จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 22.54 น. วันที่ 8 ส.ค. 66 ตำรวจจ.หนองคาย ได้รับโทรศัพท์จากนางภูเวียง ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านว่าพบทารกน้อยห่อผ้าขนหนูมัดใส่ถุงดำถูกนำมาทิ้งหน้าบ้าน หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบในทันที พร้อมประสานหน่วยกู้ชีพองค์การบริหารส่วนตำบลหินโงม เข้ามาช่วยเหลือ
เมื่อเดินทางไปถึงบ้านของ นางภูเวียง อายุ 55 ปี เลขที่ 49/4 อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย พบทารกแรกเกิดเพศหญิงอยู่ในถุงดำ ห่อด้วยผ้าเช็ดตัวสีส้ม และพบเสื้อสีชมพูในถุง 1 ตัว โดยสภาพเด็กเริ่มมีอาการตัวเขียว ร.ต.ต.สมมาตร จึงได้ช่วยเหลือในเบื้องต้นจนเด็กมีเสียงร้อง ขณะเดียวกันหน่วยกู้ชีพ อบต.หินโงม ก็มาถึงและเข้าช่วยเหลือจนเด็กเริ่มส่งเสียงร้อง จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลหนองคาย
เจ้าของบ้านเปิดใจนาทีเจอทารกเพราะหมาเห่า
ล่าสุดวันนี้ (9 ส.ค.66) ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปยังบ้านของนางภูเวียง โดยลักษณะบ้านซึ่งเป็นจุดพบเด็กทารก เป็นทางผ่านที่เชื่อมมาจากถนนใหญ่และสามารถทะลุไปยังหมู่บ้านที่ติดกันได้ถึง 5 หมู่บ้าน ซึ่งวันนี้นางภูเวียง เจ้าของบ้านที่เป็นคนพบเด็ก ได้พาทีมข่าวเดินจำลองเหตุการณ์ให้ดูว่าเวลาประมาณ 22.00 - 23.00 น.ก่อนที่จะได้ยินเสียงหมาเห่านั่งอยู่ในบ้าน จากนั้นพอเดินออกไปที่หน้าประตูรั้ว ก็ยืนมองรอบๆหน้าบ้านว่าหมามันเห่าอะไร แต่ก็ไม่เห็นอะไร กระทั่งเห็นหมามันไปรุมเห่าถุงดำตรงกำแพงบ้าน ก็เลยเดินไปดูใกล้ๆ ปรากฎว่า ได้ยินเสียงเด็กร้องเบาๆคล้ายๆกับเสียงลูกแมว จึงเปิดปากถุงดำดูจึงพบเด็กทารกสภาพเพิ่งคลอดออกมาใหม่ๆ
ยอมรับว่าวินาทีที่พบตกใจมาก เคยเห็นแต่ในข่าวแต่ก็ตั้งสติให้ลูกสาวอุ้มเด็กเข้าไปในบ้าน ซึ่งเมื่ออุ้มเด็กไปวาง ก็พบว่าร่างกายของเด็กมีคราบไขน้ำคร่ำติดอยู่ทั่วร่างกาย โดยที่สะดือ ก็ยังพบรอยตัดใหม่ๆที่มีเลือดติดอยู่
ยืนยันตอนเจอเด็กทารกคนดังกล่าว ถุงดำที่ห่อตัวเด็กมา ไม่ได้ปิดปากถุงและการวางถุงที่พบ ก็เหมือนกับจงใจให้เด็กมีชีวิตรอด ซึ่งเด็กคนนี้โชคดีมากที่หมาเห่าช่วยให้ตนเองออกไปพบ เพราะถ้าไม่ได้ยินเสียงหมา ก็คงไม่มีใครไปพบเนื่องจากฝนกำลังจะตกหนัก
ซึ่งตั้งแต่เจอเด็กจนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่มีเบาะแสว่าใครนำเด็กมาวางเอาไว้ เพราะคนในหมู่บ้านไม่มีใครตั้งท้อง ที่สำคัญ ส่วนตัวเชื่อว่า พ่อแม่ของเด็กตั้งใจเจาะจงเอาเด็กมาวางไว้ที่หน้าบ้านของตนเอง และคาดว่าคนที่เอามาวางต้องรู้จักหรือรู้ประวัติของตนเองว่าเป็นคนรักเด็ก เนื่องจากตนเองมีอาชีพขายอาหารอยู่ในโรงเรียนมัธยมหิมโงมพิทยาคม โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากตามตัวพ่อแม่เด็กไม่ได้จริงๆ หากมีโอกาสก็อยากจะรับเด็กคนนี้มาเลี้ยง เนื่องจากส่วนตัวคิดว่าพ่อกับแม่เด็กตั้งใจเอาเด็กคนนี้มาให้ตนเอง แต่ก็ยังไม่รู้ว่าพ่อกับแม่เด็กเป็นใคร
เปิดวงจรปิดนาทีรถปริศนาผ่าน
ส่วนวงจรปิดของชาวบ้าน ที่อยู่เยื้องๆกับบ้านที่เจอเด็ก จะเห็นว่า ในช่วงเวลาที่เจอเด็ก มีรถจักรยานยนต์คันเดียวเท่านั้นที่ขี่ผ่านหน้ากล้องวงจรปิดไปในเวลา 22.22 น.
ด้านนายภาคิณ ภูวนนท์ อายุ 31 ปี เป็นหลานเจ้าของบ้าน บอกว่า ประมาณ 4 ทุ่ม ก่อนที่ป้าจะออกไปเจอเด็ก ตนเองขี่จักรยานออกมาจากบ้านเพื่อไปส่องกบ ยืนยันว่า ตอนที่เปิดประตูออกไป ยังไม่มีถุงดำมาวางหน้าบ้าน กระทั่งเมื่อไปถึงที่นา ได้ประมาณ 20 นาที ในระหว่างที่กำลังเดินส่องกบ เท่าที่เห็น มีรถจักยานยนต์ขี่ผ่านไปแค่คันเดียว แต่ก็เห็นไม่ชัดว่าเป็นรถอะไรสีอะไร เนื่องจากยืนอยู่ไกลจากถนน ยืนยันช่วงก่อนจะเจอเด็ก ไม่เห็นใครขี่รถผ่านหน้าบ้าน และช่วงเวลาที่เจอเด็กก็มีรถจักรยานยนต์คันนั้นคันเดียวที่ขี่ผ่านไปเท่านั้น