"ตรีชฎา " แนะ "ศิธา " ถอดวิญญาณสิงนักปั่น วันๆ คิดแต่เสี้ยมให้ "เพื่อไทย-ก้าวไกล" แตกคอ ไล่เรียนรู้การเมืองมิติใหม่ ‘รัฐบาล-ฝ่ายค้าน’ มุ่งแก้ปัญหาประชาชน สร้างประชาธิปไตย ไม่ต้องเป็นศัตรูกันให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา
นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ น.ต.ศิธา ธิวารี สมาชิกพรรคไทยสร้างไทย แสดงความเห็นผ่านโซเชียลมีเดีย ให้รอไปอีก 10 เดือนให้ สว. หมดวาระ แล้วค่อยจัดตั้งรัฐบาล ว่า พรรคเพื่อไทยมองสถานการณ์ต่างๆ ตามที่เกิดขึ้นจริง วิกฤตและปัญหาของประเทศ ตลอดเวลา 9 ปีภายใต้รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้นหนักหนาสาหัส พี่น้องประชาชนยากลำบากอย่างแสนสาหัส พรรคเพื่อไทยมีความหวังว่าหลังจากการตั้งรัฐบาลสำเร็จประเทศมีนายกรัฐมนตรีที่มีความรู้ความสามารถ ทำนโยบายเพื่อประชาชนแก้ปัญหาที่สั่งสมมา 9 ปี กระตุ้นเศรษฐกิจแก้ปัญหาปากท้องประชาชน คือ เป้าหมายใหญ่
นางสาว ตรีชฎา กล่าวว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยกำลังประสานกับพรรคการเมืองเพื่อให้ได้เสียง สส. เกิน 250 เสียง และจะหาเสียง สว.มาเพิ่มให้เพียงพอต่อการโหวตเลือก นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย การเดินหน้าฟอร์มรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย แม้จะไม่มีพรรคก้าวไกลมาร่วมด้วยก็ต้องพูดกันอย่างตรงไปตรงมาว่า บนกระดานการเมืองที่มีพรรคการเมืองต่างๆ และภายใต้เงื่อนไขที่รัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดไว้ ทำให้พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลไม่มีทางเลือกมากนัก ซึ่งเรื่องนี้เห็นได้ชัดเจนจากกรณีที่พรรคก้าวไกลได้พยายามเป็นแกนนำแล้ว แต่ก็ไม่สามารถหาเสียงสนับสนุน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีได้สำเร็จ ซึ่งก็ไม่ใช่ความผิดหรือความบกพร่องของพรรคเพื่อไทย ซึ่ง น.ต.ศิธา ก็ทราบดีว่าปัญหาอยู่ตรงไหนและอะไรคืออุปสรรค ดังนั้นจึงไม่เข้าใจเป็นอย่างยิ่งว่าเหตุใด น.ต.ศิธา พยายามทำเหมือนไม่เข้าใจเรื่องนี้และพยายามปั่นกระแสเพื่อกวนน้ำให้ขุ่นตลอดเวลา
รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคการเมืองแต่ละพรรคมีแนวทางของตัวเองในการแก้ไขอุปสรรคจากกติกาของรัฐธรรมนูญ มีการปรับตัว ยืดหยุ่นเมื่อเผชิญภาวะคับขันเมื่อถึงทางตัน ที่สำคัญพรรคเพื่อไทยเปิดใจกว้าง แต่ไม่เคยทิ้งหลักการในการแก้ปัญหาให้ประเทศชาติและประชาชน เพื่อให้ประเทศกลับคืนสู่ประชาธิปไตยอย่างเต็มใบ โดยเรามุ่งมั่นที่จะเดินหน้าไปสู่การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นประชาธิปไตย โดยจัดให้มีการออกเสียงประชามติ มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ มาดำเนินการ ซึ่งต้องทำให้สำเร็จ ทุกพรรคทุกฝ่ายต้องมาช่วยกันอย่างเต็มที่ ระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ทำไม่ได้เพราะถูกสกัดขัดขวาง ทุกอย่างต้องมีจุดเริ่มจึงจะไปสู่เป้าหมายได้สำเร็จ
นางสาวตรีชฎา กล่าวว่า การจับมือกับพรรคก้าวไกลดังที่ น.ต.ศิธา เรียกร้องต้องการนั้น พรรคเพื่อไทยไม่เคยมองว่าพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายตรงข้ามหรือเป็นศัตรูที่จะต้องหักโค่นทำลายกัน แม้แต่ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยไม่เคยหาเสียงโจมตีพรรคก้าวไกลเลยสักครั้ง เพราะไม่ใช่วิสัยของพรรคเพื่อไทย ขณะเดียวกันก็แปลกใจเหตุใด น.ต.ศิธา จึงพยายามอย่างมากที่จะทำให้พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล เป็นศัตรูกัน น.ต.ศิธา เอง ก็ทำงานการเมืองมานาน ควรเข้าใจว่าการเมืองระยะเปลี่ยนผ่านมีความยุ่งยากซับซ้อน มีปัจจัยต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้องจำนวนมากและมีความไม่แน่นอน แต่การเมืองในมิติใหม่ ไม่ว่าฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล บางเรื่องอาจต้องร่วมมือกัน เพราะมีเป้าหมายสำคัญคือการสร้างประชาธิปไตยและการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนกลับมากินดีอยู่ดี โดยไม่จำเป็นต้องทะเลาะกันให้ประชาชนผิดหวังหรือเสื่อมศรัทธา การเป็นมิตรที่ดีในทางการเมือง ร่วมกันพิทักษ์ประชาธิปไตย แก้ปัญหาให้ประชาชนให้ได้โดยเร็ว คือสิ่งที่พรรคเพื่อไทยและทุกพรรคควรคำนึงถึง
“การจะเดินไปสู่ประชาธิปไตย 100% นั้นแม้จะเป็นเรื่องยาก แต่พรรคเพื่อไทยมองว่าจะต้องทำให้สำเร็จ แม้จะเดินช้าแต่ก็ต้องค่อยๆ เดินไปข้างหน้า เราต้องทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ยึดติดอยู่กับอำนาจมานาน 9 ปีหลุดออกไปไปจากสมการทางการเมืองก่อน นั้นคือความสำเร็จในก้าวแรก ฝ่าฟันให้ผ่านพ้นจุดนี้ไปได้ให้ประเทศและประชาชนกลับคืนสู่ความสุขกินดีอยู่ดีบนเส้นทางประชาธิปไตย และสามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ได้ ส่วน น.ต.ศิธา ควรถอดวิญญาณสิงนักปั่น หันมาเสนอทางแก้ไขปัญหาให้ประชาชนและสร้างประชาธิปไตยได้แล้ว” รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว