอกว่าอดีตสามีของตนเองเป็นฝ่ายถูกหรือผิด เพราะเป็นคนไปก่อเหตุยิงกับเขายังไงก็ผิด ซึ่งคนที่ตายก็มีเด็ก ไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาแต่ก็ถูกยิงตาย แต่ชนวนเหตุเรื่องนี้เป็นเพราะนางสาวชมพู่ที่ทำให้เรื่องบานปลายแล้วมีการสูญเสียเกิดขึ้น ซึ่งตัวของนางสาวชมพู่ไปแอบมีคนอื่น ทั้งที่จดทะเบียนสมรสกับอดีตสามีของตนเองแล้ว หลังจากที่นายสมชายอดีตสามีของตนเองจับได้ ก็ได้ไปทำเรื่องขอหย่าทันที ก็เข้าใจว่าทุกวันนี้ไม่ได้มีทะเบียนสมรสร่วมกันแล้ว แต่ก็ยังมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน เพราะเนื่องจากยังมีภาระผูกพันไม่ว่าจะเป็นหนี้สินหรือค่าใช้จ่ายอื่น ซึ่งช่วงหลังอดีตสามีก็พยามติดตามหาตัวนางสาวชมพู่แต่ก็ติดต่อไม่ได้ จนกระทั่งเกิดเรื่องขึ้น เพราะอดีตสามีลั่นเอาไว้ทำนองว่า หากยังคงใช้ชีวิตมีความสุขแล้วปล่อยให้คนอื่นลำบาก ก็จะต้องลำบากและตกทุกข์กันบ้าง ซึ่งก็ไม่คิดว่าคำพูดดังกล่าวสามีจะตัดสินใจก่อเหตุยิงทิ้งทั้งหมดแบบนี้
นางสาวภาวนา ยังเปิดเผยอีกว่า ก่อนหน้านี้ตอนที่นายสมชายอดีตสามีจะไปคบหากับนางสาวชมพู่ ตนเองก็เคยเตือนเรื่องของความสัมพันธ์เกี่ยวกับนิสัยความเจ้าชู้ของนางสาวชมพู่แล้ว แต่ก็เข้าใจว่าเป็นการเลือกและการตัดสินใจของเจ้าตัวจึงไม่อยากยุ่งเกี่ยว ถอยห่างออกมา และปัจจุบันตัวเองก็มีครอบครัวใหม่แล้วจึงไม่อยากยุ่งอะไร แต่ก็เข้าใจว่าตัวของนางสาวชมพู่ก็เพิ่งเลิกรากับน้าชายของนายสมชายอดีตสามี และหลังจากที่น้าชายของนายสมชายติดคุก เจ้าตัวก็หันมาคบหากับนายสมชายแทน
สำหรับนางสาวชมพู่ มีลูกทั้งหมด 5 คน โดยปี 2539 มีสามีคนแรกคือ นายกวาง มีลูกด้วยกัน 3 คน ปี 2555 มีสามีคนที่สองคือ นายก้าว เป็นน้าของนายสมชาย มีลูกด้วยกัน 2 คน คือ เด็กที่ถูกยิงเสียชีวิต ส่วนนายสมชายเป็นสามีคนที่ 3 คบหากันตั้งแต่ปี 2560 ก่อนที่จะเลิกราและไปมีสามีคนใหม่เป็นชาว จ.ชลบุรี ในปี 2566
ด้านนางสาวรจนา ลูกสาวของนายสมชาย ได้เดินทางไปที่ สน.ทุ่งสองห้อง กับแม่ ให้การกับพนักงานสอบสวนและลงบันทึกประจำวันว่า หลังเกิดเหตุนางสาวชมพู่ได้กลับเข้าไปที่ห้องพักอีกตึกหนึ่ง พร้อมค้อนปอนด์ทุบกุญแจ และเข้าไปเอาของบางอย่างในห้อง ซึ่งตนไม่รู้ว่าคืออะไร โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ขณะที่นางสาวชมพู่เข้าไปที่ตึก จนมีการด่าทอกันขึ้น
ส่วนที่ศาลาประชาคม ชุมชนก้าวหน้า ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคอนโดที่เกิดเหตุ ได้มีการจัดเตรียมสถานที่ในการตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนายสมชาย คนก่อเหตุ นางทองคำ (นามสมมติ) ญาติของนายก้าว อดีตสามีคนที่ 2 ของชมพู่ เปิดเผยว่า สมัยที่ทั้งคู่คบหากันก็มีปัญหาเรื่องตำรวจตรวจค้นบ้านแล้วพบห่อยาเสพติดขนาดใหญ่ แต่ด้วยเหตุการณ์ในวันดังกล่าวมีการตรวจค้นบ้านช่วงเช้ามืด ตัวของนายก้าวนอนอยู่ด้วย ในวันนั้นตัวของนางสาวชมพู่ไม่รับว่ายาเสพติดห่อดังกล่าวเป็นของตัวเอง นายก้าวจึงรับแทนเพราะไม่อยากให้ลูกลำบาก ตอนนั้นลูกยังเด็กควรอยู่กับแม่ นายก้าวจึงรับโทษแทน ซึ่งถูกตัดสินจำคุก 20 ปี แต่มีการรับโทษจึงลดเหลือกึ่งหนึ่ง แล้วตอนนี้ก็ผ่านไปแล้ว 6 ปี ซึ่งเหลืออีกไม่กี่ปีก็คงจะกลับออกมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
และหลังจากที่นายก้าวติดคุกรับโทษแทน ผ่านไปไม่ถึง 10 วัน ก็มาคบหากับนายสมชาย ซึ่งก็มีศักดิ์เป็นหลานของนายก้าว ตนเองก็แปลกใจว่าคนเราทำไมถึงเริ่มต้นใหม่ได้เร็วขนาดนั้น ทั้งที่ผัวเพิ่งติดคุก แต่ก็เข้าใจอีกมุมว่าเป็นเรื่องส่วนตัว จึงปล่อยโอกาสให้ทั้งคู่คบหากันและย้ายออกจากชุมชนไปเช่าคอนโดอยู่
ขณะที่นางปวีณา หงสกุล เปิดเผยว่า หลังจากทางมูลนิธิได้รับการประสานจากนางสาววิระยา หรือชมพู่ ให้ช่วยเหลือในเรื่องของเงินการจัดงานศพ และเรื่องคดีความ ซึ่งทางมูลนิธิจะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายงานศพทั้งหมด โดยจะนำทั้ง 4 ศพ ตั้งไว้ที่ศาลา 6 วัดเกาะสุวรรณาราม รวมถึงช่วยประสานงานกับตำรวจนครบาลทุ่งสองห้องให้ช่วยเหลือทางคดีเพิ่มเติม
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางสาวเฟิ้องพัส อายุ 29 ปี แม่ค้าในตลาด ซึ่งเห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า นางโสภาซึ่งเป็นแม่ยายของนายสมชายนั่งขายลอตเตอรี่อยู่ในตลาด ก็เห็นนายสมชายเดินมาพร้อมกับถุงพลาสติกคาดว่าบรรจุปืน เดินตรงเข้าไปที่แผงลอตเตอรี่ ซึ่งก็เข้าใจว่าเป็นเรื่องปกติที่แม่ยายกับลูกเขยมาเจอกัน จึงไม่มีใครเอะใจ แต่จังหวะที่เดินเข้าประชิดได้ยินเสียงปืนดังขึ้น จากนั้นตัวของนายสมชายก็วิ่งหนีขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ออกไป
และก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ยิงกัน ในช่วงเช้านางโสภาได้มีปากเสียงทะเลาะกันที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ โดยเข้าใจว่าตัวของนายสมชายพยายามเข้าไปถามหาชมพู่ ซึ่งติดต่อไม่ได้ แต่ก็ไม่คิดว่าต่อมาจะถึงขั้นบุกมายิงในตอนเย็นโดยตนเองวิ่งเข้ามาดูก็พบว่า กระสุนยิงเข้ากลางหน้าผาก ซึ่งตอนนั้นเลือดไหลนองพื้น แต่โชคดีว่าหลังเกิดเหตุได้มีพยาบาลมาจ่ายตลาดพอดีจึงได้ช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น และมีการเรียกรถกู้ภัยเข้ามานำตัวส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายนางโสภาก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา