"เพื่อไทย" รับคุย "รทสช.-พปชร.-ปชป." ยึดแนวทางให้โหวตนายกฯ ยังเชิญร่วมรัฐบาล วอน "อย่าพูดทำนองว่าพรรคเพื่อไทยเล่นละคร" หลังไปคุยกับ"ก้าวไกล" มั่นใจคุย"ก้าวไกล" ไม่เป็นปัญหากับ สว. พร้อมโชว์เสียงสนับสนุนในการโหวตเลือกนายกฯ แบบม้วนเดียวจบ ลั่น เห็นโฉมหน้ารัฐบาลหลังโหวตนายกฯ พร้อมแหน็บ "ก้าวไกล" ถามประชาชนผ่านโซเชียลทำได้ แต่อย่าลืมคนไทยมี 67 ล้านคน

วันที่ 10 ส.ค. 2566 ภายหลังการแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาล ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้สอบถาม โดยเฉพาะประเด็นที่พรรคเพื่อไทยไปหารือกับพรรคก้าวไกลวานนี้ ว่านายวราวุธ ศิลปอาชา ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลกังวลหรือไม่ โดยนายวราวุธ กล่าวว่า การที่แต่ละพรรคได้แสดงเจตจำนงทำงานร่วมกันแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของทุกพรรค ที่ต้องทำงานช่วยกันหาเสียงโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ให้ได้ 376 ดังนั้น ก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรครวมถึงพรรคเพื่อไทย ในการแสวงหาเสียง เพื่อให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ในครั้งแรกเร็วสุด จึงไม่น่าเป็นปัญหา

เมื่อถามว่า ตอนนี้มี สว.ตั้งข้อสังเกตว่าการที่พรรคเพื่อไทยไปคุยกับพรรคก้าวไกล เหมือนเป็นการก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านแล้วจะดึงมาร่วมรัฐบาลในภายหลัง นายแพทย์​ชลน่าน กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลพยายามตั้งรัฐบาลด้วยกัน แต่ก็ไม่สำเร็จ ไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากรัฐสภา ส่วนเรื่องของ สว.ที่มีข้อกังวล เราก็ชี้แจงไปแล้วว่า ไม่มีพรรคก้าวไกลในพรรคร่วมรัฐบาล เราเดินสายเพื่อหาเสียงสนับสนุนในการโหวตนายกฯจากทุกคนทุกฝ่ายรวมถึงพรรคก้าวไกลด้วยเพื่อมาโหวตเลือกนายกไม่ใช่มาจะตั้งรัฐบาล เพราะเราติดล็อคจากวิกฤตรัฐธรรมนูญ จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายซึ่งถือเป็นเอกสิทธิ์

"การหารือกับพรรคก้าวไกลเมื่อวานนี้ เป็นเจตจำนง ว่าเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ที่เราจะมาปลดล็อกรัฐธรรมนูญ เราไม่ได้ไปเชิญชวน ก้าวไกลมาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และไม่มีพันธสัญญาว่าจะเอาพระก้าวไกลมาร่วมรัฐบาล เพราะฉะนั้นก็เชื่อว่าความกังวลของสว.บางส่วน เราสามารถจะตอบคำถามได้ ด้วยพฤติกรรมและพฤติการณ์ที่เราทำอยู่ในขณะนี้ เชื่อว่าจะได้รับความยอมรับ" นายแพทย์​ชลน่าน กล่าว

 

 

นายภูมิธรรม เวช​ย​ชัย​ รองหัวหน้า​พรรคเพื่อไทย กล่าวเสริมเรื่องนี้ว่า การไปหารือก้าวไกลเมื่อวานนี้ ไม่ใช่สิ่งผิดปกติที่พรรคเพื่อไทยดำเนินการ เพราะพรรคเพื่อไทยไปทุกพรรคทุกฝ่ายและทุกคน จึงเป็นการปฏิบัติที่ชัดเจนว่าเราต้องการสลายขั้วความขัดแย้ง ในทุกพรรคการเมือง ก่อนจะย้ำว่าไม่ได้ไปเชิญพรรคก้าวไกล มาร่วมรัฐบาลเพราะเราชัดเจนอยู่แล้ว ตั้งแต่แยกทางกัน พรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทยไปตั้งรัฐบาลใหม่ จึงเป็นเพียงการรับฟังความเห็น เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ เป็นการสร้างมิติทางการเมืองใหม่

และเราได้บอกกับพรรคก้าวไกลไปแล้ว ว่า อะไรที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน เราทำได้ทุกเรื่อง ยกเว้นการแก้ไขมาตรา 112 จากเรื่องนี้จึงไม่เชื่อว่า สส.และสว.จะมีปัญหา ดังนั้น ทุกพรรรที่เราหารือได้ให้ความไว้วางใจพรรคเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ว่ามีคุณสมบัติและมีคุณภาพพอ ที่จะนำการแก้ไขวิกฤตประเทศ

เมื่อถามว่า เหตุใดตอนนี้จึงไม่เชิญพรรคพลังประชารัฐหรือพรรคกรมไทยสร้างชาติมาร่วมรัฐบาล เพราะการันตีเสียงสว. ที่จะมาบวชหนุนนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยได้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราไม่ได้เรียนเชิญใครร่วมรัฐบาลชัดเจน แต่เป็นการเชิญมาให้ความไว้วางใจนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ทุกพรรคเราพูดคุยหมดแล้ว ส่วนข้อสรุปก็คงต้องให้เป็นไปตามกระบวนการและกรอบเวลา

เมื่อถามว่าการหารือกับพรรคก้าวไกลได้ข้อสรุปหรือไม่ว่าจะโหวตให้กับพรรคเพื่อไทย และหากพรรคก้าวไกลไม่โหวตให้ จะไปหารือกับพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคประชาธิปัตย์ ให้โหวตให้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราได้คุยกับพรรรก้าวไกลตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งเราได้บอกถึงสถานการณ์พิเศษและเจตจำนงของพรรคเพื่อไทย เช่นเดียวกับที่เราไปคุยกับพรรคอื่นๆ เพื่อให้ไปไตร่ตรองและคิด

"ยังมีเวลากว่าจะได้โหวตเรื่องนายกฯ ยังไม่ได้ต้องการคำตอบทันที แต่ถ้าพรรคไหนพร้อมเราก็พร้อมที่จะเปิดร่วมรัฐบาล เราไม่ได้คาดคั้นว่าจะต้องตอบ หรือถ้ายังไม่พร้อมก็จะไปพิสูจน์ให้เราเห็นในวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี" นายภูมิธรรม กล่าว

เมื่อถามว่าการพูดคุยของกับ 3 พรรคขั้วรัฐบาลเดิมก็เป็นเหมือน พรรคก้าวไกลใช่หรือไม่ ในการขอเสียงโหวตเลือกนายกฯ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ที่พูดนี่ชัดเจนแล้ว คือการบอกถึงสถานการณ์และการให้บทเลือกนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่า จะมีพรรคการเมืองเข้ามาร่วมรัฐบาลเพิ่มอีกหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่ายังรอได้ถึง วันที่ประธานรัฐสภานัดโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี วันนั้นจะได้เห็นความเป็นจริงว่า ใครร่วมโหวตนายกรัฐมนตรีได้ ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นนายกรัฐมนตรีก็จะเข้าสู่การร่วมรัฐบาลซึ่งวันนั้นก็จะเห็นว่าจะมีใครบ้าง

 

 

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวเสริมประเด็นนี้ว่า พรรคเพื่อไทยพยายามแสวงหาทางออกที่ดีที่สุด สำหรับประชาชนอะไรคือความต้องการส่วนใหญ่ที่เราจะทำได้เราก็พยายามเลือกทางนั้นเป็นอันดับแรกเช่นการไปเจรจากับพรรคการเมืองและสมาชิกวุฒิสภา เพื่อให้มาลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรี โดยไม่มีเงื่อนไขเรื่องร่วมรัฐบาล หาเงื่อนไขนี้สำเร็จก็สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้

"แต่ถ้าไม่ได้ หน้าที่ของพรรคเพื่อไทย คือการตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ เราจะทำให้มันคาราคาซังแบบนี้ไม่ได้ มันต้องมีทางเลือกอื่นที่เป็นไปได้ ซึ่งเราก็ต้องพยายามแสวงหา บนพื้นฐานของประโยชน์ประชาชนและประเทศชาติ ยอมรับว่า เพื่อไทยใช้ต้นทุนสูงมากในการทำงานครั้งนี้ เพราะที่ผ่านมาเรารณรงค์ให้แลนสไลด์ ได้เสียงมากกว่า 250 เสียงแต่เราทำไม่สำเร็จ เมื่อเราทำไม่สำเร็จเราต้องยอมรับและเมื่อสถานการณ์เป็นอย่างนี้ เราต้องมาบริหารจัดการสถานการณ์"นายแพทย์​ชลน่าน กล่าว

เมื่อถามว่าตัวเลข การจัดตั้งรัฐบาลอย่างเป็นทางการขณะนี้คือ 238 เสียง ยังถือว่าเป็นเสียงข้างน้อย หากพรรคประชาธิปัตย์ พรรคกรมไทยสร้างชาติและพรรคพลังประชารัฐ โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยให้ มีโอกาสจะดึงมาร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายชลน่าน กล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลจะมีเสถียรภาพต้องมีเสียงข้างมาก และการพูดคุยกับพรรคการเมืองเราสร้างความมั่นใจว่า เรามีเสียงข้างมากแล้ว ทุกพรรคจึงมาร่วมกับเราได้ ส่วนจะเป็นเสียงข้างมากเด็ดขาดได้ถึง 300 หรือไม่ กำลังอยู่ในกระบวนการทำงาน แต่วันนี้เราตั้งพื้นฐานคือเราต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เพื่อให้ประเทศกลับมา และต้องควบคุมไม่มีการแบ่งขั้วการแบ่งสี หรือสร้างวาทกรรม

นายภูมิธรรม กล่าวเสริมเรื่องของเสียงจัดตั้งรัฐบาล ว่า เราเริ่มต้นจาก 141 จากวันนั้น ถึงวันนี้ 238 เรายืนยันมาตลอดว่า เราเกินกึ่งหนึ่งแล้ว เรื่องนี้ ต้องทำให้ชัดเจนแต่เรามีเวลาถึงวันที่ 17 ที่รอให้ประธานรัฐสภาเรียกประชุม ตนยืนยันกับท่านว่า ก่อนถึงวันเลือกนายกฯ เราจะมีเสียงทั้งหมดให้ท่านได้เห็นว่า สามารถเลือกนายกฯจากเราแบบม้วนเดียวจบได้

เมื่อถามถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าตอนนี้เป็น"เพื่อไทยการละคร" นายแพทย์ชนน่านกล่าวว่า ต้องขอบคุณเสียงจากประชาชนเราเป็นองค์กรทางการเมือง เป็นตัวแทนจากประชาชน พี่น้องประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจ ส่วนจะถูกใจหรือไม่ถูกใจก็ขึ้นอยู่กับวิธีคิดฐานจิต เรายินดีที่จะรับมา อะไรที่เป็นประโยชน์ก็จะนำมาปรับใช้ แต่อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ก็ฟังและปล่อยผ่าน

นายภูมิธรรม กล่าวเสริมว่า เราปฏิเสธความคิดของคนที่เห็นแตกต่างไม่ได้ แต่สิ่งที่พรรคเพื่อไทยทำวันนี้เราต้องการสลายความขัดแย้งจริงๆ เรามีหน้าที่ทำงานและพิสูจน์ความจริงในการแก้ปัญหาประเทศ และความตั้งใจทำงานของพรรคเพื่อไทยจะเป็นบทสรุปในอนาคต ถ้าประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย เราก็พร้อมที่จะรับผิดชอบ

เมื่อถามว่าตอนนี้ สส. พรรคก้าวไกลได้สอบถามพี่น้องประชาชนในพื้นที่ผ่าน Social Media แล้วพบว่าประชาชนไม่ให้โหวตให้พรรคเพื่อไทย นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า เป็นช่องทางที่ดี เมื่อเป็นผู้แทนก็ต้องรับฟังความเห็นประชาชน ประกอบการตัดสินใจ แต่การฟังความเห็นเพียงส่วนใดส่วนหนึ่ง ใช้ประกอบการตัดสินใจก็ต้องคำนึงถึงพอสมควร เพราะประชาชนไทย 67 ล้านคน และในแต่ละพรรคการเมืองก็มีผู้สนับสนุนของตนเอง และตนก็เชื่อว่า มีคนอีกกลุ่มนึง ซึ่งเป็นกลุ่มค่อนข้างมาก ที่พร้อมจะพิจารณา ผู้สนับสนุนพรรคก็เป็นเสียงส่วนนึง ไม่เกินร้อยละ 30 เราก็รับฟัง ถ้าพรรคก้าวไกล มีข้อเสนออย่างไร ก็ตอบเรามา ถ้าไม่สามารถสนับสนุนได้ เราก็คงมีแนวทางเลือกอื่นๆในการทำงานต่อไป ไม่ได้ยึดติดและไม่ได้อ้างพรรคก้าวไกล

"อย่าไปพูดทำนองว่าพรรคเพื่อไทยเล่นละครแล้วเอามาเป็นข้ออ้างในการที่จะไปร่วมกับพรรคการเมืองอื่น นั่นคือสิ่งที่ทุกคนวิพากษ์วิจารณ์และแสดงความเห็นไป แต่สิ่งที่เราทำ เราทำในความเป็นจริง ผ่านการเสนอแนะไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการ ผู้มีประสบการณ์ทางการเมือง ซึ่งเราทำทุกช่องทาง หากไม่ทำก็จะถูกตำหนิ หากทำแล้วได้ผลหรือไม่ได้ผลก็นำมาประกอบการตัดสินใจ ที่จะเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล" นายแพทย์​ชลน่าน กล่าว