"จตุพร" ฉะ เพื่อไทยเดินเกมขอขมาก้าวไกล ขอ 150 เสียงโหวตนายกฯ ทั้งที่รู้ว่าไม่ได้ ซ่อนเกมแต่งตัวซบพรรค 2 ลุงร่วมรัฐบาล
ภายหลังแกนนำพรรคเพื่อไทย ขอโทษแกนนำพรรคก้าวไกล และขอคะแนนโหวตนายกรัฐมนตรี โดยที่พรรคก้าวไกลไม่ได้ร่วมรัฐบาล นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ไลฟ์เฟซบุ๊กรายการประเทศไทยต้องมาก่อน วานนี้ (9 ส.ค.66) โดยข้อความตอนหนึ่งระบุว่า แกนนำพรรคเพื่อไทยยกโขยงไปขอขมา ขอโทษพรรคก้าวไกล พร้อมขอให้มาโหวตนายกฯ เพื่อไทย ทั้งที่มีพฤติกรรมแข็งกร้าวสลัดทิ้ง แยกทางกับก้าวไกลมาแล้ว ดังนั้น พฤติกรรมเช่นนี้จึงเป็นเกมการเมืองเพื่อแต่งตัวไว้รอนำมาเป็นเหตุผลอ้างไปจับมือข้ามขั้วกับพรรค 2 ลุงตั้งรัฐบาล หวังว่าพรรคก้าวไกลควรจดจำบทเรียนถูกหลอกมาแล้ว และคงไม่โง่ไปทำซ้ำอีก
“หากก้าวไกลยังไม่มีคำตอบให้ แต่เพื่อไทยคงใช้เป็นเหตุผลอ้างไปคิดชั่วชวนพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กับ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โดยอ้างก้าวไกลไม่มาโหวตนายกฯ ให้ จึงไม่มีทางเลือกอื่นในการตั้งรัฐบาลที่มีเพื่อไทยเป็นแกนนำ วันนี้ ถ้าก้าวไกลอยู่นิ่งๆ ต่อให้มีงูเห่า รทสช.กับ พปชร.เลื้อยมาให้เพื่อไทยชุบเลี้ยง ก็คงจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้อยู่ดี โดยคาดว่าจะมีเสียงจาก สส. 349 เสียง แต่ยังขาดอีกประมาณ 25-26 เสียงจะถึง 376 เสียง จึงต้องขอจาก สว.มาช่วยโหวต แต่คงถูก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ล็อกอยู่ดี”
นายจตุพร วิเคราะห์ด้วยว่า เพื่อไทยไปขอขมา ทั้งที่รู้ว่าก้าวไกลให้ไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าให้ได้เท่ากับก้าวไกลเสียคน แต่เมื่อก้าวไกลไม่ให้จึงเป็นการแต่งตัวไปทำชั่วชวน พปชร.กับ รทสช.มาร่วมตั้งรัฐบาล แล้วทำหน้าเศร้าพูดว่า ไม่เคยคิดมาก่อนเลย ดังนั้น จึงขอร้องประชาชนอย่าเพิ่งเบื่อการตั้งรัฐบาล ต้องรอดูสันดานนักการเมืองกันยาวๆ”
ข้อความตอนหนึ่ง นายจตุพร ระบุว่า ก่อนหน้านี้ ประชาชนเรียกร้องให้เพื่อไทยกับก้าวไกล ดีกัน มาเริ่มต้น MOU เดิมบนความเสมอภาคต่อกัน ไม่ใช่เพื่อไทยมาขอขมาให้ก้าวไกลให้โหวตนายกฯ แบบฟรีเพื่อช่วยเพื่อไทย แล้วก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้านตามเดิม มันเป็นพฤติกรรมเอาทุกอย่างหมด ถ้าเพื่อไทยกับก้าวไกลจับมือกันให้เหนียวแน่น รอเวลา สว.หมดสิทธิโหวตนายกฯ หากมีช่องเจรจาก็หารือกันเพื่อหาทางออกบ้านเมือง ถ้าไม่มีช่องทางอื่นที่ดีแล้วต้องยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชนเลือกตั้งมาใหม่ สิ่งนี้เป็นช่องทางประชาธิปไตยที่ควรกระทำ ไม่ใช่เลือกตั้งแล้วจะต้องเป็นรัฐบาลอย่างเดียวเท่านั้น
นายจตุพร ระบุอีกว่า พรรคการเมืองนั้น ไม่มีอะไรดีกว่าการซื่อตรงกับประชาชนอีกแล้ว เมื่อประชาชนตัดสินใจมาอย่างไร และตัวเองยังให้คำมั่นสัญญากับประชาชนไว้ เมื่อตัวเองจะตระบัตสัตย์ สิ่งแรกต้องรู้สึกสงสารประชาชนก่อน ยิ่งประชาชนต่อสู้บาดเจ็บล้มตาย เดือดร้อนแสนสาหัส ตัวเองต้องไม่กล้าทำในสิ่งเหล่านี้ เมื่อประชาชนเชื่อและเลือกมาแล้ว เพื่อไทยจะอ้างมาใช้เป็นเหตุต้องตั้งรัฐบาลและได้นายกฯ แล้วในทางปฏิบัติจะไปอย่างไรต่อ ถ้าเป็นรัฐบาลจะอยู่ได้อย่างไร จะมีหน้าไปพบประชาชนได้อย่างไร ทุกปัญหามีทางออกอยู่แล้ว ต้องไม่อ้างเอาผลประโยชน์ประเทศมาอยู่ภายใต้ผลประโยชน์ส่วนตัว เมื่อแยกส่วนตัวกับประเทศได้ ก็จะมองเห็นทางออก